เพื่อไทยสลัดทิ้งก้าวไกล ฉีกเอ็มโอยู 8 พรรค อ้างเจอทางตันไร้พันธมิตรทั้ง สส.- สว.ไม่เอาพรรคแก้ ม.112 ชูภารกิจแรกออกมติ ครม.ทำประชามติแก้ รธน.60 เป็นวาระแห่งชาติ ร่างเสร็จยุบสภาคืนอำนาจเลือกตั้งใหม่ทันที มั่นใจมีเสียง 13 พรรคไม่ง้อพรรค 2 ลุงรวมกับ สว.ดัน “เศรษฐา” ขึ้นแท่นนายกฯคนที่ 30 ได้แน่นอน “ชัยธวัช” ครวญขอโทษประชาชน แฉพท.ไม่เคยขอให้ถอยแก้ ม.112 หวั่น สว.ระแวงไม่ขอมือก้าวไกลให้โหวตหนุน หวังรัฐบาลใหม่แก้ รธน.ต้นตอการเมืองบิดเบี้ยวทำให้อำนาจสูงสุดไม่ใช่ของประชาชน “อนุทิน” จี้ พท.ต้องเคลียร์ให้ชัดก่อนโหวต 4 ส.ค. หัวเราะร่วนรอคนมาสู่ขอ แบะท่าเรื่องกัญชาทำความเข้าใจกันได้ “สว.วันชัย” หนุน พท.โชว์ผลงานเก็บคะแนน “เสรี” เสียงอ่อนขอฟังวิสัยทัศน์ “เสี่ยนิด” ในสภา ขณะที่ม็อบป่วนสาดเลือดหมูเผาหุ่นหน้าพรรค พท.
หลังจากยักแย่ยักยันไม่มีความชัดเจน เพื่อให้ได้รับเสียงสนับสนุนโหวตเลือกแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเป็นไปอย่างราบรื่น และจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยเร็ว ในที่สุดพรรคเพื่อไทยประกาศฉีกเอ็มโอยูขอแยกทางกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน
พท.-ก.ก.ถก 5 ชม.เคลียร์ตั้ง รบ.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่อาคาร AOI Tower ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมระหว่างแกนนำพรรค พท.กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อหารือถึงความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน โดยมีแกนนำที่เข้าร่วมหารือ ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ก.ก. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ใช้เวลาหารือร่วมกันนานเกือบ 5 ชั่วโมง
...
ร่ายทางตัน ก.ก.ไม่ถอย ม.112
จากนั้นเวลา 14.20 น. นพ.ชลน่านอ่านแถลงการณ์ผลการหารือระหว่าง 2 พรรคว่า “เริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ” เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรค ก.ก.และพรรค พท.จับมือร่วมกับอีก 6 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาล มีพรรค ก.ก.เป็นแกนนำ เสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก.ก. เป็นนายกฯ ทั้ง 8 พรรคมีข้อสรุปภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเห็นอย่างชัดเจนจากพรรคพท.ยึดมั่นการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งประเทศ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ป.อาญามาตรา 112 ทั้งนี้วันที่ 13 ก.ค. แคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก.ไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาได้ โดยมีเพียง 324 เสียงจากที่ต้องการ 376 เสียง พรรค พท.สนับสนุนพรรค ก.ก.อย่างเต็มความสามารถ ทั้งการอภิปราย และยกมือสนับสนุน 141 เสียง แต่เนื่องจากปรากฏเงื่อนไขพรรคการเมืองอื่นๆ และ สว.ไม่ยอมรับนโยบายแก้ไขมาตรา 112 โดยพรรค ก.ก.รับทราบท่าทีเหล่านี้ แต่ยืนยันไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายเป็นการแน่ชัดว่า แคนดิเดตนายกฯ พรรค ก.ก.ไม่สามารถผ่านการลงมติเห็นชอบจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งได้
ประกาศขอถอนตัวฉีกเอ็มโอยู
นพ.ชลน่านกล่าว ที่ประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีมติส่งมอบภารกิจแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคพท.ไปหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองนอกกลุ่มพรรคร่วมเดิม และ สว. พรรค พท.จึงเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจาก สว.และ สส. โดยเชิญหลายพรรคหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และส่งตัวแทนรับฟังความคิดเห็น สว. พบว่านโยบายแก้มาตรา 112 ยังคงเป็นเงื่อนไขหลัก บางพรรค บางคนแสดงเจตนาชัดแจ้งไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลของพรรคก.ก.ทุกกรณี สถานการณ์เช่นนี้พรรค พท.ได้หารือพรรค ก.ก.ขอถอนตัวจากการร่วมมือกัน และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ดำรงตำแหน่งนายกฯ พรรค พท.และนายเศรษฐาขอยืนยันชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรค ก.ก.อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล พรรค พท.จะใช้ความพยายามรวบรวมเสียงให้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และพรรค ก.ก.จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ยืนยันจะทำงานการเมืองมิติใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน
ลุยภารกิจแรกแก้ รธน.ปี 60
นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลังจากนี้ภารกิจที่สำคัญมีดังนี้ 1.ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นต้นเหตุความยากลำบากการจัดตั้งรัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยออกมติ ครม.ในการประชุมครั้งแรกให้ทำประชามติและจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ 2. พร้อมผลักดันนโยบายที่พรรค พท. และพรรคร่วมที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกัน อาทิ กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายสุราก้าวหน้า การปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ กระบวนการยุติธรรม เกณฑ์ทหารระบบสมัครใจ ยกเลิกการผูกขาด และส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม เป็นต้น ให้สำเร็จ พรรค พท. ขอแสดงความจริงใจต่อเพื่อนมิตรทุกพรรคและ สว.รวมทั้งประชาชนว่า นี่คือแนวทางรักษาสถาบันสำคัญของชาติให้เป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งประเทศ ช่วยผลักดันความต้องการประชาชนภายใต้ข้อจำกัดและเส้นทางที่ยากลำบากนี้ไว้ได้ เพื่อให้ภารกิจนำประเทศพ้นวิกฤติ สร้างสรรค์ประชาธิปไตย แก้ไขความขัดแย้งอย่างมีนัยสำคัญ ปลดพันธนาการจากกลไกไม่ปกติให้คืนสู่ความปกติ จะเร่งแก้วิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชนโดยเร็ว ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งเป็นกติกาสูงสุดจากอำนาจประชาชน
มั่นใจทิ้ง ก.ก.ดึงเสียง สว.ได้ครบ
จากนั้น นพ.ชลน่านตอบข้อซักถามสื่อมวลชนว่า บรรยากาศพูดคุยเป็นไปด้วยดี ไม่ใช่การบอกเลิกกัน แต่เป็นความจำเป็นต้องชี้ให้เห็นเหตุผลที่ต้องแยกกันจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรค ก.ก. ส่วนพรรค ก.ก.จะโหวตสนับสนุนพรรค พท. เป็นนายกฯหรือไม่นั้นให้เป็นเอกสิทธิ์ สส.พรรค ก.ก. ส่วนรัฐบาลใหม่จะมีพรรคใดบ้างจะแจ้งให้ทราบในวันที่ 3 ส.ค.ขณะที่ท่าที สว.จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ จากการแถลงวันนี้และแนวทางที่ชัดเจนน่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ สว.จะโหวตให้ความเห็นชอบ มั่นใจว่าโหวตนายกฯวันที่ 4 ส.ค. พรรค พท.จะได้เสียงสนับสนุนครบ จะจบด้วยการได้นายกฯ จากนั้นจึงจัดตั้งรัฐบาล ถ้าให้รัฐบาลเข้มแข็งควรมีเสียงเกิน 300 เสียงขึ้นไป แต่ด้วยข้อจำกัดขณะนี้จะหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด ส่วนที่ สว.ต้องการให้นายเศรษฐาแสดงวิสัยทัศน์นั้น นายเศรษฐาพร้อมตอบทุกข้อสงสัย แต่ด้วยความที่นายเศรษฐาไม่เป็น สส.ถ้าเข้าสภาฯ ไปอาจมีประเด็นที่คาดไม่ถึง จึงขอไม่เข้าไปในที่ประชุม แต่หากมีอะไรที่พาดพิง สส.เพื่อไทยพร้อมลุกขึ้นชี้แจงแทน
แทงกั๊กพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า จะไม่มีพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ขอให้รอความชัดเจนในวันที่ 4 ส.ค. มั่นใจว่าจะตอบคำถามสังคมได้ทุกข้อสงสัย ส่วนที่ประชาชนชุมนุมกดดันพรรค พท.ที่จะตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรค ก.ก.นั้น การมีรัฐบาลคือสิ่งจำเป็น ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงข้อจำกัด การแสดงออกทางการเมืองยุคนี้มีความหลากหลายอยู่แล้ว ในฐานะตัวแทนประชาชนต้องพร้อม เชื่อว่ารับมือได้ เมื่อถามว่า ลำบากใจหรือไม่ที่ต้องตัดสินใจแยกทางกับพรรค ก.ก. นพ.ชลน่านตอบว่า ไม่มีอะไรสวยงามทุกอย่าง เราพยายามทำในสิ่งที่เสียหายกับประเทศน้อยที่สุด
ชี้เป้าหลักนั่งเก้าอี้นายกฯให้ได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท.กล่าวถึงกรณีพรรค ก.ก. วิจารณ์พรรค พท. ประวิงเวลา ไม่เรียกประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่ใช่การประวิงเวลา ที่ช้าเพราะถูกร้องขอจากแกนนำพรรคก้าวไกลให้รอถึง 23.00 น. วันที่ 31 ก.ค. เรารอถึงเที่ยงคืน แต่พรรค ก.ก.ไม่ติดต่อกลับมา จึงดำเนินการตามแนวทางของเราตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ได้หารือพรรค ก.ก.มาตลอด แต่พรรค ก.ก.อาจมีปัญหาการสื่อสารกับสมาชิก การตกลงกันครั้งนี้ระหว่าง 2 พรรค ไม่ใช่การเกี้ยเซียะการเมือง แต่เป็นการต่างคนต่างทำหน้าที่โดยไม่มีพรรค ก.ก.ร่วมตั้งรัฐบาลด้วย แต่นโยบายใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชน พร้อมร่วมผลักดัน แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยคือการแก้ไขมาตรา 112 การประสานงานหลังจากนี้ทุกพรรคไม่มีเงื่อนไขใดๆในการเข้าร่วมรัฐบาล เป้าหมายพรรค พท.คือต้องได้ตัวนายกฯก่อน ส่วนเสียงพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อการบริหารประเทศได้
ให้ 6 พรรคตัดสินใจไปต่อหรือไม่
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท.กล่าวว่า หลังจากพรรค พท.แยกทางกับพรรค ก.ก.อีก 6 พรรคร่วมรัฐบาลจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลใหม่กับพรรค พท.หรือไม่ ขอให้เป็นดุลพินิจแต่ละพรรค หากเห็นด้วยกับแนวทางพรรคเพื่อไทย เราก็ยินดี บางพรรคตอบรับมาแล้ว บางพรรคยังไม่แสดงท่าที ในวันที่ 3 ส.ค.ช่วงบ่าย จะออกแถลงการณ์ตั้งรัฐบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่พรรค พท.แถลงถอนตัวจากเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้เคลื่อนขบวนคาร์ม็อบมาถึงหน้าที่ทำการพรรคพอดิบพอดี
ผวาด้อมส้มติดกล้องใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของตึก AOI Tower เปลี่ยนกล้องวงจรปิด บริเวณโถงชั้น 1 และบริเวณโดยรอบที่ทำการพรรค พท.ที่จากเดิมตัวกล้องบันทึกได้แค่ภาพนิ่งให้เป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ HD มีทั้งภาพและเสียง เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม หลังจากที่กลุ่มทะลุวังบุกขึ้นไปยังโซนสำนักงานของพนักงานพรรค และสาดแป้งใส่แกนนำพรรค พปชร.ที่แกนนำพรรค พท.เชิญมาหารือจัดตั้งรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมที่อาจบุกเข้ามาในที่ทำการพรรค โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพรรค พท.ได้นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางเข้าด้านหน้าที่ทำการพรรค
แพร่คลิป “นิด” ย้ำไม่เอาลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊กพรรค พท.ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งและการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆโดยเนื้อหาเป็นการเน้นย้ำนโยบายการพัฒนาประเทศ และมีตอนหนึ่งระบุว่า “เอาปืน เอารถถังออกมายึดอำนาจจากพวกเรา จากประชาชน แล้วคิดว่าคนอย่างผมนายเศรษฐา อยากไปร่วมกับเขาเหรอ ผมไม่คิดไปร่วม ไม่มีความคิดเลยด้วย”
รวมเสียงดัน “เศรษฐา” เกิน 376
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของพรรค พท.ที่จะมีขึ้นวันที่ 3 ส.ค. เวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา โดยหลังจากชัดเจนแล้วว่าพรรค พท.ได้แยกทางกับพรรค ก.ก.ในการจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุดพรรค พท.ได้รวบรวมเสียงจากพรรคที่จะยกมือสนับสนุนให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.ประกอบด้วย พรรค พท. 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง (ทรล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง และพรรคหนึ่งเสียงที่เหลือยกเว้นพรรคเป็นธรรม ประกอบด้วย พรรคเสรีรวมไทย ประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสียงส่วนใหญ่ประมาณ 19-22 เสียง จากทั้งหมด 25 เสียงจะยกมือให้ ยกเว้นกลุ่มของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.ขณะที่ในส่วนของ สว.ทางแกนนำพรรค พท.มีความมั่นใจว่าหลังจากไม่มีพรรค ก.ก.ร่วมรัฐบาลลดเงื่อนไขมาตรา 112 ไปแล้วจะได้รับเสียงสนับสนุนประมาณ 100-150 เสียงขึ้นไป มั่นใจว่ามีเสียงเพียงพอให้นายเศรษฐาได้เป็นนายกฯ ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 151 เสียง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 36 เสียง พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) 6 เสียง และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง รวม 234 เสียง
“ชัยธวัช” แถลงขอโทษประชาชน
เมื่อเวลา 16.00 น.ที่อาคารไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก.แถลงว่า มีประเด็นเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล 3 ประเด็นคือ 1.พรรค ก.ก.ขอโทษประชาชน ที่ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของประชาชน ผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ ในการพูดคุยระหว่างเมื่อเช้านี้ พรรค พท.ได้แจ้งว่า ต้องการที่จะขอออกจากเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับ คือเอ็มโอยู 8 พรรค และเอ็มโอยูที่พรรค พท.กับพรรค ก.ก.ทำร่วมกัน ตอนพูดคุยเรื่องการเลือกประธานสภาฯ 2.พรรค พท.ไม่ได้ขอให้พรรค ก.ก.พิจารณาถอยเรื่องการเสนอการแก้ไขมาตรา 112 และตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเจรจากันเรื่องนี้ โดยพรรค พท.ให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรค พท.ไปพูดคุยกัน ไม่ต้องการให้พรรค ก.ก.เข้าร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะมีเรื่องมาตรา 112 หรือไม่ 3.พรรค พท.ไม่ได้ขอให้พรรค ก.ก.โหวตให้แคนดิเดตนายกฯของพรรค พท.ในวันที่ 4 ส.ค.เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์แต่ละพรรค และเมื่อเช้านี้ แกนนำพรรค พท.บางคนกังวลใจด้วยซ้ำว่า หากพรรค ก.ก.จะโหวตให้แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.อาจทำให้ สว.ไม่ไว้วางใจพรรค พท.ได้ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหน พรรค ก.ก.จะทำงานเต็มที่ สร้างระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่เสียงและอำนาจประชาชนมีความหมายจริงๆให้ได้สักวันหนึ่ง
ยังไม่รับสถานะแกนนำฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า การโหวตนายกฯวันที่ 4 ส.ค.พรรค ก.ก.จะโหวตอย่างไร จะงดออกเสียงหรือ นายชัยธวัชตอบว่า ยังไม่มีมติ เมื่อถามพร้อมทำงานร่วมกับพรรค พท.พิจารณากฎหมายสำคัญ เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียมหรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า เอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับ ไม่มีอีกแล้ว ซึ่งฉบับหลัง ส่วนสำคัญคือเคยตกลงกันว่าจะร่วมมือผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ และการนิรโทษคดีการเมือง หวังว่า สส. แม้ว่าจะไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกัน หากพรรค ก.ก.เป็นฝ่ายค้านก็หวังว่า สส.ฝ่ายรัฐบาลจะเห็นชอบด้วย เมื่อถามว่า วันนี้ ประกาศได้เต็มชัดหรือเปล่า เป็นแกนนำฝ่ายค้านทำหน้าที่ในสภาฯ นายชัยธวัชตอบว่า ตรงนี้ยังไม่ได้จบเป็นทางการ แต่ไม่ว่า ก.ก.จะอยู่ในฐานะไหนจะทำหน้าที่ผู้แทนอย่างดีที่สุด
ปัดไม่จุกจากกันแบบเข้าใจ
เมื่อถามว่า พรรค พท.แจ้งหรือไม่ว่า จะรวมเสียงของพรรค 2 ลุง ที่พรรค ก.ก.ไม่เอาด้วยหรือเปล่า นายชัยธวัชตอบว่า ยังไม่ได้แจ้งชัดเจน เมื่อถามว่า ความรู้สึกของพรรค ก.ก.ขณะนี้ อยากจะระบาย ออกมาว่าเป็นเจ็บ จุก หรือว่าไม่เป็นไร นายชัยธวัชตอบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ปัญหาการเมืองไทยคืออำนาจสูงสุดไม่ใช่เป็นของประชาชน นี่คือปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยยุคสมัยนี้ เป็นภารกิจของพวกเราจะผลักดันเปลี่ยนแปลงอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้การเมืองไทยกลับมาเป็นระบอบประชาธิปไตยปกติ ที่เสียงและอำนาจประชาชนสำคัญที่สุด เมื่อถามว่า ถ้ามีการรวมเสียงของพรรคลุงมาอยู่กับพรรค พท. ทางพรรค ก.ก. จะมีท่าทีอย่างไร นายชัยธวัชตอบว่า อันนี้คงไม่เกี่ยวกับ ก.ก.แล้ว เป็นเรื่องของพรรค พท.เมื่อถามว่า เที่ยวนี้ถือว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า เราเข้าใจซึ่งกันและกัน สส.พรรคเข้าใจสถานการณ์ และแน่นอน เรายังเห็นว่า ถ้า 8 พรรคยังจับมือแน่น เราไม่เชื่อว่าจะเกิดพลิกขั้วรัฐบาลได้ แต่เมื่อพรรค พท.ตัดสินใจออกจากเอ็มโอยูแล้วการจัดตั้งรัฐบาลคงเป็นอีกแบบหนึ่ง
จำยอมตกเป็นฝ่ายค้านกับ 2 ลุง
เมื่อถามว่า ถ้าสุดท้ายแล้วต้องเป็นฝ่ายค้าน และพรรค 2 ลุง เป็นฝ่ายค้านจะทำงานในฝ่ายค้านอย่างไร นายชัยธวัชตอบว่า อันนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ปกติแล้วจะเลือกพรรคที่มาร่วมรัฐบาลกัน ส่วนพรรคที่ไม่ได้ถูกเลือกก็เป็นฝ่ายค้าน มันไม่มีสิทธิเลือก ไม่มีการจับขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้านหรอก เข้าใจว่า ถ้ารัฐบาลใหม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.จริงๆ การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ไม่นาน นั่นเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังด้วย และเราคาดหวังว่า เรื่องการจัดทำประชามติเพื่อให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นวาระเร่งด่วน หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ
“พิธา” งอมไข้หวัดใหญ่นอน รพ.
นายชัยธวัชกล่าวถึงท่าทีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ว่า นายพิธาอยู่โรงพยาบาล เนื่องจากไข้หวัดใหญ่หนักกว่าที่คิดไว้ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เลยไม่ได้มาเข้าร่วมการประชุม สส. แต่ได้มีการพูดคุยกับนายพิธาผ่านทางออนไลน์หลังมีการประชุมกับพรรค พท.เสร็จ ได้แจ้งให้ นายพิธาทราบ กำลังใจดี แต่เสียงไม่มีเลย เข้าใจว่าเป็นเพราะไข้หวัดใหญ่ นายพิธาไม่ได้มีความเห็นอย่างไร เมื่อ พท.ตัดสินใจแบบนี้ เราคงไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ พร้อมทำงานเต็มที่ ไม่ว่าในบทบาทไหน
“อมรัตน์” แฉ พท.ไม่ง้อมือ ก.ก.
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค ก.ก. โพสต์เฟซบุ๊กชี้เเจงประเด็นที่สื่อมวลชนรายงานข่าวในประเด็น “เพื่อไทยชี้มีความจำเป็นไม่ให้ก้าวไกลร่วมจัดตั้งรัฐบาล เหตุ สว.และ สส.ไม่เอา เตรียมดึงพรรคร่วมกลุ่มใหม่คาดไม่มีพรรคลุง หวังก้าวไกลยกมือให้” ว่าเป็นข้อมูลที่คาดเคลื่อน ข้อมูลนี้ไม่ตรงกับที่แกนนำพรรค พท.พูดในวงเจรจาช่วงสายของวันที่ 2 ส.ค.ที่ถูกต้อง คือ ในวงเจรจาแกนนำพรรค พท.คนหนึ่งพูดว่า ไม่ได้ต้องการเสียงของพรรค ก.ก.เหตุผลเพราะถ้าโหวตให้จะทำให้ 1.สว.อาจจะไม่พอใจ 2.สว.อาจจะระแวงได้ว่า ต่อไปจะเอาพรรค ก.ก.กลับมาร่วมรัฐบาล
“ปิยบุตร” ปลุกก้าวไกลเดินหน้าสู้ต่อ
ช่วงเย็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่มีอะไรที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. และพรรค ก.ก.ต้องเสียใจ ไม่มีอะไรที่ต้องเสียหน้า ไม่มีอะไรที่ต้องท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่มีอะไรต้องคลางแคลงสงสัยว่าคิดผิด พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียใจ ที่มองสถานการณ์ระยะสั้น ต้องเสียหน้า ตอบใครไม่ได้แม้กระทั่งตอบใจ ตนเอง ต้องแก้ปัญหาในสิ่งที่พูดไปแบบวัวพันหลัก พวกเขาต่างหากที่ต้องท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่รู้ว่าในอนาคต จะชนะ ก.ก.ได้ด้วยวิธีไหน จะยุบจะตัดสิทธิ อย่างไรก็ฆ่า ความคิดไม่ตาย หนทางพิสูจน์ม้า และเวลาพิสูจน์คน ใครถอยและใครทนพิสูจน์ได้เมื่อภัยมา ดีเสียอีกที่ การเมืองไทยได้ขีดเส้นใหม่แบ่งใหม่ชัดเจน ต่อไปไม่ใช่สงครามสีเสื้อต่อสู้ระหว่างพรรค แต่คือการต่อสู้ ระหว่าง อดีต vs อนาคต ที่ประชาชนผู้ทรงอำนาจ สูงสุดร่วมกันกำหนด เข็มนาฬิกาเดินหน้าต่อให้ใครหยุดไม่ให้เดินอย่างไรมันจะเดินต่อไป ขอจงยืนตรงอย่างทรนงองอาจเดินหน้าสู้ต่อภัยทั้งปวงตามแนวทางระลึกถึงแววตาเสียงร้อง อ้อมกอด น้ำตาของประชาชนที่ฝากความหวังตระหนักถึงภาระที่ประชาชนส่งมอบ ให้นับแต่ 14 พ.ค. สู้จนกว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
“หนู” จี้เคลียร์ให้ชัดก่อนโหวต
ช่วงบ่าย ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวถึงทิศทางการโหวตนายกฯในวันที่ 4 ส.ค.ว่า ต้องดูก่อนว่าการนำเสนอเป็นอย่างไร ตอนนี้ ยังไม่ได้คุยกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใดๆ เมื่อถามว่า เชื่อสูตรที่พรรค ก.ก.จะโหวตให้พรรค พท.แล้วยอมไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า สมาชิกพรรค ก.ก.บอกว่าไม่มีสูตรนี้ จริงๆถ้าเป็นฝ่ายค้านต้องเป็นฝ่ายค้านตลอด ทำหน้าที่ตรวจสอบ ยกเว้นถ้าทำแล้วประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์ มาสนับสนุนรัฐบาลน่าชมเชย เมื่อถามว่า สว.ห่วงว่า แม้พรรค ก.ก.จะยอมเป็นฝ่ายค้านในตอนโหวตนายกฯ แต่เวลาจัดตั้งรัฐบาลกังวลว่า พรรค พท. จะนำพรรค ก.ก.มาร่วมรัฐบาลด้วย นายอนุทินตอบว่า คนที่จะไปร่วมรัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจน อันนี้สำคัญมาก ไม่ใช่ปล่อยให้โหวตกันไปก่อนทำแบบนั้นไม่ได้ ควรต้องทำให้ชัดเจนประชาชนต้องมีส่วนรับรู้รับทราบ ลักไก่ตีกินไม่สามารถทำได้เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกอย่างต้องชัดเจนถึงบอกว่าต้องไม่ใช้คำว่า ดีลลับมีไม่ได้ ต้องพูดให้ชัดเจนมีพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้าง ต้องไม่มีนโยบายอะไรบ้าง ทุกอย่างต้องชัดเจนก่อนจะอึมครึมไม่ได้
เผย พท.ยังไม่มาทาบทาม
ต่อมาเวลา 15.55 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีพรรค พท.ประกาศแยกทางกับพรรค ก.ก.ว่า ยังไม่มีการติดต่อมา วันที่ 3 ส.ค.มีการประชุมสภาฯเจอกันที่สภาฯคงได้พูดคุยกัน เมื่อถามว่า ไม่มีพรรค ก.ก.ร่วมรัฐบาลแล้วการโหวตนายกฯในวันที่ 4 ส.ค.จะราบรื่นใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า วันที่ 4 ส.ค.เราดำเนินการไปตามระเบียบวาระ แต่คิดว่าต้องมีการพูดคุยกันก่อนว่า ฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลต้องการให้ ภท.มีทีท่าอย่างไร ขอย้ำว่าต้องมีการพูดคุยกันก่อน นี่คือข้อตกลงที่เราไปพูดคุยกันเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา รับรองไม่มีดีลลับ ทุกอย่างต้องเปิดเผย เมื่อถามว่า ขณะนี้ ภท.รอให้พรรค พท.มาสู่ขอใช่หรือไม่ นายอนุทินได้แต่หัวเราะ เมื่อถามว่า แนวโน้มพรรค ภท.จะร่วม 100% เลยใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องดูว่าเขารับเงื่อนไขเราได้หรือไม่ เขาทราบแล้วตั้งแต่ที่เราไปแจ้งที่พรรค พท.และความรับผิดชอบจัดตั้งรัฐบาลยังอยู่ที่ พท. ภท.เงื่อนไขเหมือนเดิมคือไม่แตะต้องมาตรา 112 และไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย
แบะท่า ก.ม.กัญชาคุยกันได้
เมื่อถามว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.มีท่าทีว่าจะดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด พรรค ภท.มองเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คงต้องหารือกัน สมัยที่ ภท.เป็นรัฐบาลผลักดันให้กัญชาเป็นเสรีทางการแพทย์ และร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงค้างอยู่ในสภา เราก็มีหน้าที่ผลักดันให้กัญชาเกิดประโยชน์สูงสุด ต้องพูดคุยกัน เขาอาจยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ ยังไม่ได้ฟังข้อมูลจาก ภท.หากมีโอกาสได้พูดคุยกันให้เกียรติกัน พอได้ทำงานร่วมกันส่วนใหญ่จะให้เกียรติกันเกิดขึ้น และรับฟังเหตุผลความจำเป็น สำคัญที่สุดคือประโยชน์ส่วนรวมได้หรือเปล่า หากไม่เกิดประโยชน์ส่วนรวมผลักดันไม่ได้
“เสรีพิศุทธ์” ไม่ยกก้นจองที่เดิม
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.)กล่าวหลังพรรค พท.จับขั้วใหม่ตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรค ก.ก.เข้าร่วมว่า พร้อมทำงานร่วมกับพรรค พท.ต่อไป ส่วนพรรค พท.จะจับขั้วกับพรรคใดนั้นยังไม่ได้รับแจ้งข่าวหรือการประสานงานมา ก่อนหน้านี้เคยแสดงจุดยืนไปแล้วว่าทำงานได้กับทุกพรรค ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม การที่พรรค ก.ก.กลายเป็นฝ่ายค้านเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เมื่อพรรค ก.ก.ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ต้องยอมรับ เมื่อถามว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่หากเป็นฝ่ายค้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่พรรค ก.ก.ยังมีประเด็นที่ถูกร้องเรื่องการล้มล้างการปกครอง หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิดและยุบพรรค ก.ก.นายปดิพัทธ์ ฐานะกรรมการบริหารพรรค ก.ก.ต้องพ้นตำแหน่งไปตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การลาออกตอนนี้หรือไม่ยังไม่จำเป็น
ปชป.นัดถกโหวตนายกฯรอบ 3
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า พรรคนัดประชุม สส.พรรค ในวันที่ 3 ส.ค. เวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา เพื่อกำหนดท่าทีพิจารณาเลือกนายกฯ จะเปิดให้ สส.ได้แสดงความเห็นกรณีนโยบาย แนวคิดของพรรค บุคคลผู้ถูกเสนอตัวว่ามีการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 หรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณากับเหตุผลอื่นๆโดยรอบคอบบนหลักการอุดมการณ์ของพรรค ทั้งนี้พรรค ปชป.ยังไม่ได้หยิบยกเรื่องการร่วมรัฐบาลหรือไม่ ขอย้ำว่าพรรค ปชป.มีศักดิ์ศรี ทุกหน้าที่สามารถทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติได้ทั้งหมด เราเป็นมาแล้วทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
“ท็อป” เชื่อราบรื่นกว่าโหวต “พิธา”
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า หลังจากพรรค พท.ประกาศแยกทางกับพรรค ก.ก.ถึงเวลานี้ยังไม่มีใครโทรศัพท์มาคงต้องรอดูกันต่อไป จากการพูดคุยกับพรรค พท.ที่ผ่านมา มีแนวนโยบาย แนวคิด และทัศนคติไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนภารกิจการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่หลายพรรคเรียกร้องในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมายต่างๆพอเป็นพรรค พท.เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่ในพรรคทำให้มีความคิดที่รอบคอบมากขึ้น เมื่อถามถึงสูตร 265 เสียงที่ไม่มีพรรค พปชร.กับพรรค รทสช.แล้วจะทำงานร่วมรัฐบาลใหม่กับพรรค พท.ได้หรือไม่ นายวราวุธตอบว่า ถือเป็นสิทธิของพรรค พท.ที่จะเชิญพรรคใดเข้าร่วมรัฐบาล พรรค ชทพ.ไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆ ในวันที่ 4 ส.ค.การโหวตนายกฯไม่สามารถมั่นใจได้นายกฯ 100% แต่น่าจะราบรื่นมากกว่าครั้งที่แล้ว
“สุวัจน์” เผย ชพก.ยกมือทั้งพรรค
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค ชพก. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พท.มีแถลงการณ์จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรค ก.ก.ว่า ต้องรอดูโครงสร้างของพรรคการเมืองที่จะประกอบกันเป็นรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของพรรค พท.แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีความชัดเจนก่อนโหวตเลือกนายกฯวันที่ 4 ส.ค. ทั้งเรื่องจำนวนเสียงสนับสนุน และนโยบายต่างๆตามที่พรรค พท.ได้แถลงไว้ ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีประสบ การณ์ทั้งการเป็นนายกฯ การจัดตั้งรัฐบาล และเรื่องการบริหาร เชื่อว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จลุล่วงเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศได้ต่อไป ส่วนแคนดิเดตนายกฯคือนายเศรษฐา แม้ว่าจะไม่ได้เป็นภาคการเมืองมาก่อน แต่มีความรู้ความเข้าใจเศรษฐกิจ ถือว่าจะเป็นนายกฯ ที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจอย่างดี และเข้าใจปัญหาต่างๆ บวกกับความเข้มแข็งโครงสร้างทางการเมืองพรรคเพื่อไทย พรรค ชพก.ก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุนพรรค พท.และแคนดิเดตนายกฯคนใหม่ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลประสบความสำเร็จ
รทสช.ชั่งใจยกมือโหวตให้ พท.
ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช.ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคหลังพรรค พท.แถลงฉีกเอ็มโอยูและประกาศไม่มีพรรค ก.ก.ร่วมรัฐบาลว่า จุดยืนยังเหมือนเดิม แต่ต้องรอดูเป็นสเต็ป ขั้นตอนแรกโหวตเลือกนายกฯเราประกาศชัดเจน หากมีพรรคก.ก. และการแก้ไขมาตรา 112 เราไม่สามารถโหวตให้ได้ หากหลุดจากเงื่อนไขตรงนี้ ก็ต้องรอดูสเต็ปต่อไปว่าจะสามารถไปกันได้หรือไม่ พรรค พท.เพิ่งแถลงข่าวไปและยังไม่ได้ติดต่อมา เราไม่ติดใจที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพียงแต่จะอยู่ตรงไหนต้องรักษาจุดยืน ยืนยันเสียงของพรรค รทสช.ต้องไปในทิศทางเดียวกัน และจนถึงวันนี้ไม่มีครั้งไหนที่งดออกเสียง เราชัดเจนว่าเอาหรือไม่เอา เรื่องฟรีโหวตคงเป็นไปไม่ได้ เราไม่ทำแบบนั้น ส่วนการพูดถึงไม่เอาลุงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ได้ลาออกไปแล้ว จะเอากันไปถึงไหน อยากให้พูดถึงอนาคตดีกว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากจมอยู่กับอดีตก็ไม่มีอนาคต
ไม่ต้าน “เศรษฐา”-ติงอย่าดูข่าวโง่ๆ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวว่า การโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 4 ส.ค. คิดว่าถ้าพูดคุยกันก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับคุณสมบัติของนายเศรษฐา ถ้ายืนยันชัดเจนเรื่องมาตรา 112 แล้วทำงานได้ การเป็นทั้งแคนดิเดตนายกฯและนักธุรกิจไม่ได้มีปัญหาอะไร คิดว่าไม่มีใครรังเกียจรังงอนใคร ส่วนเงื่อนไขไม่มีลุงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะสมาชิกพรรคได้ลาออก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว เรื่องนี้เป็นเหตุผลของบางพรรคการเมืองเท่านั้น บางทีการดูข่าวการพูดของนักการเมืองรุ่นใหม่ รุ่นเก่ามากเกินไป แต่ละคนก็เก่งๆกันทั้งนั้น มีเพื่อนตนส่งงานวิจัยของต่างประเทศมาให้พบว่าถ้าเราไปดูอะไรที่มันโง่ๆมาก มันจะทำให้เราโง่ตามไปด้วย เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังในการดูด้วย
“วันชัย”หนุน พท.ให้กล้าลุย
นายวันชัย สอนศิริ สว.กล่าวถึงกรณีการประชุมรัฐสภาวันที่ 4 ส.ค. เพื่อโหวตนายกฯรอบ 3 ว่า เชื่อศักยภาพพรรค พท.จะทำให้การเลือกนายกฯจบได้ พรรค พท.ตั้งรัฐบาลได้แน่นอน ขอให้กล้าดำเนินการโดยยึดการแก้ปัญหาประชาชนที่เป็นตั้ง ส่วนกรณีมี สว.แสดงจุดยืนปิดสวิตช์ตัวเอง ไม่ใช้อำนาจโหวตคงเป็นไปตามสถานการณ์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนเชื่อว่า สว.ที่ประกาศปิดสวิตช์ตัวเองจะเปลี่ยนใจสนับสนุนให้การตั้งรัฐบาลสำเร็จขอสื่อสารไปถึงพรรค พท.ให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และรีบทำงานโดยเร็ว อย่าวิตกกังวลเรื่องขั้วอำนาจ หากพรรคพท.เป็นรัฐบาลแล้ว ประชาชนนิยมชมชอบ การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะยังเลือกพรรค พท.แต่ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วไม่มีผลงานก็แพ้ทุกพรรค และแพ้ภัยตัวเองด้วย
ชี้ “ชูวิทย์” แค่ครหา “เสี่ยนิด”
เมื่อถามถึงกรณีมีคลิปนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.ระบุสนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 นายวันชัยตอบว่า ประเด็นมาตรา 112 ไม่มีอยู่ในนโยบายพรรค พท.ไม่คิดแก้ ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นักเคลื่อนไหว เตรียมเปิดโปงปัญหาการเลี่ยงภาษีของนายเศรษฐา นั้นยังไม่ถึงชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศาลรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก.ก.ที่เรื่องถึง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
“เสรี”รอฟัง“เศรษฐา”ในสภาฯ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.กล่าวว่า สว.จะตัดสินใจโหวตนายกฯอย่างไรในวันที่ 4 ส.ค. ต้องรอฟังความชัดเจนจากพรรค พท.และพรรค ก.ก.รวมถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคต่างๆ สถานการณ์การเมืองตอนนี้เป็นช่วงฝุ่นตลบผันผวนต่อสู้กัน พรรค พท.คล้ายจะหลบแต่พรรค ก.ก.ยังเกาะ แต่ถ้าพรรค พท.ไม่กล้าตัดสินใจจะพันกันไปมาปัญหาไม่จบ การโหวตของ สว.ยึดเกณฑ์ไม่โหวตให้พรรค ก.ก.เพราะแก้มาตรา 112 ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ระบุว่าสนับสนุนแก้มาตรา 112 นั้น ต้องรอฟังให้แสดงเจตนารมณ์
ฟันธงศาล รธน.ไม่ตีความญัตติ
นายเสรีกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีมติที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 19 ก.ค. ที่ห้ามเสนอญัตติชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำขัดรัฐธรรมนูญว่า ประเมินว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะยกคำร้องในวันที่ 3 ส.ค. เพราะประเด็นที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นนั้นไม่ใช่การกระทบสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล แต่เป็นเหตุผลทางการเมือง ขณะที่การวินิจฉัยของรัฐสภาเมื่อ 19ก.ค. เป็นเอกสิทธิ์ตามอำนาจอธิปไตยฝ่ายนิติบัญญัติ ศาลไม่สามารถก้าวก่ายได้ ยืนยันสิ่งที่รัฐสภาดำเนินการเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
แจ้งจับกลุ่มบุกรุกตลาดเสรี 2
นายเสรีกล่าวว่า กรณีกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองบุกรุกตลาดเสรี 2 ถนนเจริญกรุง เข้ามาติดใบปลิวโจมตี สว.ในตลาดของตนเอง เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ว่า ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ฐานบุกรุกและกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี กลุ่มคนที่เคลื่อนไหวเป็นพวกต่อต้าน สว.อยู่แล้ว การมาทำกิจกรรมติดป้ายประกาศเต็มตลาดแจกใบปลิวโจมตี สว.ทำให้กลุ่มผู้ค้าในตลาดตกใจ แต่ไม่มีผลต่อการโหวตนายกฯของตนที่จะตัดสินใจ
คาร์ม็อบแห่ขันหมาก ก.ก.-พท.
ด้านความเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เมื่อเวลา 12.00 น. ที่แยกอโศก ฝั่งถนนรัชดามุ่งหน้าอโศกเพชร กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย น.ส.กัลยกร สุนทรพฤกษ์ หรือจิ๊บ นัดมวลชนชุมนุมแบบคาร์ม็อบ “แห่มาลัยวิวาห์คล้องใจ 8 พรรค” เชิงสัญลักษณ์สื่อสารไปยัง 8 พรรคร่วมประชาธิปไตยให้จับมือไว้ไม่เปลี่ยนขั้ว นำรายชื่อประชาชนกว่า 3 หมื่นชื่อ ที่กลุ่มได้เปิดแคมเปญไว้บน Google Form “สนับสนุน 8 พรรคจับมือกันอีก 10 เดือนจนถึงวันที่ สว.หมดอำนาจเลือกนายก” นำไปมอบให้พรรคการเมืองได้รับทราบถึงฉันทามติประชาชน ก่อนเคลื่อนขบวนมีการแจกมาลัยคล้องคอแบบเดียวกับที่ใช้ในงานมงคลให้กับมวลชนที่ส่วนใหญ่เป็นชายหญิงสูงวัย ทั้งปรับแต่งรูปขบวนให้คล้ายขบวนแห่ขันหมาก ให้พรรค ก.ก.และพรรค พท.แต่งงานกัน โดยเริ่มตั้งขบวนที่หน้าศูนย์การค้า เทอมินอล 21 มีรถเครื่องขยายเสียงนำตามด้วยขบวนจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตาม ก่อนกิจกรรมเกิดฝนตกกระหน่ำลงมา ทำให้มวลชนเปียกปอนไปตามๆกัน และเลื่อนเคลื่อนขบวนแห่ออกไปเป็นเวลา 13.00 น. เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าพรรค พท.มีมวลชนประมาณ 200 คน รถยนต์ 30 คัน จยย. 70 คัน เปิดเพลงและบีบแตรเสียงดังไปตลอดเส้นทาง
ยืนกรานรอให้ สว.หมดอายุ
นายชาติชาย แกดำ แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวว่า สนับสนุนแนวคิดให้ 8 พรรครวมตัวกันไว้จน สว.หมดวาระ เพราะประเทศยังเดินต่อไปได้ สส.ยังเสนอกฎหมายในสภาไป รัฐบาลทำงานไปดีกว่าปล่อยให้เป็นไปตามเกมที่เขากำหนด เชื่อว่าไม่ต้องรอ 10 เดือนด้วยซ้ำอีกแค่ 1-2 เดือน สว.ไม่สามารถอยู่ได้แล้ว ขณะนี้ประชาชนเริ่มไม่พอใจออกมาแสดงออกกันบนถนนมากขึ้น ทั้งสงสัยที่ สว.ยื้อเกมมา 2 เดือนจนเกิดสุญญากาศทางการเมืองนั้นต้องการให้เกิดสถานการณ์พิเศษ แล้วกองทัพออกมาแก้ปัญหากลับไปสู่วงจรอุบาทว์เหมือนเดิมใช่หรือไม่ และถ้าพรรค พท.ฉีกเอ็มโอยูไปจับมือกับพรรคขั้วเผด็จการคงไม่ยอม จบไม่สวยแน่นอน อย่าลืมประชาชนเลือก 8 พรรคมาเพราะเคยบอกว่าไม่ไปจับมือกับพรรครัฐบาลเดิม แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนคนไทยเริ่มตั้งคำถามว่า เมื่อไม่มีประยุทธ์ ประวิตร แล้วใครสั่ง สว.ได้ ใครบังคับให้พรรค พท.ให้เสียหลักการจับมือฝ่ายเผด็จการบีบพรรค ก.ก.ได้ ขอฝากชนชั้นนำผู้มีอำนาจหยุดแทรกแซงการเมือง ให้มองผลเลือกตั้งครั้งนี้คือความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ความขัดแย้ง เพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ก่อนที่ชาวบ้านจะอดตาย
ยกผลโพลกดดัน 8 พรรคร่วม
นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา แกนนำกลุ่มราษฎร บัณฑิต ม.ศิลปากร เป็นตัวแทนแนวร่วมธรรมศาสตร์ ขึ้นอ่านแถลงการณ์กลุ่มใจความว่า แนวร่วมธรรม ศาสตร์และการชุมนุม ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนให้ 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจับมือกันให้มั่นคงจนกว่า สว.จะหมดอายุ โดยผลจากการสำรวจความเห็นไปในทิศทางเดียว 90 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าหากต้องได้รัฐบาลผสมข้ามขั้วจากฝ่ายอำนาจนิยมเดิม ประชาชนยินดีที่จะอดทนรอ จนกว่า สว.จะหมดอำนาจเลือกนายกฯ แม้ระหว่างนั้นต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลรักษาการก็ตาม ขอเสนอรายชื่อของประชาชนส่งมอบให้ 8 พรรค หากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยประกาศจุดยืนนี้ร่วมกันแสดงพลังสะท้อนทางสังคมจะมุ่งไปทิศทางเดียวคือ สว.ในฐานะที่หน่วงเหนี่ยวขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลไม่ให้ลุล่วง ในฐานะประชาชนขอให้ 8 พรรคออกมาแสดงจุดยืนว่าจะจับมืออย่างเหนียวแน่น
ป่วนหนัก พท.หย่าขาดก้าวไกล
ต่อมาเวลา 15.30 น. หลังทราบว่าพรรค พท.ฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลให้พรรค ก.ก.ไปเป็นฝ่ายค้าน มวลชนคาร์ม็อบกลุ่มทะลุวัง นำโดยบุ้ง ทะลุวัง และน้องหยก เยาวชนผู้ต้องหาคดี 112 พร้อมมวลชนได้นำหุ่นมาวางหน้าทางขึ้นอาคาร AOI Tower ที่ทำการพรรค พท.ก่อนสาดด้วยน้ำสีแดง ระบุว่าเป็นเลือดหมู ราดน้ำมันจุดไฟเผาจนเกิดความโกลาหล บางส่วนนำสีแดงเหมือนเลือดสาดไปยังตัวอาคาร เพื่อต้องการยื่นหนังสือถึงพรรค พท.ให้กลับมาร่วมมือกับพรรค ก.ก.จัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถเครื่องเสียงมาจอดหน้าอาคารทางขึ้น โดยอ้างว่าให้เจ้าสาวซึ่งเป็นพรรคเพื่อไทยมารับขันหมากจากเจ้าบ่าว ซึ่งระหว่างรอกลุ่มผู้ชุมนุมยังตะโกนด่าทอพรรคเพื่อไทยด้วยคำหยาบคาย จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมารับหนังสือ
ขู่ผสมพันธุ์ข้ามขั้วเจอกันแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากยื่นหนังสือ ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ลงมาพูดคุยกับมวลชนว่า ตัวแทนพรรค พท.ได้สัญญากับตัวแทนประชาชนแล้ว เขาบอกว่าเขาจะเอาสิ่งที่เรายื่นไปคุยกับผู้ใหญ่ในพรรค เรายังให้โอกาสเขาถึงวันเลือกนายกฯ ถ้าวันเลือกนายกฯเขาไปจับมือข้ามขั้วตั้งรัฐบาลหมาพันธุ์ผสมเมื่อไหร่เดี๋ยวเจอกัน กระทั่งเวลา 16.05 น. ได้ประกาศยุติการชุมนุม และแจ้งให้มวลชนคอยฟังสัญญาณจากแกนนำในการจัดชุมนุมครั้งต่อไป
“ทะลุวัง” แถลงการณ์เตือน พท.
ต่อมาเวลา 19.00 น. กลุ่มทะลุวัง ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ใจความว่า “วันนี้ทะลุวังและเพื่อนๆมวลชนอิสระได้ร่วมกันนำศพ 3 ศพ เผาที่หน้าพรรค พท.เป็นสัญลักษณ์เตือนใจว่าศพและเลือดนี้คือตัวแทนของศพคนเสื้อแดง, ศพจากโควิด และศพของคนที่ถูกอุ้มหาย ก่อนจะจับมือผสมพันธุ์กับเผด็จการ” พวกเราไม่ใช่แฟนคลับพรรคการเมืองไหน แต่พวกเรายืนเคียงข้างประชาชนและยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ ถ้ามึงทำตัวเป็นปัญหาขวางฉันทามติของประชาชนจะอีกกี่ร้อยรอบ พวกกูจะกลับมาอีกครั้ง แด่ทุกดวงวิญญาณบนฟากฟ้า ทะลุวังจะไม่ยอมแพ้ จนกว่าเราจะทวงความยุติธรรมคืนให้กับทุกคน มึงหนีประชาชนไม่พ้นหรอก! แล้วเจอกันใหม่