หากมีการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.66 อย่างที่คาดการณ์กัน “เพื่อไทย” ที่ส่งแคนดิเดตเข้าชิงจะสมใจอยากหรือไม่นั้น

ขึ้นอยู่กับ “เพื่อไทย” เองหาใช่ใครอื่นไม่

เพราะในฐานะพรรคอันดับ 2 ที่ได้รับไม้ต่อจาก “ก้าวไกล” ให้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป เท่ากับว่าได้สิทธิอันชอบธรรมที่จะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง

จะยกเลิกเอ็มโอยู 8 พรรคก็ได้

จะนำพรรคไหนเข้าร่วม เพื่อทำให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จก็ได้

ข้อเสนอสุดท้ายในการเจรจาระหว่าง “เพื่อไทย”-“ก้าวไกล” ด้วยการขอให้ถอยเรื่อง ม.112 เพื่อจะเดินหน้าต่อไปได้

แต่ได้รับการปฏิเสธ...

ยิ่งเป็นความชอบธรรม ที่กระชับให้เหตุผลการต้องแยกทางกัน มีนํ้าหนักมากขึ้น เพราะมิฉะนั้นแล้วไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้

สำคัญยิ่งก็คือประเทศจะเดินต่อไปได้หากมีรัฐบาล เพราะข้อเสนอที่ให้รอไปก่อนจนกว่า สว.จะครบวาระในอีก 10 เดือนนั้น

ไม่ชอบด้วยเหตุผลในสภาพความเป็นจริง

เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องของพรรคการเมืองเอง ที่ต้องการเป็นรัฐบาลได้อำนาจ ไม่ใช่เรื่องของประเทศชาติและประชาชนแต่อย่างใด

สามารถจะทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้สนับสนุนได้

อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ “เพื่อไทย” ได้ยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มี “พรรค 2 ลุง” ร่วมอยู่ด้วย

เท่ากับสนองรับตามแนวทางประชาธิปไตยที่ปิดทางการสืบทอดอำนาจอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา

“ก้าวไกล” คงรับได้ในประเด็นนี้

ด้านมวลชนที่สนับสนุนและกดดันอยู่คงไม่ต่างกัน เพราะมิฉะนั้นไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นเหตุเป็นผล

...

“เพื่อไทย” ในฐานะพรรคการเมืองใหญ่ และผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างโชกโชนจึงต้องกล้าตัดสินใจ

ยิ่งไปกว่านั้นเคยจัดตั้งรัฐบาลมาหลายครั้ง เมื่อได้สิทธิคงไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะดำเนินการนำพรรคการเมืองต่างๆมาร่วม

มีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งไม่ใช่รัฐบาลเสียงข้างน้อย

ตามรูปการณ์ที่ออกมาอย่างนี้ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบนี้ น่าจะราบรื่นและได้รับเสียงสนับสนุนเกิน 376 เสียงแน่

เนื่องจากหมดข้อจำกัดเพราะ “ก้าวไกล” หลุดจากวงจรไปแล้ว เพราะไม่ยอมถอยเรื่อง ม.112 ที่เป็นอุปสรรค

“เพื่อไทย” คงเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และได้รับการโหวตผ่านบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสำเร็จ

แม้จะข้องใจอยู่บ้าง แต่ สว.ก็คงไม่กล้ายื้ออีกแล้ว

จากนั้นก็ไปฟอร์มรัฐบาล ตั้งคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพราะหลังวันปิดหีบเลือกตั้งจนถึงวันนี้ ก็ใช้เวลานานพอสมควรแล้ว

ก็อย่างที่บอกไว้ พรรคที่ 1 และที่ 2 มันอยู่ร่วมกันไม่ได้!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม