กว่าจะลงเอยกันได้ สำหรับ การตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี 66 วันนี้ถ้าไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย ความตื่นเต้นอยู่ที่ จะมี สว.ยกมือโหวตให้เศรษฐากี่คน จะมี พรรคการเมืองไหนบ้างที่ยกมือโหวตให้เศรษฐา เป็นนายกฯและในจำนวนนี้ พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคจะยกมือสนับสนุนตามที่สัญญากันไว้หรือไม่ โดยเฉพาะ พรรคก้าวไกล และถ้า พรรคก้าวไกล ยกมือให้แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยแล้ว จะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร

ภาระอันยิ่งใหญ่ก็จะตกอยู่กับเพื่อไทยทันที

คนที่ต้องแบกภาระหนักที่สุดคือ เศรษฐา ทวีสิน ถ้าได้รับการโหวตให้เป็นนายกฯ เพราะต้องชี้แจงให้ได้ ถ้า จะทิ้งก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านในสภา จะต้องตอบให้ได้ว่าทำไมถึงเอา พลังประชารัฐ กับ รวมไทยสร้างชาติ มาร่วมรัฐบาล ทั้งๆที่ตอนหาเสียง ได้สัญญากับชาวบ้านแล้วว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจ

คนที่จะต้องช่วยออกมาตอบคำถามนี้ก็คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และแพทองธาร ชินวัตร

ก้าวไกล ถึงไม่ได้เป็นรัฐบาลก็จะเบาตัวไปเยอะ ไปโกยคะแนนเอาไว้ในบทบาทของฝ่ายค้านในสภา ตั้งใจแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ต้องมาเหนื่อยกับ สงครามที่ไม่มีวันชนะ ไปอีกปีสองปี ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยมาว่ากัน

ส่วน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ต้องใช้เวลาในการแก้บ่วงกรรมให้หลุดจากกับดักทางการเมือง วันพระไม่มีหนเดียว ห่วงแต่ สส.ก้าวไกล จะถูกบ่วงวิบากกรรมไปด้วย ยึดหลักการที่ว่า จุดสิ้นสุดก็คือจุดเริ่มต้น ก็จะมีกำลังใจที่จะสู้ตามอุดมการณ์ต่อไป

ในยามที่ประเทศอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ผู้นำประเทศต้องทำงานหนักมากกว่าคนอื่น ไหนจะเรื่องของตัวเองที่จะต้องชำระร่างกายให้สะอาดหมดจด สิ่งที่ต้องพึงระวังให้มากที่สุดคือ จริยธรรมนักการเมือง และ ความซื่อสัตย์สุจริต ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

...

คิดว่าตัวเองไม่มีแผล หรือ รู้อยู่แล้วว่ามีแผล แต่ไม่แคร์สื่อ ถึงเวลาที่จะต้อง ผ่าทางตัน ข้อกล่าวหาที่มีคนเปิดแผลเอาไว้แล้ว จะเข้าใจอารมณ์และความรู้สึก ของพิธา ที่เป็นอยู่ในเวลานี้

นิด้าโพลไปถามชาวบ้านถึงความผิดพลาดของก้าวไกลที่ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ร้อยละ 42.98 ระบุว่า ก้าวไกลไม่ยอมยกเลิกบางนโยบาย สู้เกมการเมืองในสภาไม่ได้ ไม่ค่อยมีพันธมิตรทางการเมืองและไม่เข้าใจวัฒนธรรมและความเป็นจริงทางการเมือง สรุปแล้วถูกทุกข้อ เป็นความผิดพลาดของพรรคก้าวไกล ที่ประมาทไม่ตรวจสอบคุณสมบัติที่ส่งพิธาเป็นแคนดิเดตนายกฯ และยังไม่มีตัวสำรองเอาไว้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญให้มีแคนดิเดตนายกฯได้ถึง 3 คน

ต้องออกตัวแทนก้าวไกล คงไม่คาดคิดเหมือนกันว่า จะได้คะแนนมาอันดับ 1 ร้อยทั้งร้อยเชื่อว่า เพื่อไทยมาเป็นที่ 1 ได้มากกว่า 200 เสียง ก้าวไกลคิดว่าอย่างไร เพื่อไทยก็ต้องเป็นแกนนำอยู่แล้ว

เป็นอุทาหรณ์ว่า การเมืองที่ออกแบบไม่ได้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น การโหวตนายกฯรอบสามวันนี้ ก็ต้องเตรียมใจไว้ 1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าโหวตเลือกเศรษฐาเป็นนายกฯไม่ได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยังมีความหวัง.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม