“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่นราธิวาสให้กำลังใจพี่น้องมูโนะ สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟู ช่วยเหลือกำชับถอดบทเรียนป้องกันเกิดเหตุซ้ำอีกทุกพื้นที่ทั่วประเทศถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจยอมรับได้ ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบ
วันที่ 7 ส.ค. 2566 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล พร้อมนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด โดยมี สส.ของพรรคพลังประชารัฐให้การต้อนรับ อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา สส.นราธิวาส เขต 3 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส. นราธิวาส เขต 2
โดยพล.อ.ประวิตรและคณะ เดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ มีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง ร.ร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้านมูโนะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโก-ลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
...
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแลและไม่ทอดทิ้งกัน
พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชนและทหารร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุง โรงเรียนมูโนะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กเล็ก ที่กำลังจะเปิดเทอมในเร็ววันนี้ และให้ติดตามเยียวยาครูและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยให้เร่งซ่อมแซมบ้านครูและนักเรียนที่เสียหาย จำนวน 120 หลัง และบาลัยจำนวน 2 หลัง รวมถึงจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เสียหาย เพื่อให้สถานศึกษาสามารถกลับมาเปิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ สธ.ให้ความสำคัญในการเข้าไปเยียวยาผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพ ได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต.ประสาน กค. จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลัง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ต่อไป
พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมหลั่งไหลบริจาคเงินกว่า 23.24 ล้านบาทและความช่วยเหลืออื่นๆ มาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ ผวจ.นธ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจในภาวะวิกฤติกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจยอมรับได้และจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยขอให้สอบลึกเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ละเลยหน้าที่หรือแสวงประโยชน์อันมิชอบอย่างจริงจัง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและสร้างความสูญเสียเช่นที่เกิดขึ้น