“สุพิศาล” เตรียมชงที่ประชุม สส.ก้าวไกล โหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทย หวังปิดสวิตช์ สว. ลั่น ไม่โกรธ ไม่ปิดโอกาสกลับมาจับมือกัน ยังมองเป็นเพื่อน แต่มีความจำเป็นต้องไป

วันที่ 8 สิงหาคม 2566 พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยก่อนการประชุม สส.ของพรรคก้าวไกล ว่า วาระการประชุมวันนี้มีเรื่องการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 และลงคะแนนมติต่างๆ ของพรรค รวมทั้งมติการโหวตนายกรัฐมนตรีด้วย 

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อไปว่า วันนี้ตนเองจะเสนอให้พรรคก้าวไกลโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากต้องการโหวตเพื่อปิดสวิตช์ สว. (สมาชิกวุฒิสภา) และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะรับปากว่าจะไม่มีการดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคก้าวไกลจะโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ต้องมีเงื่อนไขหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล ระบุว่า เป็นมิติที่ดี เนื่องจากเป็นสิ่งที่เราอยากทำ คือการปิดสวิตช์ สว. และได้สร้างระบบประชาธิปไตยสภาบนดีกว่าสภาล่าง และโหวตเพื่อให้มีรัฐบาลมาแก้วิกฤติของประเทศ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรับฟังความคิดเห็นจาก สส. ในที่ประชุมอีกครั้ง

แต่ส่วนตัวมองว่าเราเดินมาด้วยกัน และต้องการปิดสวิตช์ สว. ไม่ต้องง้อ สว. และเพื่อให้เกิดรัฐบาล รวมถึงเรายินดีกับการเมืองแบบใหม่ ที่เราไม่ได้ผูกติดอยู่กับอำนาจ ต้องการให้ประเทศชาติเดินไปด้วยดี ส่วนพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับใครก็ถือเป็นอำนาจของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลก็เปิดประตูไว้หากพรรคเพื่อไทยจะกลับมาหาก็ได้

ส่วนคำถามว่าแม้พรรคก้าวไกลจะโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แล้วต้องไปเป็นฝ่ายค้าน พล.ต.ต.สุพิศาล บอกว่า “เป็นหน้าที่ที่ชำนาญอยู่แล้ว และถ้าหากเป็นฝ่ายค้านก็จะเห็นพรรคก้าวไกลรุ่นที่ 4” เมื่อถามต่อ ไม่ได้มีความโกรธพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล ระบุว่า ไม่ได้โกรธ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต้องหาทางออก เพียงแต่รอไม่ได้ถึง 9 เดือนเท่านั้นเอง ถ้าหากรอได้ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่หากรออีก 9 เดือน ก็อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ 

...

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามในช่วงท้ายว่าพรรคก้าวไกลปิดโอกาสหากพรรคเพื่อไทยจะหวนกลับมาจับมือหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล บอกว่า “วันหนึ่งอาจจะต้องร่วมมือกับเขาอยู่แล้ว เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นมหามิตร เป็นเพื่อน แต่มีความจำเป็นที่จะต้องไป ก็ต้องปล่อยให้ไป”