ศึกชิงหัวหน้า ปชป.ยังระอุ “ไชยวัฒน์” ร้อง กกต.ชี้ มติประชุมใหญ่ ปชป.9 ก.ค.ส่อโมฆะ องค์ประชุมไม่ครบ จี้ แก้ข้อบังคับพรรค 70:30 ขัดหลักประชาธิปไตย มั่นใจ เสียง สส.ปชป.ในพรรค แตก ไม่มีใครเอาร่วมรัฐบาล เพราะไม่มีความสามัคคี 

วันที่ 3 ส.ค. นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำรายชื่อสมาชิกพรรค 130 คน ยื่นต่อ กกต.เพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนมติการประชุมใหญ่วิสามัญและมติคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมขอให้ กกต. มีคำสั่งเลื่อนการประชุมใหญ่พรรค ปชป.ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ออกไปก่อน และให้ กกต.สั่งให้พรรค ปชป.แก้ไขข้อบังคับพรรคให้ถูกต้องตามกฎหมาย

โดยนายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การประชุมเมื่อวันที่ 9 ก.ค. องค์ประชุมไม่ครบ และ กก.บห.พรรคมีมติงดเว้นการใช้ข้อบังคับการประชุมหลายข้อ ถือเป็นการลิดรอนสิทธิ สมาชิกพรรค และฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญปี 2560 และกฎหมายพรรคการเมือง

ทั้งนี้ ข้อบังคับพรรคที่ใช้ในการประชุมมีหลายข้อที่ขัดต่อกฎหมาย อาทิ 1.การออกมติ กก.บห.พรรคยกเว้นการหยั่งเสียงเบื้องต้น (ไพรมารีโหวต) ของที่ประชุมใหญ่ เพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค 2. การเพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากเดิมที่ข้อบังคับพรรค ระบุ จำนวน 250 คน เพียงพอแล้ว แต่กลับมีการเพิ่มจำนวนเป็น 374 คน และ 3.การใช้สัดส่วนการคำนวณคะแนนเสียงในการเลือกสมาชิกเป็น กก.บห.พรรค ในสัดส่วนร้อยละ 70 ต่อ 30 ที่กำหนดให้ ส.ส.ปัจจุบันมีสัดส่วน 70% ขณะที่สมาชิกพรรคมีสัดส่วน 30%

“ยกตัวอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เป็น สส. มีสัดส่วน 30% เท่ากับตน แต่เมื่อเทียบกับ นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง ที่เพิ่งเป็น สส.และสมาชิกพรรคแล้ว นายร่มธรรม มีสัดส่วนน้ำหนักในการโหวต 70% ซึ่งไม่ถูกต้อง ขัดหลัก 1 สิทธิ 1 เสียง ตามระบบประชาธิปไตย จึงขอให้ กกต.พิจารณา เพราะทั้งหมดไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และประชาธิปไตยสากล จึงควรแก้ไขข้อบังคับพรรคเหล่านี้ให้เป็นปกติตามหลักปฏิบัติสากลก่อน หากปล่อยให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 6 ส.ค.นี้ ก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก” นายไชยวัฒน์ กล่าว...

...

เมื่อถามว่า ที่ต้องมายื่น กกต.ให้สั่งเลื่อนประชุมวันที่ 6 ส.ค. เป็นเพราะยังมีปัญหาการช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ใช่หรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า อย่าเรียกว่าการช่วงชิง แต่ให้เรียกว่า การแข่งขันซึ่งเป็นเรื่องปกติ ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีการแข่งขันกันรุนแรงในสมัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และในครั้งนี้ก็ดูท่าว่า จะเป็นเหมือนครั้งก่อน จึงควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม ให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อนและแก้ไขข้อบังคับพรรคให้ถูกต้องก่อน แต่ถ้า กกต.ยังไม่มีคำสั่ง ก็อยู่ที่ กก.บห.พรรค จะพิจารณาเลื่อนออกไปได้ แต่ถ้ายังจะประชุมต่อไปเกรงว่า จะเกิดปัญหาตามมา

เมื่อถามย้ำว่า กรณีนี้เกี่ยวข้องกับที่พรรคอาจได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ ผู้ใหญ่ในพรรค 3-4 คน ไม่ไปด้วย อย่างนายชวน หลีกภัย ก็บอกว่าไม่เห็นด้วย ที่จะไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ ฉะนั้น ถ้ามี 3-4 คน บอกว่าไม่ไป ตนว่าเขาก็ไม่เอาเรา อย่างมี 25 คน ไป 24 คน สมมติคุณชวนไม่ไปคนหนึ่ง เขาก็ไม่เอาแล้ว เขาคงไม่คิดเอาพรรคที่มีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันไปร่วมรัฐบาล และวันนี้เท่าที่คุยมีหลายคน นอกเหนือจากคุณชวนที่บอกว่าไม่ไป และเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีงูเห่า เพราะการมีงูเห่าต้องออกไปอยู่พรรคอื่น ซึ่งเราไม่ได้ห่วงเรื่องงูเห่า ไม่ได้ห่วงเรื่องร่วมรัฐบาล เพราะเราเชื่อว่า ไม่มีใครเขาเอาเรา เราห่วงว่าจะทำอย่างไรให้พรรคเราต้องไปสู่ความสงบเรียบร้อย อยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง โดยไม่ต้องแก่งแย่งตำแหน่ง แต่ช่วยกันทำงาน

“ผมมีประสบการณ์ชีวิตการเมืองมาพอสมควร สมัยเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคอื่นมาร่วมกับเรามี 9 คน 20 คน ถ้ามาบ้าง ไม่มาบ้างเราก็ไม่เอา ความสามัคคีในพรรคไม่มี ก็ทำให้ความเป็นรัฐบาลแตกแยกด้วยซ้ำไป อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่คิดว่า คนจะจัดตั้งรัฐบาลต้องคิดได้” นายไชยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย