"เสรีพิศุทธ์" หัวหน้าเสรีรวมไทย ยัน พร้อมร่วมงาน "เพื่อไทย" ชี้ "ก้าวไกล" ต้องยอมรับ เหตุรวมเสียงข้างมากไม่ได้ก็เลยไม่ได้เป็นรัฐบาล ชี้ "ปดิพัทธ์" รองประธานสภา ยังไม่ต้องลาออก รอศาล รธน.ตัดสิน อาจถูกยุบพรรค ปมแก้ ม.112 หากผิดก็ต้องพ้นตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์หลังพรรคเพื่อไทย เตรียมจับขั้วพรรคการเมืองใหม่เพื่อตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกล ร่วมรัฐบาลว่า ตนยืนยันพร้อมจะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย ต่อไป ส่วนพรรคเพื่อไทย จะจับขั้วกับพรรคการเมืองใดนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งข่าวหรือการประสานงานมา อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยแสดงจุดยืนไปแล้วว่าสามารถทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง ยกเว้นกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่การรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลที่พรรค เพื่อไทยนั้นต้องให้เกียรติฐานะแกนนำ
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรค ก้าวไกล ต้องกลายเป็นฝ่ายค้านมองว่า สถานการณ์การเมืองจะรุนแรงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในทางกฎหมายไม่มีบทบัญญัติใดกำหนดให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่ง ต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ผ่านมาพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ต้องรวมเสียงข้างมากให้ได้ แต่เมื่อพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ก็ต้องยอมรับ
เมื่อถามว่า กรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ หากพรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องลาออกตอนนี้ เพราะพรรคก้าวไกล ยังมีประเด็นที่ถูกร้องเรียน เรื่องการล้มล้างการปกครองในรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า ผิดและยุบพรรคก้าวไกล นายปดิพัทธ์ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ต้องพ้นตำแหน่งไปตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การลาออกตอนนี้หรือไม่ ยังไม่จำเป็น
...