ตัวแทนนิสิตนักศึกษา จุฬา-ธรรมศาสตร์ ประกาศจุดยืนคัดค้านกฎหมายจัดตั้งสภาผู้แทนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ชี้เป็นการควบคุมการแสดงออกของเยาวชนในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งเปิดช่องให้รัฐเข้าแทรกแซง

วันที่ 13 ส.ค. 2566 ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน14 ตุลา คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป.ร่วมกับองค์กรนิสิตนักศึกษา แถลงคัดค้านกฎหมายควบคุมขบวนการนิสิตนักศึกษา กรณีการผลักดันร่างกฎหมายจัดตั้งสภาผู้แทนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย โดยนายนัสรี พุ่มเกื้อ ประธานสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) กล่าวว่า จากการเสนอร่าง พ.ร.บ.สภาผู้แทนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ทั้ง 2 ร่างสู่สภานั้น หลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาพบว่า 1.องค์กรนิสิตนักศึกษาทุกแห่งไม่ได้อยากให้มีกฎหมายนี้และไม่มีส่วนร่วมในการยกร่าง เคยไปให้ความเห็นก็จริงแต่เป็นในลักษณะคัดค้าน 2. เป็นกฎหมายที่แฝงไปด้วยการเปิดช่องให้รัฐเข้ามาแทรกแซงองค์กรนักศึกษา การขับเคลื่อนองค์กรระบุให้ใช้เป็นเงินจากการบริจาค ซึ่งอาจส่งผลให้กลายเป็นผู้ควบคุมองค์กรนิสิตนักศึกษาได้ 3 ร่างพ.ร.บ.ทำให้เกิดความยุ่งยากในการบริหารงานของตัวแทนนิสิตนักศึกษา กล่าวคือตัวแทนนิสิตนักศึกษาสถาบันต่างๆ ปกติมีอำนาจการจัดการตามกรอบกฎหมายของสถาบันตัวเองแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างกฎหมายขึ้นมาใหม่เพื่อให้มาอยู่รวมกันที่เดียว  ขณะนี้องค์กรนักศึกษา 32 สถาบัน ได้ออกมาเข้าชื่อโดยมีจุดยืนร่วมกันคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ 

นายคุณากร ตันติจินดา นายกองค์การ นศ.มธ. กล่าวว่า ในหลักการของกฎหมายฉบับนี้เปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงความเป็นอิสระขององค์กรนักศึกษาต่างๆ ต้องยอมรับว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมาการขับเคลื่อนเรื่องประชาธิปไตยและเรื่องต่างๆ ตัวแทนศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน หากมีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาซ้อนกัน จะเท่ากับลดทอนบทบาทในการพูดการแสดงออก ด้านนายธนกฤตษ์ วงศ์อาษา ตัวแทนองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.)กล่าวว่า องค์กรนิสิต หรือสภานิสิต ไม่ได้มีส่วนร่วมในการร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ไม่ตรงตามความต้องการของเรา เหมือนถูกยกไปอยู่ในมิติใหม่อีกมิติหนึ่ง อยากจะให้ช่วยพิจารณาอย่าถี่ถ้วนก่อนว่ากฎหมายฉบับนี้มีประโยชน์กับนิสิตนักศึกษาจริง หรือเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่นิสิตนักศึกษาสามารถถูกแทรกแซงจากพวกท่านได้  

...

ด้านนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ปี 2544 กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐสภาตีตกกฎหมายฉบับนี้ไป เพราะตั้งข้อสังเกตว่าถูกออกแบบมาจากรัฐอำนาจเก่าที่ต้องการจำกัดสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา