“ปูอัด ไชยามพวาน” ชี้แจงกรณี 3 ผู้ร้อง ปมคุกคามทางเพศ โค้งตัวขอโทษหลายครั้ง ปัดตอบเคยล่วงละเมิดหรือไม่ รอ กกต.เรียกสอบ ยัน ไม่ทราบใครโหวตอุ้ม ลั่น หากผิดจริงพร้อมลาออก น้อมรับมติพรรค
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล เขตจอมทอง มีสื่อมวลชนมารอติดตามการแถลงข่าว ของ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด สส.กทม. พรรคก้าวไกล เพื่อชี้แจงกรณีคุกคามทางเพศ พร้อมเปิดเผยเอกสารหลักฐานที่เพิ่งได้รับจากพรรค โดยก่อนเริ่มการแถลง นายไชยามพวาน ได้เดินพบปะประชาชนในพื้นที่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มีการกอดชาวบ้านเพื่อขอกำลังใจ พร้อมกับหยุดโค้งคำนับ เพื่อแสดงถึงการขอโทษต่อพี่น้องประชาชน ก่อนเดินเข้ามาในศูนย์ประสานงานเพื่อเตรียมตัวแถลงข่าว
จากนั้นเวลา 13.40 น. นายไชยามพวาน แถลงชี้แจงว่า ได้รับเอกสารจากพรรคก้าวไกลที่เป็นมติ มีการขอให้แถลงยอมรับและขอโทษต่อสังคม ผู้เสียหาย 3 ราย อย่างจริงใจ ชดเชยเยียวยาทั้ง 3 ราย “วันนี้ตั้งใจจะมาชี้แจงและนำเสนอหลักฐานต่อสื่อมวลชนและประชาชน คำร้องของผู้ร้องส่งให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้ว หากเป็นการใช้อำนาจบีบบังคับจริง ก็ต้องขอโทษ และน้อมรับมติพรรค”
...
ผู้ร้องที่ 1 ระบุ มีการใช้อำนาจคุกตามทางเพศ เป็นผู้ช่วยที่ทำพื้นที่มา 2-3 ปี โดยแสดงหลักฐานเป็นแชตข้อความระหว่างกัน ยืนยันว่าดูแลเหมือนทีมงานคนอื่นๆ หลังชนะเลือกตั้ง ผู้ร้องส่งความแสดงความยินดีให้ตน โดย นายไชยามพวาน ถอนหายใจก่อนอ่านข้อความดังกล่าว ซึ่งเนื้อหาเป็นการแสดงความยินดีและขอทำงานร่วมกันต่อไป และเนกไทที่ใส่มาวันนี้ก็เป็นของที่คุณพ่อของผู้ร้องที่ 1 มอบให้ โดยมีการแจ้งคณะกรรมการไปแล้ว จากนั้น นายไชยามพวาน ลุกขึ้นโค้งขอโทษ และน้อมรับในมติพรรค
ผู้ร้องที่ 2 กรณีแอบถ่ายระหว่างผูกเนกไท เป็นการคุกคามทางเพศ นายไชยามพวาน ระบุว่า เป็นการจัดทำเพื่อเป็นคอนเทนต์ลงในโซเชียลมีเดีย ในแนวคิดเป็น สส.หน้าใหม่ที่ผูกเนกไทไม่เป็น คนที่คิดคอนเทนต์ก็คือผู้ร้อง อีกทั้งในวิดีโอคลิปมีการพูดคุยอยู่ตลอด ไม่ได้อยู่กันเพียงลำพัง มีผู้ช่วยคนอื่นอยู่ด้วย ส่วนเรื่องสลิปเงิน เป็นเงินเดือนตามบันทึกข้อตกลงร่วมงาน และให้เงินช่วยเหลือค่าครองชีพระหว่างว่างงาน แต่หากรูปดังกล่าวเป็นการคุกคามทางเพศตามที่คณะกรรมการของพรรควินิจฉัย และสลิปเงินดูเป็นการโอนเงินเพื่อกลบเกลื่อนความผิด ตนก็ต้องขอโทษจริงๆ และพร้อมน้อมรับในมติพรรค โดย นายไชยามพวาน ลุกขึ้นโค้งอีกครั้งขณะกล่าว
ผู้ร้องที่ 3 กรณีแตะตัว เป็นการคุกคามทางเพศ นายไชยามพวาน แจงว่า ทราบดีว่าตนเองมีการสัมผัสตัวคนอื่นค่อนข้างมากเวลาลงพื้นที่และเวลาอื่นๆ แต่ไม่มีเจตนาเพื่อเป้าประสงค์ทางเพศ และการสัมผัสตามคำร้องของผู้ร้อง เป็นการแตะตัวตามธรรมดาของเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้ก้าวล่วงในส่วนที่พึงประสงค์ หากตนผิดพลาดที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบถึงขอบเขตเหล่านี้ให้ดีพอ ว่าแต่ละคนอาจมีขอบเขตในการยอมรับที่แตกต่างกัน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้อีกครั้ง โดยลุกขึ้นโค้งอีกรอบก่อนกล่าวต่อไปว่า หากการกระทำของตนทำให้ผู้ร้องรู้สึกไม่สบายใจ และอาจจะไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร้องสะท้อนความรู้สึกไม่สบายใจนั้นออกมาได้มากพอ ต้องขออภัย และจะระมัดระวังตัวมากขึ้น
“ผมเคารพในการตัดสินใจของมติพรรค ฝากพี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนช่วยพิจารณาตามเอกสารหลักฐานตรงนี้ด้วยว่า เป็นพฤติกรรมคุกคามทางเพศและเข้าข่ายหรือไม่ และท้ายที่สุด ขอโทษเพื่อนๆ ที่ทำให้พรรควันนี้มีรอยร้าวขึ้นมา ขอโทษประชาชนในพื้นที่ ที่วันนี้เพิ่งจะเอาหลักฐานออกมาให้ทุกคนได้ทราบ และหลังจากเสร็จแถลงข่าวก็จะไปลงพื้นที่ต่อ ไปเดินหาประชาชนที่ผมรักทุกคน เพื่อแก้ปัญหาต่อไป”
หากผิดจริง พร้อมพิจารณาตัวลาออกจากพรรคก้าวไกล
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีหลายคนกดดันให้ลาออกจาก สส.พรรคก้าวไกล นายไชยามพวาน ตอบว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อถามต่อไปว่ามีการเทียบมาตรฐานกับกรณีเมาแล้วขับ ซึ่งมีการลาออก กรณีนี้รุนแรงกว่าทำไมถึงไม่ลาออก นายไชยามพวาน ยังตอบแบบเดิมว่า ขออนุญาตไม่ตอบเรื่องนี้ ส่วนคำถามว่าจะทนแรงเสียดทานได้ในพรรคและสังคมหรือไม่ นายไชยามพวาน ระบุว่า หลังจากนี้อยากให้ดูตามเอกสารที่ชี้แจงไป
ส่วนคำถามว่าที่ผ่านมาไม่เคยล่วงละเมิดหรือมีสัมพันธ์ใช่หรือไม่ นายไชยามพวาน ตอบว่า “เบื้องต้นขอให้ดูเอกสาร เรื่องอื่นให้เป็นในส่วนของ กกต. ที่กำลังจะเรียกปูอัดไปสอบ” โดย กกต.ยังไม่ได้เรียกไป ขณะที่คำถามว่าการแถลงในวันนี้เกิดขึ้นเพราะเป็นคำสั่งของพรรคก้าวไกล หรือตั้งใจจะแถลงอยู่แล้ว นายไชยามพวาน เผยว่า ทั้ง 2 ส่วน เมื่อถามอีกว่า วันนี้เป็นแถลงชี้แจง หรือขอโทษตามเงื่อนไขพรรค นายไชยามพวาน ตอบว่า ทั้ง 2 ประเด็น
ทางด้านคำถามว่าจะยังทำหน้าที่ สส.ต่อ ไม่ลาออกแน่นอนใช่หรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า “มีบางท่านไปร้องตนที่ กกต. ตอนนี้อยู่ในกระบวนการที่ กกต.จะเรียกไปสอบสวน ขอพูดอีกครั้งว่า เมื่อ กกต.ตรวจสอบ ถ้าผมบริสุทธิ์ ก็ต้องว่าไปตามบริสุทธิ์ แต่ถ้าผมผิดอย่างสิ้นข้อสงสัยในการพิจารณาตรงนี้ ผมก็พร้อมที่จะพิจารณาลาออกจากพรรคก้าวไกล”
ทั้งนี้ ไม่ขอพูดถึงเรื่องที่มีการกดดันให้ลาออก หลายคนทราบตนโตมาจากพรรคอนาคตใหม่ จนมาเป็นพรรคก้าวไกลและไม่ขอพูดหรือตอบในอีกหลายประเด็น สำหรับคำถามว่ามีการเยียวยาหรือขอโทษโดยตรงกับผู้เสียหายหรือยัง นายไชยามพวาน ระบุว่า กระบวนการนี้ได้คุยกับพรรค ซึ่งพรรคจะเป็นคนกลางเรียกคุยเรื่องเยียวยา เพราะพรรคจะต้องให้ตนชี้แจงด้วยว่าการเยียวยาเป็นอย่างไร เยียวยาไปแล้วเท่าไร
ไม่รู้ใครโหวตอุ้ม ยัน วันนี้ทำตามมติพรรค มาด้วยใจ
เมื่อถามต่อไปว่า วันนี้มีการขอโทษสื่อ ขอโทษประชาชน แล้วมีการขอโทษผู้เสียหายหรือยัง นายไชยามพวาน ตอบว่า “ก็ในส่วนนี้ วันนี้ที่มาแถลง” ขณะที่จากเอกสารที่มอบให้เป็นเพียงการพูดคุย จะต้องเยียวยาอย่างไร ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิด นายไชยามพวาน ระบุว่า อยู่ที่พรรคก้าวไกล นอกจากนี้ ประเด็นว่าหากการออกมาครั้งนี้ไม่แสดงถึงความจริงใจ จะถูกนำเข้าที่ประชุมเพื่อลงมติขับออกจากพรรคอีกครั้ง นายไชยามพวาน ตอบว่า ขอไม่พูดถึงเรื่องนี้ และตนก็ต้องพิสูจน์ต่อไป
“อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี ผมเป็นคนแบบนี้แหละครับ ท่านก็เห็นว่าประชาชนก็กอดเรา เราก็กอดเขา เราดูแลพี่น้องประชาชนแบบนี้จริงๆ ผมมองปัญหาของทุกคนเป็นปัญหาของผม เพราะฉะนั้นงาน 7 วันมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ในการกระทำ เลยเป็นการตั้งคำถามของพี่น้องประชาชนมากกว่าว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร และรอวันนี้ที่เขาอยากให้ผมมาพูดเรื่องนี้ เพราะหลายคนก็เป็นห่วงและตั้งคำถามในหลายๆ อย่าง”
ในส่วนของคำถามที่ผู้เสียหายอ้างว่ามีการมอมเหล้าและล่วงละเมิดทางเพศ นายไชยามพวาน ตอบกลับเพียงว่าให้ดูมีเอกสาร ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าเป็นข้อความแชตบางส่วนเท่านั้น โดย นายไชยามพวาน ระบุว่า ขอให้เอกสารเป็นตัวพูด เพราะหลังจากนี้ก็ต้องออกมาจาก กกต.หลังสอบสวนอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ นายไชยามพวาน ยืนยันว่า หลังวันโหวตไม่ได้ติดต่อใคร รู้เพียงมีกี่เสียง เพราะพรรคก้าวไกลมีเอกภาพทางความคิด ส่วนเพื่อน สส.ที่โหวตขับออก ก็มองว่าเป็นดุลยพินิจของเพื่อนๆ ไม่ขอตอบว่าเสียใจหรือไม่ ย้ำว่าพร้อมให้ความร่วมมือพรรค ขณะที่กรณีคำถาม ผู้เสียหายที่ 1 มีอาการทางจิตจากเหตุการณ์นี้ทราบหรือไม่ นายไชยามพวาน ตอบว่า ตนช่วยเหลือเพราะรู้จักกันมานาน เมื่อถามย้ำว่าช่วยอย่างไร ได้คำตอบว่า มีการมาเบิกค่ายา และหลังจากนี้จะใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง และจะยังอยู่ในหน้าสื่อ ถ้ามีพฤติกรรมนี้อีกก็พร้อมที่จะถูกขับออก
นายไชยามพวาน ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า ไม่มีก๊กก๊วน ไม่มี สส.ฝั่งธน ที่สนิทกันโหวตอุ้ม ไม่ทราบผลโหวต พรรคเราคือมุ้งใหญ่ ไม่มีมุ้งเล็ก เพราะพรรคก้าวไกลพยายามหล่อหลอมความหลากหลายเข้าร่วมกัน สุดท้ายหลังจากนี้ ถ้าพรรคมีมติขับออกก็ต้องน้อมรับ ยืนยันว่าวันนี้ทำตามมติพรรค มาด้วยใจ
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าอาจจะไปชี้แจงที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และรอการเรียกสอบจาก กกต. ส่วนหลักฐานที่ให้ไปขอให้ระมัดระวัง เพราะทุกคนคือคนสำคัญของตน ถ้าไม่เผยแพร่ได้ก็จะดีมาก พร้อมขอบคุณคนที่ติดตาม และกราบขออภัยที่ชี้แจงช้า ขออภัยที่สร้างปัญหามากมาย และน้อมรับมติพรรค ก่อนโค้งขอโทษ โดยเมื่อถามว่าเป็นบทเรียนราคาแพงหรือไม่ เจ้าตัวพยักหน้ารับ และออกจากจุดสัมภาษณ์ไปในเวลาประมาณ 14.07 น.
(ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์)