กกต.เพิ่งเปิดเผยบัญชีรายจ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง สส.บัญชี รายชื่อครั้งล่าสุด ซึ่ง กกต.กำหนดให้แต่ละพรรคใช้ไม่เกิน 44 ล้านบาท!!

ส่วน “งบหาเสียงเลือกตั้ง สส.เขต” ซึ่ง กกต.ล็อกเพดานค่าใช้จ่ายไม่เกินคนละ 1.9 ล้านบาท ยังชำระบัญชีไม่เสร็จ

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ศึกเลือกตั้ง ใหญ่เมื่อ 4 เดือนก่อน ทุกพรรค การเมืองถลุงงบหาเสียงรวมกันไม่ต่ำกว่าสองพันล้านบาท

หรือเอากันจริงๆ อาจทะลุสี่พันล้านบาท!!

ถ้าคำนวณตามหลักสถิติ “พรรคก้าวไกล” ใช้งบหาเสียงเลือกตั้งไป 40.9 ล้านบาท สามารถหิ้ว สส.เข้าสภาฯได้ 151 คน

เฉลี่ย สส.พรรคก้าวไกล 1 คน ใช้งบลงทุน 2.7 แสนบาท

พรรคเพื่อไทย ใช้งบหาเสียงเลือกตั้งไป 40.2 ล้านบาท กวาด สส.เข้าสภาฯ ได้ 141 คน

เฉลี่ย สส.พรรคเพื่อไทย 1 คน ใช้เงินลงทุนไป 2.8 แสนบาท

พรรคภูมิใจไทย ใช้งบหาเสียงเลือกตั้งไป 38.4 ล้านบาท อุ้ม สส.เข้าสภาฯ ได้ 71 คน

เฉลี่ย สส.พรรคภูมิใจไทย 1 คน ใช้เงินลงทุน 5.4 แสนบาท

พรรคพลังประชารัฐ ใช้งบหาเสียงไปเพียง 24.2 ล้านบาท ได้ สส.เข้าสภาฯ 40 คน

เฉลี่ย สส.พรรคพลังประชารัฐ 1 คน ต้องใช้งบลงทุนไป 6.05 แสนบาท

พรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้งบหาเสียงไป 40.6 ล้านบาท ได้ สส.เข้าสภาฯ 36 คน

เฉลี่ย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 คน ต้องลงทุนไป 1.13 ล้านบาท

พรรคประชาธิปัตย์ ใช้จ่ายงบหาเสียงไป 34.4 ล้านบาท ได้ สส.เข้าสภาฯ 25 คน

เฉลี่ย สส.ประชาธิปัตย์ 1 คน ใช้เงินลงทุน 1.37 ล้านบาท

“แม่ลูกจันทร์” เปรียบเทียบ “งบหาเสียง สส.บัญชีรายชื่อ” กับ “คะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้”

พรรคก้าวไกล ใช้งบหาเสียง 40 ล้านบาท ได้คะแนนเสียงกลับมากว่า 14 ล้านคะแนน

...

เฉลี่ยคะแนนละ 2.80 บาท

พรรคเพื่อไทย ใช้งบหาเสียง 40 ล้านบาท ได้คะแนนกลับมา 10 ล้านคะแนน

เฉลี่ยคะแนนละ 4 บาท

พรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้งบหาเสียง 40 ล้านบาท ได้คะแนนกลับมา 4.6 ล้านคะแนน

เฉลี่ยคะแนนละ 8 บาท

พรรคภูมิใจไทย ใช้งบหาเสียง 38 ล้านบาท ได้คะแนนกลับมา 1.1 ล้านคะแนน

เฉลี่ยคะแนนละ 34 บาท ฯลฯ

สรุปว่า พรรคก้าวไกลได้กำไรมากที่สุด

เพราะได้กำไรมากที่สุดเลยต้องเป็นฝ่ายค้านซะให้เข็ด.

"แม่ลูกจันทร์"

คลิกอ่านคอลัมน์ "สำนักข่าวหัวเขียว" เพิ่มเติม