โฆษกกระทรวงต่างประเทศ เผย ยอดคนไทยขอกลับประเทศล่าสุด 3,862 คน ข่าวดี กองทัพอากาศเตรียมส่งเครื่องบิน Airbus A340 ไปถึงเทลอาวีฟ อิสราเอล 15 ต.ค.นี้ รับกลับได้อีก 140 คน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2566 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเป็นครั้งที่ 2 ของวัน ถึงความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบของกลุ่มฮามาสและอิสราเอล หลังการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ประชุมเตรียมความพร้อมรับคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศไทย ว่า รับทราบพัฒนาการในพื้นที่จากเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังคล้ายคลึงกับในการแถลงรอบเช้า
สำหรับจำนวนคนไทยผู้เสียชีวิต ยังอยู่ที่ 18 ราย ซึ่งรอทางการอิสราเอลยืนยันข้อมูลอีกครั้ง ส่วนผู้บาดเจ็บ 9 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน ทั้งนี้ มีผู้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์ขอกลับประเทศไทยเพิ่มขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 3,862 คน และผู้ประสงค์ยังไม่กลับไทย 52 คน
อิสราเอลเคลื่อนย้ายพลเรือนออกจากพื้นที่ไม่ปลอดภัยไปยังพื้นที่ใหม่ที่ปลอดภัย ในจำนวนนี้รวมถึงพี่น้องแรงงานไทย โดยให้ไปทำงานกับนายจ้างใหม่ เพื่อให้มีรายได้ในระหว่างที่ยังอยู่อิสราเอล ในส่วนนี้เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้คุยกับฝ่ายอิสราเอลแล้วว่า ในสภาวะที่ยังกดดันตึงเครียด อาจจะต้องดูจังหวะที่เหมาะสมในการให้แรงงานเริ่มทำงานใหม่ด้วย
...
ทอ. ส่ง Airbus A340 ไปรับคนไทย ถึงเทลอาวีฟ 15 ต.ค.นี้
ส่วนความคืบหน้าการอพยพคนไทยกลับประเทศ ครั้งที่ 1 จำนวน 15 คน เดินทางออกด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY083 จากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 21.45 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2566 (ตามเวลาท้องถิ่น) และมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 10.35 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ซึ่งเมื่อมาถึงไทยจะต้องมีการดูแล พาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ส่วนกระทรวงแรงงานก็เตรียมความพร้อมเยียวยาตามระเบียบที่มีอยู่ จะทำให้ผู้ที่เดินทางกลับมาอุ่นใจ
ที่ประชุมยังได้มีการหารือเรื่องเตรียมส่งเครื่องบินกองทัพอากาศเพื่ออพยพคนไทย คือ เครื่องบิน Airbus A340 มีกำหนดเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ ในวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2566 จะสามารถรับคนไทยกลับมาได้ 140 คน โดยหลังจากนี้จะมีการดำเนินการเรื่องขออนุญาตบินข้ามน่านฟ้าประเทศต่างๆ เพื่อไปยังกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศคาดหวังว่าจะดำเนินการให้ลุล่วงได้ตามกำหนด
ย้ำ เน้นคนในพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับการอพยพออกมาก่อน
ขณะเดียวกัน ยังมีเที่ยวบินที่มีการประสานไว้ คือ วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่จะมีคนไทยเดินทางกลับในเที่ยวบินนี้ 80 คน ซึ่งจะเน้นคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง (Red Zone) ที่ได้รับการอพยพออกมาก่อน โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยและความจำเป็น
ทางด้านกระทรวงแรงงาน ก็ตั้งศูนย์ช่วยเหลือในจังหวัดต่างๆ โดยมีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน คือ 1694 เพื่อให้ญาติประสานหน่วยงานติดตาม ส่วนการดำเนินการของสถานทูตไทยในประเทศต่างๆ มีการประสานกับมิตรประเทศ เพื่อขอรับความช่วยเหลือสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่พี่น้องคนไทยถูกจับกุมเป็นตัวประกัน นอกจากนี้ ยังมีการเชิญท่านทูตประเทศต่างๆ มาหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งจะประสานงานองค์การระหว่างประเทศ เช่น หน่วยงานของสหประชาชาติด้วย และจะพยายามในทุกๆ ด้านที่จะให้มีความช่วยเหลือการสนับสนุนไปยังพี่น้องคนไทยในพื้นที่
“เราพร้อมที่จะส่งเครื่องบินไปเพิ่มเติม แต่ข้อจำกัดคือเราจะต้องมีการรวบรวมคนให้ปลอดภัยมาสู่พื้นที่ จะมีการประสานงานกับสถานทูตให้แน่ใจว่าในแต่ละวัน แต่ละช่วง สามารถที่จะมีคนพร้อมเดินทางมาที่กรุงเทลอาวีฟได้มากน้อยแค่ไหน จะมีการประสานขอ Flight Clearance ไป”
สำหรับพี่น้องคนไทยที่ประสงค์จะขอรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับญาติที่พำนักอยู่ในอิสราเอล สามารถติดต่อได้ที่
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ
- โทรศัพท์ (+972) 546368150
กรมการกงสุล (Call center 30 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง)
- โทรศัพท์ 02 5728442
กระทรวงแรงงาน
- สายด่วนฉุกเฉิน 1694
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
- โทรศัพท์ 06-4019-8530
- โทรศัพท์ 06-4019-8907
- โทรศัพท์ 09-9616-4786
- โทรศัพท์ 0-2575-1047-51 หรือ 0-2575-1053 (ในวันและเวลาราชการ)
- Email: consular02@mfa.go.th