“เศรษฐา” เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจการค้าไทย-ซาอุดีอาระเบีย แฮปปี้ จีนไฟเขียวรับโคไทย ไม่ต้องผ่านด่านกักกันลาว แย้ม จัดซื้อเรือดำน้ำ ขอให้ได้ข้อสรุปก่อน แต่ถือว่าพัฒนาไปในทิศทางที่ดี
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์พูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อติดตามงานด้านต่างๆ ภายหลังเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับครั้ง 1 เมื่อวันที่ 20-21 ตุลาคม 2566 ที่ซาอุดีอาระเบีย ว่า เป็นการสอบถึงความคืบหน้าของตลาดซาอุดีอาระเบียที่เราไปฟื้นความสัมพันธ์มา หลังห่างหายไปหลายสิบปี เพราะตลาดซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดที่สำคัญ ซึ่งเราจะร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจการค้าทั้ง 2 ประเทศให้ไปให้ไกลยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ภายหลังการเข้าพบของ นายหาน จื้อเฉียง (Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย เพื่อหารือข้อราชการ นายเศรษฐา เผยว่า เป็นการเข้าพบหลังจากที่ก่อนหน้านี้ตนได้เดินทางไปประชุมที่กรุงปักกิ่ง มีการติดตามในหลายเรื่อง โดยเฉพาะด้านการเกษตร การส่งออกโค ซึ่งทางฝ่ายจีนรับพิจารณาจะให้ส่งโคออกไปขายโดยไม่ต้องผ่านด่านกักกันที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ก่อน ในแง่ของโค ที่เราต้องไม่เป็นโรคปากเท้าเปื่อย เป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการภายในก่อน ซึ่งฝ่ายจีนยินดีที่จะรับส่งโคโดยตรงจากประเทศไทย
...
ส่วนการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ ตนได้นำเรื่องนี้ไปเสนอให้กับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยท่านให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งเอกอัครราชทูตจีน ยังได้ถามขั้นตอนต่อไปจะทำอย่างไรจึงจะสามารถได้รับข้อมูลตรงนี้เพิ่มมากขึ้น ตนบอกไปว่าสัปดาห์หน้า หรือ 2 สัปดาห์หลังกลับจากการประชุมเอเปค (APEC) ที่เมืองซานฟรานซิสโก จะให้กระทรวงคมนาคม และบีโอไอ ไปอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด เพื่อฝ่ายจีนจะได้เข้าใจถึงนโยบายนี้ และจะกลับมาพูดคุยว่าอยากจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาหรือลงทุนหรือทำอะไรกับโครงการนี้ได้บ้าง
ขณะที่เรื่องการสร้างสะพานมิตรภาพ 2 ซึ่งจะเชื่อมระหว่าง จ.หนองคาย ไป สปป.ลาว เป็นสะพานรถไฟที่จะรองรับ การส่งออกของสินค้าที่จะไปจากประเทศไทยข้ามไปลาวและไปถึงจีนได้นั้น ตรงนี้พยายามที่จะพูดคุยกับทางจีนว่าให้เร่งมาพูดคุยกัน เพื่อที่จะดำเนินการพัฒนาก่อสร้างจุดนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีที่สุด
นอกจากนี้ เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ นายกรัฐมนตรีมีการสอบถามความก้าวหน้า ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกันมาถือว่ามีความก้าวหน้าที่ดี และจะต้องมีการพูดคุยต่อ เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดความสับสน เพราะเป็นประเด็นที่พี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจมาก ดังนั้น ขอให้รอข้อสรุปจะดีกว่าแล้วค่อยพูดกัน แต่ตอนนี้ถือว่าพัฒนาไปในทิศทางที่ดี.