หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เผย มีคนของภูมิใจไทยทาบร่วมรัฐบาลเพื่อไทย แต่ยังไม่ตอบรับ เหตุปม “เศรษฐา” ยังคาใจ แย้ม 18 ส.ค. นัดโหวตนายกฯ รอบ 3 ด้านพรรคครูไทยเพื่อประชาชน-พรรคใหม่ ยังสงวนท่าที
วันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวถึงการชักชวนให้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาล ว่า มีคนของพรรคภูมิใจไทยโทรศัพท์มาเพื่อชักชวนเข้าร่วม แต่ยังไม่ให้คำตอบว่าจะตอบรับหรือไม่ เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องพิจารณาในความชัดเจน ทั้งตัวบุคคลที่จะเสนอต่อรัฐสภาเพื่อเข้ารับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เบื้องต้นทราบว่าจะนัดโหวตอีกครั้งวันที่ 18 สิงหาคมนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุ จะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีประเด็นที่ติดใจหรือไม่ นายสุรทิน กล่าวว่า มีประเด็นที่ต้องพิจารณาในข้อมูลที่มีการกล่าวหา ซึ่งการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยรัฐสภา ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศและคนไทยทุกคน ดังนั้น ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาด ส่วนจะโหวตเห็นชอบได้หรือไม่ ยังประเมินอยู่ว่า หากเป็นไปตามข่าวที่พรรคก้าวไกลจะยอมโหวตให้คนของพรรคเพื่อไทย เพื่อไม่ต้องพึ่งเสียงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) อาจทำให้มีปัญหาขึ้นได้
“ผมมองว่าหากนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยยังมีปัญหา แล้วเปลี่ยนเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อาจจะมีปัญหาได้อีก เพราะมีประเด็นถูกตรวจสอบ แต่หากเปลี่ยนเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อาจจะพอเป็นไปได้”
ทางด้าน นายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า ขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดต่อสายชวนให้ไปร่วมสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล อาจเป็นเพราะพรรคครูไทยเพื่อประชาชน มี สส. เพียงเสียงเดียวเขาจึงไม่สนใจ อย่างไรก็ดี ประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่แม้เปลี่ยนขั้วแล้วยังดูไม่ราบรื่นนั้น ตนมองว่าเป็นปกติธรรมชาติของการเมือง
...
“ผมขอย้ำคำพูดของตนเองว่า หากพรรคอันดับ 1 ไม่ได้ ต้องส่งต่อให้พรรคอันดับ 2 หากยังไม่ได้ต้องส่งไม้ต่อพรรคลำดับอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงนายกฯ คนนอก และพรรคที่ตั้งไม่ได้ต้องถอย แต่ไม่ใช่ถอยไปลงถนน”
ขณะที่ นายกฤดิทัช แสนธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคใหม่ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคโทรศัพท์มาชักชวนให้สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคยังไม่ได้ตัดสินใจ และยังรอความชัดเจน โดยเฉพาะจากพรรคการเมืองฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่จะประสานให้เข้าร่วมเป็นรัฐบาลหรือสนับสนุนโดยตรง ทั้งนี้ พรรคใหม่ไม่ติดใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เพราะสามารถทำงานในสภาฯ ได้ และที่ผ่านมาพรรคเน้นการทำนโยบายเพื่อประชาชน ไม่หวังตำแหน่งหรือเก้าอี้ใดๆ.