ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ เปิดหน้างานเอาไว้หลายเรื่องหวังจะโชว์ฟอร์มสร้างผลงานให้ปรากฏ แต่เกิดปัญหาขัดแย้งภายใน แรงหนุน ส่งจึงอ่อนล้าไปตามระเบียบ

“ก้าวไกล” พรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ ไฟแรงที่วางสถานะตัวเองเอาไว้สูงกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ กลับต้องมาตายน้ำตื้นย้อนแย้งกับสิ่งที่แสดงออก

“คุกคาม” ทางเพศคือประเด็นที่สังคมรับไม่ได้

แต่ได้เกิดเหตุที่ 2 สส. “ก้าวไกล” ถูกตั้งข้อหาร้ายแรงและไม่สามารถแก้ไขได้อย่างที่ควรจะเป็น ทำให้เกิดความขัดแย้ง ภายในและบานออกสู่สังคมภายนอก

พูดง่ายๆว่าหมองกันไปทั้งพรรค!

พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบเลิก กอ.รมน.นี่แค่ตัวอย่างที่ “ก้าวไกล” หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดง หากสำเร็จคุยไปได้ 7 วันไม่จบ

แต่เมื่อเกิดปัญหาในพรรคอย่างนี้เอาตัวรอดก่อนเถอะ...อย่าไปหวังว่างานสำคัญๆ ที่ตั้งเป้าไว้จะผ่านฉลุยไปได้

“กอ.รมน.” ที่จริงๆแล้วน่าจะเป็นงานที่ง่ายสุด เพราะอย่างน้อยนักการเมืองที่ผ่านยุคสมัยเผด็จการครองเมือง ยุคต่อต้านคอมมิวนิสต์

ไม่มีใครชอบและต่อต้านมาตลอด

ทว่ารัฐบาล “เพื่อไทย” ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” กลับยืนท่าทีว่าไม่ยุบเด็ดขาด แต่จะยกระดับขยายบทบาทเพื่อพัฒนาในด้านอื่นๆด้วย

“กองทัพ” สบายใจอีกเปราะหนึ่ง มิหนำซ้ำยังได้บารมีเสริมขึ้นมาอีก ทำนองว่านายกฯเอาใจทหารจึงไม่กล้าแตะ

นี่ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจยิ่ง!

พูดถึงเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ แน่นอนว่ารัฐบาลยังไม่สามารถ สร้างจุดแข็งในด้านนี้ได้ คงเนื่องมาจากไม่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญนัก

...

ด้วยความจำเป็นเฉพาะหน้า จึงต้องอาศัย “ทหาร” ที่คุมสภาพโดยพื้นฐาน เอาไว้ทั้งหมด แม้กระทั่งใน 3 จังหวัดภาคใต้

“ก้าวไกล” คงผิดหวังไม่น้อย เพราะมีแนวทางแก้ไขปัญหาเอาไว้ด้วยชุดความคิดที่เตรียมเอาไว้แล้ว

เริ่มจากการยุบ กอ.รมน.ไล่ไปถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นแนวทางที่จะลดบทบาททหารให้เหลือน้อยที่สุด

แต่เมื่อเจอแบบนี้เข้าก็ไปไม่เป็น

ว่าถึงเรื่องความมั่นคงมีอยู่ประเด็นหนึ่ง ที่น่าจะเป็นปัญหาต่อไปคือ ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ยังค้างเติ่ง ยังไม่ตั้งใครแทนคนเก่าซึ่งเกษียณอายุราชการ

ใครก็นึกว่า “ลูกหม้อ” จะได้ขึ้นมาแทนที่

ปรากฏว่ายังคงอีหรอบเดิมคือเอา “คนนอก” มานั่งอีกแล้ว ไม่ต่างไปจากรัฐบาลก่อนๆ อย่างสมัย “บิ๊กตู่” ก็เอาทหารมาเป็นอย่างน้อยก็ 3 คน

รัฐบาล “เศรษฐา” ก็ตามรอยเดิมเพียงแต่เปลี่ยนจาก “ทหาร” มาเป็น “ตำรวจ”

“พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” รอง ผบ.ตร.อาวุโส อันดับ 1 แต่พลาดหวังกำลังจะถูกโยกไปนั่งเลขาธิการ สมช.แทน

เห็นพูดๆกันว่า เพราะเคยรับผิดชอบงาน ด้านความมั่นคงมาก่อนจึงเหมาะสม

แต่เท่าที่หาข้อมูลมามีระแคะระคายว่าแท้จริงแล้วก็เพื่อให้นายตำรวจคนสนิท “เพื่อไทย” ที่เคยดูแลภาคเหนือมาตลอด

จาก ผบช.ภ. 5 จนสู่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.

เพื่อให้เข้าไลน์ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.เตรียมเข้าฮอสลุ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.คนต่อไป เรื่องแบบนี้เคยมีปรากฏการณ์ให้เห็นมาแล้ว

จำชื่อ “พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” ได้จะต้องร้องอ๋อ

จำอีกชื่อ “พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข” อนาคต ผบ.ตร.คนใหม่

สงสารก็บรรดา “ลูกหม้อ”  สมช.ที่ถูกการเมืองปาดหน้าไปทุกที!

“ลิขิต จงสกุล”

คลิกอ่านคอลัมน์ "สับรางวันอาทิตย์" เพิ่มเติม