“วรชัย” สวน “ธนาธร” ใช้แนวคิดก้าวไกลมาแนะรัฐบาล หลังไม่เห็นด้วยกู้ 5 แสนล้าน พร้อมถาม “ศรีสุวรรณ” ใช้อคติร้องเรียนหรือไม่ ด้าน “พร้อมพงศ์” ลั่น ดิจิทัลวอลเล็ตคือคำตอบใหม่ที่แก้ปัญหาเดิมๆ ได้

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 นายวรชัย เหมะ คณะที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาแนะนำรัฐบาลให้ใช้เงิน 500,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5 ด้าน ว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นนโยบายของแต่ละพรรค นายธนาธร เคยพูดว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะกระตุ้นเศษรฐกิจตามแนวทางนี้ ซึ่งต้องพิสูจน์กันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจใครจะสร้างพายุหมุนได้มากกว่ากัน ระหว่างแนวทางของพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทยที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อสร้างกำลังซื้อให้ประชาชนคลอบคลุมทั้งประเทศ 50 ล้านคน สนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประจายทั่วประเทศ 

นายวรชัย ระบุต่อไปว่า ภาคธุรกิจที่สร้างรายได้ให้คนระดับล่างถึงกลางคือธุรกิจเอสเอ็มอี การให้เงินประชาชน 50 ล้านคน เป็นการสร้างกำลังซื้อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีทั่วประเทศ นี่คือเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ส่วนที่ นายธนาธร พูดคือหลักคิดเมื่อพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลก็จะใช้วิธีการของเรา ซึ่งนายธนาธร ก็ไม่ได้คัดค้านนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพียงแต่เปรียบเทียบนโยบายว่าต่างกันอย่างไร ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำ วันนี้เป็นเวลาของพรรคเพื่อไทย แนวคิดของ นายธนาธร คงต้องรอวันที่พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลก่อนแล้วจะได้เปรียบเทียบกันว่าแบบไหนดีกว่า 

ขณะเดียวกัน นายวรชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออก พ.ร.บ.เงินกู้ อาจขัดรัฐธรรมนูญ เหตุไม่เข้าข่ายเรื่องเร่งด่วนนั้น นายวรชัย กล่าวว่า วันนี้ประเทศเหมือนคนไข้โคม่า จะรอให้ตายก่อน หรือถึงจะปั๊มหัวใจ ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเหตุสะสมมานาน รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งเพิ่มกำลังซื้อให้ประเทศขับเคลื่อนได้ 

...

พร้อมกันนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่า นายศรีสุวรรณ มักร้องพรรคเพื่อไทยเกือบทุกเรื่อง เป็นการใช้อคติในการร้องหรือไม่สังคมคงเป็นผู้ตอบได้ดีที่สุด เหมือนกับ ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรตรวจสอบแต่ถูกสังคมตั้งคำถามว่าทำงาน 2 มาตรฐานหรือไม่ เพราะพอเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่เป็นนโยบายหาเสียง ยังไม่ได้ลงมือทำก็ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา และดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานกรรมการ ทั้งที่ น.ส.สุภา ถูกสังคมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นคนที่มีทัศนคติเชิงลบกับพรรคเพื่อไทย และกำลังจะหมดวาระ ทำไมไม่ตั้งคนอื่นที่สามารถทำงานต่อเนื่องได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ 

“ผมถึงขอตั้งคำถามว่าการทำเช่นนี้ต้องการตรวจสอบอย่างจริงจังหรือมีนัยอะไร เพราะวิธีดำเนินการกับพรรคเพื่อไทย ช่างแตกต่างกับการดำเนินการกับรัฐบาลก่อน เช่น เรื่องนาฬิกายืมเพื่อน ที่ศาลปกครองสั่งให้เปิดข้อมูล แต่ ป.ป.ช.กลับนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” 

ทางด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายธนาธร ไม่เห็นด้วยกับการกู้ 500,000 ล้านบาท เพื่อมาใช้กับดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ไม่แปลกใจกับท่าทีเพราะ นายธนาธร มักจะทำงานคู่ขนานกับพรรคก้าวไกล ความคิดเห็นต่างเป็นเรื่องที่ดี จะไม่เห็นด้วยก็สามารถทำได้ หากสิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล

พร้อมกันนี้ขอแนะนำให้ นายธนาธร ออกไปลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชนที่กำลังเดือดร้อน และรอคอยเงินดิจิทัลวอลเล็ตดูบ้าง เผื่อจะได้เห็นปัญหา รับรู้ความเดือดร้อน อยากให้ นายธนาธร มองจากมุมอื่น อย่ามองแบบคนรวย และขอให้หยุดด้อยค่าเงินดิจิทัล การแก้ปัญหาเดิมๆ ด้วยวิธีเก่าๆ ก็จะได้ผลลัพธ์ในแบบเดิมๆ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือคำตอบใหม่ที่จะออกมาแก้ปัญหาเดิมๆ ได้.