ปลัดมหาดไทย ชื่นชมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ บูรณาการภาคีเครือข่าย สนับสนุนเครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารีให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนแล้วกว่า 3.3 หมื่นราย แนะหากใครพบเห็นเด็กนักเรียนไม่มีเครื่องแบบสวมใส่ แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ได้

วันที่ 2 พ.ย. 2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งได้นิยามเป้าหมายการแก้ไขปัญหาความยากจน คือ ทุกปัญหาความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง โดยในช่วงที่ผ่านมาได้พบสภาพปัญหาด้านการศึกษาของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเรียนไม่มีเครื่องแบบชุดลูกเสือ เนตรนารี สวมใส่ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในชั้นเรียน กระทรวงมหาดไทยจึงได้ผนึกกำลังกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และภาคีเครือข่าย สำรวจครอบครัวของนักเรียนที่ประสบปัญหาขาดแคลนชุดลูกเสือ เนตรนารี และระดมสรรพกำลังจากทั้งภาคผู้นำศาสนา โดยได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์ และภาคเอกชนในพื้นที่ จัดหาชุดลูกเสือ เนตรนารีให้กับนักเรียนที่ครอบครัวมีฐานะยากจน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ เพื่อให้นักเรียนได้มีชุดลูกเสือสวมใส่ ทั้งนี้ จากผลการดำเนินการในภาพรวมพบว่า ในขณะนี้จังหวัดได้มีการบูรณาการภาคีเครือข่ายมอบชุดลูกเสือ เนตรนารี ให้แก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมายแล้ว จำนวน 33,166 ราย      

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับจังหวัดที่ได้มีการสำรวจข้อมูลครัวเรือนที่ประสบปัญหาไม่มีเครื่องแบบลูกเสือและเนตรนารีให้บุตรหลานได้สวมใส่เพื่อเรียนวิชาลูกเสือ และดำเนินการส่งมอบชุดลูกเสือให้กับครอบครัวนักเรียนครบถ้วนแล้ว 28 จังหวัด โดย 5 อันดับแรก คือ 1) จังหวัดสมุทรปราการ 5,003 ราย 2) จังหวัดนครสวรรค์ 1,835 ราย 3) จังหวัดกำแพงเพชร 792 ราย 4) จังหวัดลพบุรี 792 ราย และ 5) จังหวัดนครราชสีมา 713 ราย และขณะนี้อีก 48 จังหวัด อยู่ระหว่างส่งมอบชุดเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี และดำเนินการช่วยเหลือเพื่อให้เด็กนักเรียน เยาวชน ลูกหลานของเราได้มีชุดลูกเสือ เนตรนารี ใช้เรียนรู้ทักษะชีวิตในระดับพื้นฐาน เช่น เรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ สามัคคี เสียสละ จิตอาสา การทำงานเป็นทีม ความรักชาติรักสถาบัน ศาสนพิธี การพูดรวมถึงภาวะผู้นำ ไปจนถึงทักษะชีวิตในระดับ Advance เช่น การปรุงอาหาร การปฐมพยาบาล การเข้าเฝือกเบื้องต้น การเอาตัวรอดในภาวะวิกฤติ และอีกสารพัดทักษะชีวิต ที่จะเป็นประโยชน์แก่ตัวเด็กนักเรียน รวมถึงสังคมและประเทศชาติ 

...

“เรื่องใหญ่ที่สำคัญที่สุด คือ “ผู้ใหญ่ทั้งหลายต้องช่วยกันในการที่จะช่วยเสาะแสวงหาข้อมูล” และสร้างการรับรู้ไปยังครูบาอาจารย์ว่า หากพบว่ามีลูกศิษย์ที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ขอให้ได้แจ้งขอรับการสนับสนุนมายังท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายอำเภอ ท่านนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นเด็กนักเรียนไม่มีเครื่องแบบสวมใส่เรียนหนังสือ หรือเรียนวิชาลูกเสือ สามารถแจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ได้อีกช่องทางหนึ่ง เพื่อร่วมด้วยช่วยกันแจ้งให้ฝ่ายบ้านเมืองได้มีข้อมูลและนำไปสู่การบูรณาการให้ความช่วยเหลือ และร่วมกันสร้างคนให้มี passion มีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย และเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติอย่างยั่งยืนสืบไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว