“รองนายกฯ อนุทิน” ชนหมัด ผู้ว่าฯ กทม. เผยเป็นเพื่อนกันแต่เด็ก ด้าน “ชัชชาติ” ยินดี “อนุทิน” รับตำแหน่งใหม่ ชี้ กทม. พร้อมช่วยเหลือ “มหาดไทย” เต็มที่ ชี้ หากปรับค่าโดยสาร 20 บาท ต้องได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐเพิ่ม ส่วนเรื่องต่อสัญญา รอคำตอบจาก ครม. เหตุ ม.44 ยังมีผลบังคับใช้


วันที่ 19 ก.ย. 2566 เวลาประมาณ 11.30 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าพบเพื่อหารือข้าราชการกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 

นายชัชชาติ เปิดเผยก่อนเข้าพบนายอนุทินว่า วันนี้มารายงานตัวตามปกติ เพราะไม่ค่อยได้เจอนายอนุทิน ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว หากนายอนุทินถามก็พร้อมคุย ไม่มีปัญหา ซึ่งตอนนี้เรื่องค้างอยู่กรุงเทพมหานคร และเดี๋ยวจะมีการทำจดหมายตอบมาทางกระทรวงมหาดไทย 

เมื่อถามว่า โครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายของรัฐบาล จะติดขัดในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องไปดูความหมายของ 20 บาทว่าคืออะไร เพราะเท่าที่ดูตอนนี้คือ 20 บาท จะตลอดเส้น แต่ถ้าเป็นสายสีเขียวก็ต้องมีการให้ความช่วยเหลืองบประมาณเพิ่มจากรัฐ เพราะในช่วงปี 2572 ยังมีสัมปทานอยู่ ซึ่งทางเอกชนก็มีสิทธิ์เก็บค่าโดยสารตามที่เขาต้องการ แต่หลังจากปี 2572 ทางกรุงเทพมหานครเป็นคนกำหนดค่าโดยสาร แต่ทั้งนี้ยังมีสัญญาจ้างการเดินรถกับเอกชนอยู่ หากเก็บ 20 บาท อาจจะไม่คุ้ม เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ตายตัวที่ต้องจ่ายอยู่ คำนวณแล้ว 33 บาท ซึ่งหากเก็บค่าโดยสารไม่ถึง ทางกรุงเทพมหานครก็จะขาดทุน

...

ส่วนกรณีที่ทาง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกอีก 12 ราย นั้น นายชัชชาติ บอกว่า เป็นการแจ้งชี้มูลแต่ยังไม่มีคำสั่งศาลอย่างชัดเจน เพราะต้องถึงกระบวนการอัยการสูงสุดว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่อีกครั้งหนึ่ง แต่มองว่า นายอนุทิน คงมีข้อมูลที่ละเอียดอยู่แล้วในเรื่องนี้ เพราะพิจารณาเรื่องนี้ตั้งแต่อยู่รัฐบาลที่แล้ว

ส่วนการเสนอให้ยกเลิก ม.44 ที่ดูเหมือนจะเป็นต้นตอของปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว นายชัชชาติ บอกว่า ต้องแล้วแต่ทางรัฐบาล เพราะเรื่องค้างอยู่ที่กระบวนการว่า จะให้รัฐบาลต่อสัญญาให้และให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เสนอ ซึ่งตอนนี้เรื่องยังค้างอยู่ที่คณะรัฐมนตรี

แต่ที่มีปัญหากับ กทม. เพราะมีการนำมูลหนี้ทั้งหมดไปรวบเพื่อเป็นเงื่อนไขในการต่อสัญญา เพื่อมาชำระหนี้ ซึ่งทาง กทม. ก็ยังไม่ได้ชำระหนี้ และรอ ครม. อยู่ว่าจะเอาอย่างไร จะเดินหน้าต่อหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ ครม. ก็มีสิทธิ์เดินหน้าต่อ

เมื่อถามว่า จะต้องแก้กฎหมายไปสภาฯ ใหญ่ เลยหรือไม่ นายชัชชาติ บอกว่า เมื่อถึงที่สุดแล้ว กระทรวงมหาดไทยเสนอไปให้คณะรัฐมนตรีอย่างไร ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะใน ม.44 ระบุว่า หากสุดท้ายแล้ว ไม่ได้ให้รวบหรือต่อสัมปทาน ก็ให้กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางที่เหมาะสมให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง 

ส่วนที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานเสนอว่า จะให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. หรือไม่ ทาง กทม. จะเสนอด้วยหรือไม่ นายชัชชาติ บอกว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะตนเป็นแค่ท้องถิ่นเล็กๆ ต้องเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี ยังมองว่า ม.44 มีศักดิ์เทียบเท่า พ.ร.บ. ฉะนั้นต้องปฏิบัติตาม แต่ที่มาของ ม.44 ไม่ขอพูดถึง

ขณะที่บรรยากาศการพบกันของนายอนุทิน และนายชัชชาติ เป็นไปด้วยดี นายอนุทิน กล่าวทักทาย นายชัชชาติ และคณะทำงานอย่างอารมณ์ดี หัวเราะ ยิ้มแย้ม โดยนายชัชชาติ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายอนุทินกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหากมีอะไรให้ทาง กทม. รับใช้ ก็ยินดีช่วยเต็มที่ พร้อมมอบพวงมาลัย 

ด้านนายอนุทิน บอกว่า นายชัชชาติ เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก ก่อนจะชนหมัด และหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมทั้งได้มอบพระพุทธรูปให้นายชัชชาติ

ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย