“จุรินทร์-ชวน-บัญญัติ” รับเรื่องเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน เตรียมชงที่ประชุม สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ในสัปดาห์หน้า ระหว่างที่สภายังไม่สามารถพิจารณาตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อดัน “พ.ร.บ.ทุเรียนไทยยั่งยืน”
วันที่ 28 ก.ย. 2566 ที่อาคารรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ รับข้อร้องเรียนจากเครือข่ายผู้ปลูกทุเรียน ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ในเขตอำเภอแกลง อำเภอเขาชะเมา อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง นำโดย นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ อดีต สส.จังหวัดระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อผลักดันให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาการส่งเสริมพัฒนา แก้ปัญหาทุเรียนให้ครบวงจรอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ พร้อมกับยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับทุเรียน
โดย นายแพทย์บัญญัติ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทุเรียนได้กลายเป็นพืชผลการเกษตรที่ทำรายได้ส่งออกเป็นอันดับ 3 ซึ่งปี 2565 ทำมูลค่าสูงกว่า 120,000 ล้านบาท เกษตรกรจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนถึง 1 ล้าน 3 แสนไร่ ทั้งในภาคตะวันออก ภาคใต้ และอีก 43 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนเป็นจำนวนมากนี้ ยังได้สร้างความกังวลให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนอีกด้วย เพราะหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี จะทำให้ปริมาณทุเรียนล้นตลาด และส่งผลต่อราคาทุเรียนในอนาคต นอกจากนี้เมื่อคุณภาพทุเรียนไม่ได้มาตรฐาน มีการตัดทุเรียนอ่อน จะทำให้ผู้บริโภค หรือปลายทางการส่งออก ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน อาจส่งผลต่อการสั่งซื้อทุเรียน ไปจนถึงกระทบต่อยอดการส่งออกด้วย พร้อมกับเป็นห่วงเรื่องการวิจัยพัฒนาด้านสายพันธุ์ด้วย เนื่องจากมีประเทศคู่แข่งอย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย ต่างกำลังเร่งพัฒนาเช่นกัน แต่ด้วยภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ยังทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมีจุดแข็งอยู่ แต่ถ้าไม่มีการวิจัยพัฒนา เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะทำให้แก้ไขได้ยาก
...
ทั้งนี้ นายแพทย์บัญญัติ และคณะเครือข่ายผู้ปลูกทุเรียน ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ในเขตอำเภอแกลง อำเภอเขาชะเมา อำเภอวังจันทร์ จึงเดินทางมายื่นหนังสือให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ผลักดันปัญหาทุเรียนให้เป็นวาระแห่งชาติต่อไป นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองทุนทุเรียนไทย เช่นเดียวกับกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง โดยเก็บจากการขายผลผลิตออกสู่ต่างประเทศ ในลักษณะเป็นเงินสงเคราะห์ หรือเงิน CESS ของยางพารา ซึ่งจะได้นำเงินส่วนนี้มาสงเคราะห์ชาวเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ อันส่งผลกระทบต่อสวนทุเรียน และนำไปสนับสนุนสถาบันวิจัยทุเรียนด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดเงินงบประมาณประเทศได้
ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้กล่าวหลังการรับหนังสือว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความยินดีที่จะช่วยส่งเสริม สนับสนุนทุเรียนไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรค และสอดคล้องกับสิ่งที่ตนทำมาตลอด 4 ปี สมัยที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ทำให้ทุเรียนกลายเป็นผลไม้สำคัญ ทำรายได้ให้ประเทศมหาศาล ปีที่แล้วประเทศไทย สามารถทำรายได้จากการส่งออกทุเรียนได้ถึง 125,000 ล้านบาท และปีนี้ ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค. 2566 สามารถทำรายได้สูงกว่าปีที่แล้วทั้งปี โดยมีมูลค่าสูงถึง 138,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดคือประเทศจีน จึงถือว่าทุเรียนเป็นพืชที่มีอนาคตไกล
โดยเรื่องที่ได้เสนอมา จะได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุม สส. ของพรรคในสัปดาห์หน้า ระหว่างที่สภาอาจจะยังไม่สามารถพิจารณาตั้ง กมธ.วิสามัญ ขึ้นมาศึกษาได้ ก็จะส่งเรื่องให้ กมธ.สามัญการพาณิชย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานอยู่ ได้พิจารณาดำเนินการไปพลางก่อน โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสนับสนุนพระราชบัญญัติทุเรียนยั่งยืนให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะเข้ามากำกับดูแลทุเรียนอย่างครบวงจร ตั้งแต่เรื่องการปลูก การรวบรวมผลผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการตลาด และการทำวิจัยพัฒนา เพื่อให้ทุเรียนสามารถเป็นพืชเศรษฐกิจของเกษตรกรและประเทศต่อไป.