สส.ก้าวไกล “ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร” ถามรัฐบาล เอาเงิน 5.6 แสนล้านบาท มาทำโครงการแจกเงินดิจิทัลจากไหน ชี้ ไม่เหมาะกับสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว จี้ทบทวน มองไม่ใช่พายุหมุน แต่เป็นพายุไต้ฝุ่น ที่ทำลายระบบการคลัง 

เมื่อเวลา 15.51 น. วันที่ 11 กันยายน 2566 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายถึงเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาล ว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะใช้นโยบายการคลังนี้มากระตุ้นเศรษฐกิจ ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว เพราะควรทำตอนกำลังของภาคเอกชนหดตัว อีกทั้งมองว่าการนำเงินมาแจกเพื่อแก้ปัญหา เป็นการแก้ที่ไม่ถูกจุด เพราะการเชื่อว่าการแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะเกิดพายุเงินนั้น หากมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเงินก็จะรั่วออกไปต่างประเทศ หรือหากไปซื้อน้ำมัน เงินก็จะเข้ากองทุนน้ำมัน ทำให้เม็ดเงินภาษีของประชาชนขาดทุน

ดังนั้น อาจจะกลายเป็นพายุไต้ฝุ่น ที่สร้างภาระหนี้ต่อลูกหลานในอนาคต จึงมองว่าเป็นแค่เทคนิคในการหาเสียงเท่านั้น คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการจะทำโครงการดังกล่าว จะเป็นการบังคับให้คนกลับภูมิลำเนากลับไปใช้เงินหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการบีบบังคับให้ใช้เงินภายใน 4 กิโลเมตร ซึ่งลายทางอาจจะไปจบที่ร้านสะดวกซื้อและห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ขณะที่รัฐบาลเองก็ไม่เคยมีคำอธิบายเรื่องการใช้ในพื้นที่ห่างไกล ว่าใช้ได้อย่างไร อาจทำให้ผู้ค้ารายเล็กถูกบีบด้วยเงื่อนไข 4 กิโลเมตรเช่นกัน ทำให้ร้านค้าไม่อยากเข้าร่วมรายการ หรืออาจจะรับด้วยการเพิ่มราคาอาหาร หรือเกิดการทุจริตแลกเงิน คนที่เสียประโยชน์ก็ยังเป็นประชาชน

...

นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ยังตั้งคำถามว่า งบประมาณกว่า 5.6 แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้จ่าย นั้นจะมีที่มาอย่างไร อีกทั้งการใช้บล็อกเชนมาใช้ทำธุรกรรม อาจจะทำได้ช้า และไม่เหมาะสมกับจ่ายเงินพร้อมกันของประชาชน โดยมีการประเมินกันว่าระบบดังกล่าวนำมารองรับการใช้พร้อมกันได้จำนวนหลักพันคนถือว่าเก่งแล้ว จึงไม่เหมาะกับการใช้ระบบชำระเงินพร้อมกันจำนวนมาก จึงมองว่าระบบเงินดิจิทัลจะไม่เป็นพายุหมุน แต่จะเป็นพายุไต้ฝุ่น ที่ทำลายระบบการคลัง จึงขอให้รัฐบาลทบทวนรายละเอียด