เปิดประวัติ “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” น้องชาย “บิ๊กป้อม” นั่งรองนายกฯ ควบรมว.ทรัพยากรฯ

ชีวิตเหมือนถูกจับวาง “บิ๊กป๊อด พัชรวาท” น้องชายคนกลาง บ้าน “วงษ์สุวรรณ” จากอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สู่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นั่งควบ เจ้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใน ครม.เศรษฐา โควตาจากพรรคพลังประชารัฐ

ประวัติ พล.ต.อ.พัชรวาท มีพี่น้องกี่คน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มีชื่อเล่น “ป๊อด” เป็นบุตรคนที่ 3 ของพลตรีประเสริฐ วงษ์สุวรรณ กับ นางสายสนี วงษ์สุวรรณ เกิดวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2492 ปัจจุบันอายุ 74 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด มีพี่น้อง 4 คน คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ, พงษ์พันธุ์ วงษ์สุวรรณ และ พันธุ์พงษ์ วงษ์สุวรรณ ที่ปรึกษารองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง

พล.ต.อ.พัชรวาท เรียนจบที่ไหน

พล.ต.อ.พัชรวาทสำเร็จการศึกษามัธยมศึกษา โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนเตรียมทหาร จบการศึกษาปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และจบปริญญาโท คณะศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ชีวิตครอบครัว สมรสกับนางสมถวิล วงษ์สุวรรณ มี บุตรสาว 2 คน ได้แก่ พ.ต.อ.ภญ.พัชรา วงษ์สุวรรณ เภสัชกรประจำโรงพยาบาลตำรวจ (สมรสกับ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ) และ ร.ต.อ.หญิง นวพร วงษ์สุวรรณ ผู้ช่วย นว.(สบ.1) ผบช.สตม.

ประวัติการทำงานสายข้าราชการตำรวจ

พล.ต.อ.พัชรวาท เริ่มต้นรับราชการตำรวจด้วยตำแหน่ง รองสารวัตร กองบังคับการการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ทำงานตามความดีความชอบหลายปี จนได้ขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้บังคับการกองพลาธิการ กรมตำรวจ จากนั้นได้ขึ้นมาเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ก่อนจะก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ทนท.ประสานงานกระทรวงมหาดไทย) และผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และในที่สุดได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยดำรงตำแหน่งต่อจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท เคยได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินใน รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ควบคุมเหตุการณ์กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อ 2 กันยายน พ.ศ. 2551  

แต่ต่อมาในรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีคำสั่งสำนักนายรัฐมนตรี ให้โยกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. มาปฏิบัติงานสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนของสังกัดเดิมไปก่อนและให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน เมื่อนายสมชาย ถูกตัดสิทธิ์ ทางการเมือง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ได้ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทน มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิม จัดว่าเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรืออธิบดีกรมตำรวจคนแรกที่ถูกสั่งย้ายแล้วสามารถกลับคืนสู่ตำแหน่งได้

ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังเคยถูกอ้างว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และยังเคยถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนักการเมืองและนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ในคดีสั่งการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 จนถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ผบ.ตร. มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. เป็นผู้รักษาราชการแทน แต่ต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่งนับว่าเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรกที่ทำงานกับนายกรัฐมนตรีถึง 3 ราย ได้แก่ นายสมัคร สุนทรเวช, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่ามกลาง วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2548-2553 

อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคืนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คืนตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และยกเลิกการลงโทษปลดออกจากราชการ 

เส้นทางสู่ชีวิตทางการเมือง

ในปี 2557 พล.ต.อ.พัชรวาท ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ชาย ที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามคำสั่งพรรค ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค

ต่อมาเมื่อพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ได้ดึงพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สำเร็จ ทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้รับตำแหน่งสำคัญทางการเมือง และก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในครม.เศรษฐา ตามโควตาของพรรคพลังประชารัฐ