“พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” เผย มีผู้ร้องสอบจริยธรรมหมออ๋อง และพรรคก้าวไกล ต่อ ป.ป.ช. แล้ว ปมขับออกจากพรรค อาจเป็นนิติกรรมอำพราง แนะสละเก้าอี้รองประธานสภาฯ หวั่นเป็นทุกขลาภ ซัดสมาชิกพรรค 3 ใน 4 อาจซวยไปด้วย ย้ำ ติเพื่อก่อ ในฐานะมีประสบการณ์ ไม่ได้ร้องเอง
วันที่ 4 ตุลาคม 2566 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อและอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะไปยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบจริยธรรม พรรคก้าวไกลขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.บัญชีพรรคก้าวไกล และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ออกจากพรรค ว่า ตนเองเป็นผู้ตรวจสอบอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ส่วนที่ก่อนหน้านั้นออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ เป็นการติติงที่หวังดี ไม่ใช่การดิสเครดิต เนื่องจากเกรงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำให้พรรคก้าวไกลตายหมู่ เพราะอดีตไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น และรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็เขียนเรื่องมาตรฐานจริยธรรมไว้ หาก นายปดิพัทธ์ ยังดึงดันรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯ ไว้ อาจจะกลายเป็นทุกขลาภ อีกทั้ง สมาชิกพรรคก้าวไกล 3 ใน 4 ที่โหวตขับนายปดิพัทธ์ ออก อาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นนิติกรรมอำพราง
โดยขณะนี้มีผู้ไปร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่แค่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินเท่านั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ ตนเองไม่ได้เป็นผู้ร้องเอง
“ผมติเพื่อก่อนะ โดยเฉพาะด้อมส้มของพรรคก้าวไกล อย่ามาโกรธผม ต้องขอบคุณผมด้วยซ้ำไป วันนี้หมออ๋องควรสละตำแหน่งรองประธานสภาฯ แล้วใช้เส้นทางการเมืองที่เขาทำไว้ ตั้งแต่นายไพบูลย์ นิติตะวัน หรือแม้แต่ ร.อ.ธรรมนัส ที่ย้ายพรรคแบบไม่มีปัญหา แต่ตนเองพูดในฐานะมีประสบการณ์ 20 ปี กับดักรัฐธรรมนูญชุดนี้ มีเรื่องจริยธรรม เขาเรียกว่าได้ไม่คุ้มเสีย ถึงแม้จะอยู่ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ ก็ไม่สง่างาม” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
...
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวว่า พวกตนเองเคยมีประสบการณ์โดนกระทำมา 2 ครั้งแล้ว ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคพลังประชาชน และยังถูกยึดอำนาจในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สิ่งเหล่านี้จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นในรัฐบาลประชาธิปไตย เพราะสิ่งที่ก้าวไกลทำเป็นการท้าทายรัฐธรรมนูญ และท้าทายเรื่องจริยธรรม
“นักวิชาการฝ่ายก้าวไกลก็ติงเรา ว่าฝ่ายเพื่อไทยอย่าไปยื่น อย่ายื่นดาบมาเชือดฝ่ายประชาธิปไตย เราไม่ได้ยื่น ส่วนตัวผมไม่ได้ร้อง แต่เห็นว่ามีคนร้องแน่ เรื่องจริยธรรมมันตีวงกว้าง หากประชาชนเห็นว่ามันขัด ก็ยื่น ป.ป.ช. เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญได้” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากนายปดิพัทธ์ สามารถไปหาพรรคใหม่อยู่ได้แล้ว จะสามารถร้องสอบจริยธรรมได้อีกหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ทำไมจะไม่ได้ จะตีความเข้าข้างตัวเองไม่ได้ เพราะพวกเราเคยโดนมาหมดแล้ว เราจึงออกมาติง ไม่ใช่ทำเพื่อด้อยค่าพรรคก้าวไกลหรือนายปดิพัทธ์
“เพื่อไทย จะร้องหรือไม่ร้องเป็นเรื่องของพรรค เพราะตนเองไม่มีตำแหน่ง และเป็นแค่ FC เท่านั้น แต่ยืนยันตนเองไม่ไปร้อง และในฐานะประชาชนรักประชาธิปไตย หากเพื่อไทย พรรคฝ่ายค้าน หน่วยงานรัฐทำไม่ถูกผมก็ติง” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองไม่ได้คุยกับนายอดิศรในเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ที่สนิทกัน เพราะเคยอยู่พรรคเดียวกัน ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่รังแกพรรคก้าวไกล เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัด ส่วน สส.พรรคก้าวไกล 3 ใน 4 ที่ออกมาโหวตขับไล่นายปดิพัทธ์ อาจจะโดนสอบจริยธรรมตามไปด้วย