เช้าวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมวินิจฉัยคำร้องของ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีรัฐสภาลงมติตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ห้ามไม่ให้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯรอบที่สอง เมื่อฟังความเห็นจาก ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการ จังหวัดประจำสำนักอัยการสูงสุดแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน

อัยการ ดร.ธนกฤต ให้เหตุผลว่า บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิในการเสนอชื่อเป็นนายกฯ คือ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่คุณพิธาไม่ได้ร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วน สส.และประชาชนที่ร้องเรียน หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ได้เป็นบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำสั่งไม่รับคำร้อง ซึ่งจะทำให้ คำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ย่อมเป็นอันตกไปด้วย

ผมก็เห็นตามความเห็นของอัยการ ดร.ธนกฤต หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน คำขอให้ยุติการโหวตนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนก็ต้องตกไปด้วย การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ 4 สิงหาคม ก็จะเดินหน้าต่อไป และ คุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย จะได้รับการเสนอชื่อเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ต่อที่ประชุมรัฐสภาตามวาระ แต่กว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ จะยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ใน 8 พรรค ร่วมรัฐบาลหรือไม่ และ พรรคก้าวไกลจะได้เป็นผู้เสนอชื่อคุณเศรษฐาเป็นนายกฯตามสัญญาเดิมหรือไม่ วันนี้ผมคิดว่าคงรู้เรื่องกันแล้ว เกมได้จบลงแล้ว

พรรคก้าวไกล จะยืนอยู่จุดไหนในการโหวตนายกฯวันพรุ่งนี้ ฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคไม่โหวตให้คุณเศรษฐา หรือ จะเท 151 เสียงโหวตให้คุณเศรษฐาตามที่เพื่อไทยเรียกร้อง แล้วถอยออกไปเป็นฝ่ายค้าน เป็นอีกเกมที่ก้าวไกลต้อง “ถอยให้เป็น” ไม่พลาดท่าเสียทีอย่างการถอยที่ผ่านมา ถูกยึดหมดทั้งเก้าอี้ประธานรัฐสภา เก้าอี้นายกฯ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล จนไม่เหลืออะไรเลย สร้างความผิดหวังแก่ประชาชน 14 ล้านเสียงเป็นอย่างยิ่ง

...

สิ่งที่ต้องจับตาในวันพรุ่งนี้ก็คือ “ซุปเปอร์ดีล” ของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่เพื่อไทยที่ปักหลักทำดีลอยู่ที่ฮ่องกง จะดีลสำเร็จหรือไม่ คะแนนโหวตในรัฐสภาวันนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ คุณเศรษฐา ทวีสิน จะได้รับเสียงโหวตเกิน 375 เสียงหรือไม่ จะมีเสียง สว.ลากตั้ง ที่เพิ่งได้รับ “ฉายาใหม่” ฟังแล้วต้องสะดุ้งกระโดดถอย สนับสนุนกี่เสียง โดยพรรคเพื่อไทยยอมประกาศถอย จะไม่แก้ไขไม่ยกเลิกมาตรา 112 แน่นอน

คุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย แถลงเองว่า “หากเพื่อไทยเสนอชื่อผมในวันโหวตนายกฯครั้งถัดไป แน่นอนต้องไม่มีแก้มาตรา 112 เพื่อไทยชัดเจนว่า จะไม่แก้ไขไม่ยกเลิกแน่นอน หากต้องการให้ประเทศเดินหน้าและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ก็จำเป็นต้องถอดสลักและวางเรื่องมาตรา 112 ไว้ก่อน ในวันนี้เรื่องเศรษฐกิจและปากท้องพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด เรื่องใดที่ทำให้ประชาชนอิ่มท้องและทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในวันนี้ ต้องทำก่อน”

แต่ดูเหมือน สว.ลากตั้ง จะไม่ยอมหยุดอยู่แค่มาตรา 112 ตราบใดที่ยังไม่เห็น การสืบทอดอำนาจ ของ “3 ลุง” ผู้มีพระคุณ ล่าสุด คุณจเด็จ อินสว่าง สว.ที่เคยเสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ได้ออกมาตั้งเงื่อนไขใหม่ สว.จะโหวตนายกฯโดยยึดหลักรัฐธรรมนูญมาตรา 160 คือ ผู้ถูก เสนอชื่อต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

คุณจเด็จ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ยังมีข้อน่าสงสัย สว.จะโหวตรับรองได้อย่างไร ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ได้เสียง ข้างมากแล้ว สว.ต้องเลือก

แล้ว คุณจเด็จ ก็ชี้เป้าหมายว่า ในที่สุดอาจนำไปสู่การโหวตนายกฯ ตามมาตรา 272 วรรค 2 หรือ นายกฯคนนอก แล้ว คนไทย 40 ล้านคน ที่ออกไปเลือกตั้ง จะยอมให้ สว.ลากตั้ง 250 คน ที่ แต่งตั้งโดยเผด็จการทหาร มา “ยึดอำนาจ” ไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้หรือ?

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม