ยังคลุมเครือ หาข้อยุติไม่ได้ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเลื่อนพิจารณาการรับคำร้องข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องมา ออกไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.2566
ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานมาตรวจสอบให้รอบคอบก่อน
ปมการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชิงนายกฯซ้ำสอง ในญัตติที่ถูกตีตกไปก่อนหน้านี้ จะทำได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องขมุกขมัว ต้องรอคอยคำตอบต่อไป
พลอยกระทบโปรแกรมโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 4 ส.ค. ต้องถูกเลื่อนออกไป นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา สั่งถอนวาระ ไม่กล้าเสี่ยงลุยโหวตนายกฯ โดยไม่มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ
และยังสะเทือนไปถึงการยกเลิกแถลงข่าวเปิดโฉมหน้ารัฐบาลขั้วใหม่ของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 3 ส.ค.
ภายหลังพรรคเพื่อไทยหักพรรคก้าวไกล ฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นโมฆะ ขอแยกตัวไปจัดขั้วตั้งรัฐบาลใหม่ ไล่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน
การเมืองไทยยังวนลูปอยู่ที่เดิม ผ่านมา 2 เดือนกว่า ยังหาตัวนายกฯไม่ได้
...
ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยังต้องรอจังหวะ จัดรูปขบวนใหม่ ไปเช็กแต้มให้ชัวร์ ก่อนส่งชื่อลงสนามจริง
ในภาวะที่สนามการเมืองกำลังฝุ่นตลบ อยู่ในช่วงฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลใหม่ ตามแนวโน้มสมการใหม่เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว ผสมผสาน “ฝ่ายประชาธิปไตย–อนุรักษ์นิยม”
มีพรรคเพื่อไทยเป็นหัวหอก ส่วนรายชื่อพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคประชาธิปัตย์ ยังขลุกขลัก ชักเข้าชักออก รอดีลที่ชัดเจน
กระดานอำนาจสูตรใหม่เป็นเขตปลอดสีส้ม แม้กระทั่งค่าย 2 ลุง พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ยังไม่รู้จะได้เกาะขบวนร่วมรัฐบาลหรือไม่
ถ้าองค์ประกอบรัฐบาลใหม่ไร้ 2 ลุง พรรคเพื่อไทยปิดจ๊อบนายกฯลำบากแน่ ตามสูตรรัฐบาลใหม่ที่มีกองกำลัง สส.เป็นต้นทุนแค่ 260 กว่าเสียง ตะเกียกตะกายยังไงก็ทะลุเพดาน 374 เสียง ลำบาก ถ้าไม่มีเสียงจากพรรคก้าวไกลหรือ สว.มาช่วยหนุนอย่างถล่มทลาย
สถานการณ์ทางลึกที่พรรคเพื่อไทยไปต่อยาก ต้องลุ้นตัวโก่งกระชากเสียงทุกทาง
ในช่วงที่ สว.กำลังฮึ่มฮั่มเค้นคอ “เศรษฐา” ถึงจุดยืนการแก้ไขมาตรา 112 หลังปรากฏคลิปเกี่ยวกับการแก้มาตราร้อนระหว่างการหาเสียง และยังเพ่งเล็งกรณีถูกขุดคุ้ยประเด็นเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน ตามที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทิ้งบอมบ์รายวัน
2 เรื่องสำคัญ มาตรา 112–ปมเลี่ยงภาษี ถูกหยิบเป็นเงื่อนไขหลักที่ สว.จะนำมาพิจารณาโหวตรับหรือไม่รับนายเศรษฐาเป็นนายกฯ
กดดันพรรคเพื่อไทยนั่งไม่ติด ต้องแก้เกมเร่งชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐาไม่มีจุดยืนแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และไม่เกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน
สว.ตั้งแง่เกมโหวตนายกฯ สแกนยิบแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ถึงจะเปลี่ยนหัวขบวนใหม่ก็ไม่ยอมให้ผ่านง่ายๆ ส่งสัญญาณเป็นนัย ถ้าไม่มีพรรค 2 ลุงร่วมคณะรัฐบาลใหม่ ใครก็สั่ง สว.ซ้ายหันขวาหันไม่ได้
หรือหากจะแอบหวังขอแต้มจากพรรคก้าวไกลยิ่งดูริบหรี่ ในยามที่ความสัมพันธ์ 2 พรรคถึงจุดแตกหัก แทงหลังกันมานับครั้งไม่ถ้วน
โอกาสจะโดนพรรคก้าวไกลตลบหลัง ไม่โหวตให้เป็นนายกฯมีสูงมาก
สถานการณ์ตั้งรัฐบาลใหม่พรรคเพื่อไทยยังร่อแร่ จำเป็นต้องเดินเกมแบบแทงกั๊ก ไม่ลุยสุดซอย สู้แบบกล้าๆกลัวๆ ทำได้แค่จีบพรรคระดับกลางๆที่มีความขัดแย้งน้อยมาร่วมรัฐบาล เลี่ยงดึงหัวโจกใหญ่พรรคพลังประชารัฐ-พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมขบวน ป้องกันการเจ็บตัวให้เกิดแรงกระเพื่อมจากกลุ่มมวลชนน้อยที่สุด
ตีคู่ไปกับการสนับสนุนนโยบายพรรคก้าวไกล อย่างสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า ยกเลิกเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ การปฏิรูปกองทัพ เพื่อลดกระแสกดดันด้อมส้ม และหวังลึกๆก้าวไกลอาจเปลี่ยนใจมาโหวตช่วย
เทียบน้ำหนักกันแล้ว เสียงพรรคใหม่ที่ได้มาคงทดแทนเสียงพรรคก้าวไกลที่หายไปไม่ได้ ถ้าไม่มีทีม 2 ลุงคอยประคองหลัง
เกมเดิมพันอำนาจครั้งสำคัญที่พรรคเพื่อไทยต้องจับขั้ว เลือกข้างให้ถูก ห้ามเดินผิดพลาด เพราะไม่ได้มีความหมายเฉพาะเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
แต่ยังเป็นเกมชี้ขาดเส้นทางกลับบ้านของใครบางคนอีกด้วย!!!
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม