เพื่อไทย แจงเหตุสภาฯ ล่ม ยันให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชน และการทำงานในสภาฯ สอนก้าวไกล ยืนอยู่กับโลกความจริง แก้รัฐธรรมนูญต้องดำเนินการให้มีมติ ครม.

วันที่ 1 กันยายน 2566 พรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณีสภาฯ ล่ม ระหว่างพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอให้สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขราคากุ้งตกต่ำ ระบุว่า ความเดือดร้อนของประชาชนต้องมาก่อน โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้สรุปเหตุสภาฯ ล่ม 31 สิงหาคม 2566 ว่า 

การเสนอนับองค์ประชุม ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. ที่ทำได้ และเป็นเครื่องมือสำคัญของฝ่ายเสียงข้างน้อยในการตรวจสอบ โดยหลักการแล้วในอดีต จะใช้การนับองค์ประชุม เฉพาะที่เป็นร่างกฎหมายที่ไม่เห็นชอบด้วยเท่านั้น หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนและปัญหาของพี่น้องประชาชนจะไม่เคยทำกัน เพราะปัญหาของประชาชนเป็นวาระที่ควรอภิปรายเต็มที่ เพื่อนำเสนอความเห็นส่งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจให้ดำเนินการ

เหตุสภาฯ ล่มที่ผ่านมา สส. เสนอญัตติเกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำ เพื่อนำเสียงสะท้อน ส่งไปยังรัฐบาลให้เร่งแก้ไข  ไม่ใช่เรื่องของร่างกฎหมายที่จะต้องมีการลงมติอะไร ต้องยอมรับว่าช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเตรียมการแถลงนโยบายของรัฐบาล สส. เพื่อไทยจำนวนมากอยู่ระหว่างการเตรียมการ

พรรคเพื่อไทย มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาหารือ ซึ่งเราก็หวังว่านโยบายต่างๆ จะต้องมีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ทันที ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการทำงานของสภาฯ

“เหตุที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าหลังจากนี้จะไม่มีกลไกหรือหลักการอะไรเหมือนในอดีต หากมีจังหวะทุบได้ก็คงจะทุบกันเลย อีกทั้งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นอารมณ์ที่ค้างมาจากเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ในญัตติเรื่องประชามติ ซึ่งในเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมองต่างกัน”

...

พรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้มีมติ ครม. ในการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ต้องผ่านวุฒิสภาและดำเนินการได้ทันที 

แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลกำลังจะดำเนินการคือทำตามกลไกของกฎหมายประชามติ เมื่อสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้วก็ต้องส่งไปยังวุฒิสภา แต่เป็นไปได้สูงว่าวุฒิสภาก็จะตีตกหรืออาจถูกดึงเรื่องไว้ในท้ายที่สุด 

“พรรคเพื่อไทย ยืนอยู่กับโลกความจริงว่าเราจะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างไร หากทำในแนวทางที่เรารู้อยู่แล้วว่าเดินไปไม่ถึงเป้าหมาย แล้วเราจะได้อะไร เรายืนยันว่าจะใช้กลไกที่มีอยู่ทำให้เป้าหมายเราเป็นจริงให้มากที่สุดคือ เพื่อที่จะทำให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น”