อดีตผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุวัง ออกมาแฉ "บุ้ง" แกนนำทะลุวัง พฤติกรรมครอบงำเด็กมาร่วมกิจกรรม โดยเฉพาะเคลื่อนไหวการชุมนมแต่ละครั้ง เพื่อนำไปเรียกรับทุนสนับสนุนจากองค์กรต่างประเทศที่ขับเคลื่อนประชาธิปไตย


วันที่ 9 ส.ค. จากทวิตเตอร์ของน้องพลอย อดีตสมาชิกทะลุวัง ออกมาเคลื่อนไหวหลังจาก "บุ้ง ทะลุวัง" ได้แสดงพฤติกรรมต่อการชุมนุมที่เกินเลย และมีคำพูดใช้กับสื่อมวลชนที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท โดยน้องพลอยบอกว่า เราเคยเป็นหนึ่งในเด็กที่บุ้งเอามาดูแลเหมือนหยก รจ.กันตั้งแต่สมัยอยู่นักเรียนเลว ตอนนั้นที่บ้านเรามีปัญหาทำให้ไม่มีบ้านอยู่+โดนคดีมันต้องมี ผปค. บุ้งมาเป็น ผปค.แทนพ่อแม่ที่ดูแลเราไม่ได้ บุ้งก็รับปากเรากับแม่เราว่าจะดูแลเราอย่างดี

บุ้งดูแลเราอย่างดีในช่วงแรกที่อยู่ด้วยกัน เรายังคงอยู่กับบุ้งเพราะไม่รู้จะไปอยู่ไหน บ้านก็ไม่มีให้กลับ ตอนนั้นเราเริ่มสัมผัสได้ถึงความรุนแรงในบ้านที่อยู่กับบุ้ง การถูก child grooming การโดนแมนิพูเลต และการขูดรีดผลประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในฐานะเยาวชนเพราะเราอายุแค่ 16

ตัวโต บุ้งมักจะชอบดูแลเด็กที่มีปัญหากับที่บ้าน หรือมีปัญหาในชีวิตและมีแสง บุ้งจะรับเด็กมาดูแล อาสาเป็นผปค. และค่อยๆ ใช้ประโยชน์จากเด็กคนนั้น เรากับเพื่อนโดนเอาผลงานการเคลื่อนไหวไปขอทุนเคลื่อนไหว แต่เงินทุนกลับส่งไม่ถึงเรา เพื่อนหลายคน และไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบุ้งได้

เรื่องการใช้ความรุนแรงของบุ้งกับเราและเพื่อนๆ เขาทำเหมือนที่ทำกับยามหน้า พท. ตอนโมโห เขาจะใช้อารมณ์ทำให้เรา รส.หวาดกลัว ด้อยค่า ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ตามสไตล์แมนิพูเลต ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เราโดนแมนิพูเลตจนทุกวันนี้ยังกลับมาใช้ชีวิตยาก

บุ้งชอบให้เด็กออกมาเคลื่อนไหว เทกแอ็กชั่นแรงๆ โดยบุ้งบอกกับเราว่าเรายังเด็ก ต่อให้โดนคดีก็ยังไม่โดนหนักเพราะยังมีศาลเยาวชน และเด็กถ้าเจอความรุนแรง เช่น ตำรวจจับ บลาๆ จะเป็นข่าวง่าย ขอทุนง่าย ไวรัลง่ายกว่า แล้วบุ้งอ้างว่าจะซัพพอร์ตน้องๆ อยู่ข้างหลังแทน

...

จนเริ่มทำ ทะลุวัง เราโดนหนักมากขึ้น บังคับให้เราออกไปทำไรเเรงๆ แรงสุดคือเคยโดนให้ไปบุกคุกวังทวี แต่ตอนนั้นเราบอบช้ำจากการเคลื่อนไหวมามากแล้ว เหนื่อยโดนคดี เราบอกว่าสภาพจิตใจเราไม่ไหว ไม่อยากทำ ก็โดนปิดประตูใส่หน้า อยากจะหนีก็ไม่ได้ เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว

เราลาออกจาก ร.ร.เพื่อมาเคลื่อนไหว เงินก็ไม่มี ครอบครัวก็ทิ้ง ตอนนั้นเราคิดว่าเราต้องพึ่งพาแค่บุ้งเท่านั้น สุดท้ายหลุดออกมาได้เพราะเพื่อนรอบตัวให้ความช่วยเหลือ เป็น ผปค.ให้แทน จนปัจจุบันเราเป็นผู้ลี้ภัย112 อยู่ ตปท. เราก็ยังโดนเขาโจมตีในขบวนเสียๆ หายๆ อยู่เรื่อยๆ

ทั้งกล่าวหาว่าเรายักยอกเงิน หนีคดี ขโมยของ ตอแห_ โดนแช่งให้ตายระหว่างลี้ภัย บางคนก็เกลียดเราจริงๆไปแล้วก็มี เรารู้มาเสมอว่าเรามีปัญหากับหลายฝ่ายในขบวน เรื่องหลายๆ เรื่องที่เราอยากคุยเพื่อคลี่คลาย ขอโทษ ก็ไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะเรายังโดนโจมตีอยู่ตลอดเวลา

ควรมีการถกกันเรื่องนี้สักที เด็กกับการออกมาเคลื่อนไหวเนี่ย เด็กไม่ได้เจอแค่การคุกคามจากรัฐ ครอบครัว สังคม แต่อาจจะโดนขบวนเหี้_ๆ ทำร้าย โดนขูดรีดความเป็นเด็กโดนแมนิพูเลต คนที่ได้รับผลกระทบก็คือตัวเด็กเอง มันส่งผลกับการใช้ชีวิตของเด็กระยะยาวมาก นี่ยังเป็นซึมเศร้าอยู่เลย

เลิกด่าหยก เด็กเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ คนโดนแมนิพูเลต หรือโดนผู้ปลุกปั่น มันไม่รู้ตัวหรอก หยกเจอความรุนแรงมามากตั้งแต่ติดคุก ทั้ง cyber bullying โดนคดี สังคมเฮงซวย ต้องมาเจอกลุ่ม #ทะลุวัง หยกเหมือนกระจกสะท้อนตัวบุ้ง หยุดโจมตีเด็กได้ หันมาสนใจอะบิ้วเส้อกันเยอะๆ ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่

ช่วยเหลือและรับฟังความต้องการของหยก หยุดให้แสง หรือโทษคนที่กำลังโดนแมนิพูเลตก่อน มันละเอียดอ่อนทั้งตัวของเหยื่อและคนแมนิพูเลตเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแต่ละวันเหยื่อเจอคำพูด ถูกปฏิบัติแบบไหนมาบ้าง อะไรคือความรู้สึกที่แท้จริง หัวมันปั่นป่วนไปหมดเพราะการแมนิพูเลต ใช้ความรุนแรงและแก๊สไลต์

เราพยายามสรุปเรื่องราวตลอด 2 ปีที่อยู่กับบุ้ง จริงๆ มันมีมากกว่านั้นแ ต่กลัวทวีตยาวเกิน แต่อย่างนึงที่เพื่อนเราเคยถูกแมนิพูเลตบอก การที่ผู้ถูกกระทำหรือตัวเด็กยังอยู่ในวังวนความรุนแรง โดนแมนิพูเลตแปลว่า abuser ประสบความสำเร็จ

ซึ่งตอนนี้น้องพลอย อดีตสมาชิกทะลุงวัง และเป็นผู้ต้องหา ม.112 มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัย อยู่ที่ประเทศแคนาดา ทีมข่าวไทยรัฐ ได้โทรไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น บอกว่า ก็เป็นไปตามที่ได้ทวีตข้อความไว้ ซึ่งบุ้งจะพยายามทำตัวเป็นคนปกป้องเด็กที่มีความอ่อมแอจากสถานะครอบครัวหรือทางจิตใจ มาเช่าคอนโดกันอยู่ ซึ่งเป็นทั้งที่พักอาศัย และที่ทำงานในเวลาเดียวกัน แรกๆ ก็ดีได้มีที่อยู่ ได้มีคนให้คำปรึกษา แต่จะไม่มีเวลาส่วนตัวในการใช้ชีวิต ทุกอย่างจะถูกโยงกับงานทั้งหมด และให้ทำกิจกรรมทางการเมือง เพื่อนำไปขอรับทุนหลักๆ คือจากทุนต่างประเทศ และการขายของที่ทำกันเอง โดยที่เมื่อได้เงินมาแล้วไม่มีการตรวจสอบยอดว่าได้มาเท่าไร เหลือเท่าไร แต่เงินนั้นจะนำมาเติมน้ำมัน ค่ารถ ค่าอุปกรณ์ ค่ากินอยู่ และบุ้งจะทำให้เด็กที่มาอยู่ด้วยรู้สึกว่า โดดเดี่ยว ต้องพึ่งพาบุ้งเสมอ

จุดประสงค์หลักของ "ทะลุวัง" คือแก้ไขต้นตอปัญหาประเทศที่ทางกลุ่มทะลุวัง มาเรียกร้องสิทธิ์ให้เด็ก และทางเพศ แต่ตอนนั้นมี สายน้ำ ทะลุวัง มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็เลยให้สายน้ำออกจากกลุ่มทะลุวัง เพราะมีคนไม่เห็นด้วยเนื่องจากพฤติกรรมขัดต่อวัตถุประสงค์ จากนั้นมาภายหลังที่พวกตนออกจากกลุ่มทะลุวัง สายน้ำก็กลับมาเคลื่อนไหวเหมือนเดิม และตอนนี้ตนก็ไม่แน่ใจว่า จุดประสงค์ของทะลุวังคืออะไรกันแน่

น้องพลอย บอกอีกว่า หากมองน้องหยกตอนนี้เหมือนเห็นภาพตัวเอง ที่ถูกบุ้งนำมาใช้เป็นตัวเคลื่อนไหวทางการชุมนุมวนลูปซ้ำๆ ทำซ้ำๆ โดยที่คนอื่นต้องมาถูกดำเนินคดีรับแทนทั้งหมด และบุ้งหากไม่พอใจกับเด็กๆ ในสมัยที่ตัวเองยังอยู่ด้วย ถึงขั้นปิดประตูใส่หน้าก็มี

น้องพลอย ยืนยันว่า ไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังแน่นอน ไม่มีส้ม ไม่มีแดง และทะลุวังก็ไม่ใช่เด็กของส้มหรือแดงด้วย ไม่อยากให้เรียกแบบนั้น เพราะแต่ละคนมาจากการรวมกลุ่มอยากชุมนุมเรียกร้อง

ขณะที่ทาง บุ้ง ทีมข่าวไทยรัฐทีวีได้ติดต่อไปสอบถามแล้ว แต่ขอยังไม่พูดแสดงความคิดเห็น เพราะหากพูดไป คิดว่าคงจะไม่จบ ต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กลับมาแน่นอนว่าตนพูดไม่หมด ไม่จบ แต่สิ่งที่มีการทวีตข้อความเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาทั้งสิ้น ไม่จริงเลย