ม็อบ23กรกฎา66 มวลชนรวมตัวเพิ่มแยกอโศก “สมยศ” ซัด ต่อไปก็ให้พระโคช่วยเลือกนายกฯ ฝากก้าวไกลอย่าถอย ม.112 “ธัชพงศ์” หวัง 8 พรรคร่วมไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ฝากถึง สว. ถ้าไม่โหวตก็ออกไป

เมื่อเวลา 17.25 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2566 นายสมบัตติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เชิญชวนมวลชนลงถนน ก่อนเริ่มการปราศรัยที่แยกอโศก ท่ามกลางฝนที่ยังตกแต่ไม่หนักเท่าเวลาก่อนหน้า ภายใต้กิจกรรม #พร้อม ว่า สมาชิกวุฒิสภา (สว.) คือลูกติดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สว. คือผลไม้พิษ ประชาชนไปเลือกตั้งเพื่อที่จะได้รัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีใหม่ ตามระบอบประชาธิปไตย การโหวตไม่เห็นชอบของ สว. ขัดหลักการประชาธิปไตย มีสิทธิ์เพียงโหวตเห็นชอบ เพราะผ่านการเห็นชอบของประชาชนมาแล้ว สว. กำเริบเสิบสาน ไม่ได้ยึดโยงประชาชน แล้วยังมาขัดขวางมติประชาชน ทั้งที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน 

ต่อมาเวลา 17.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามวลชนที่มาลงบนถนนบริเวณแยกอโศกทำให้ต้องปิดไปครึ่งหนึ่งโดยปริยาย จากนั้น นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยเป็นคนต่อไป ติติงที่หลังเลือกตั้งผ่านไปกว่า 2 เดือน แต่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พร้อมตำหนิไปถึงขบวนการขัดขวาง งบประมาณ 6,000 ล้านบาท ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้ง แต่ยังไม่ได้รัฐบาลของประชาชน รวมไปถึง สว. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บางส่วนที่ลงมติข้อบังคับไม่สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำได้ เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ก่อนจะประชดว่าต่อไปก็ให้พระโคช่วยเลือกนายกรัฐมนตรี

การที่พรรคก้าวไกล มอบให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคเพื่อไทยจะไปจับมือพลังประชารัฐจริง ขอให้มองหน้า หมอชลน่าน ที่ประกาศบนเวที ถ้าเพื่อไทยจับมือกับพลังประชารัฐ จะลาออกจากหัวหน้าพรรค เป็นห่วงและรัก อยากให้เป็นหัวหน้าพรรค ถ้าใครจะไปจับมือก็ให้มองหน้า นพ.ชลน่าน เอาไว้ ก้าวไกล อย่าถอยเรื่องจุดยืน มาตรา 112 เด็ดขาด ถ้าจะต้องถอนหรือถอย เป้นการชี้ให้เห็นว่าจะสูญเสียความเป็นพรรคก้าวไกล เชื่อมั่นว่าประชาชนจะอยู่เคียงข้างก้าวไกลจนได้เป็นรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ต้องคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยหลังพูดจบมวลชนต่างตะโกนเรียก “พิธาๆ” พร้อมยืนยันหลักการประชาชนธิปไตย พรรคเสียงข้างมากต้องได้นายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล 

...

เวลา 18.00 น. นายวรัญชัย โชคชนะ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตผู้สมัคร สส. ระบุว่า จะออกมาต่อสู้กับประชาชน ขอให้ดูการนัดหมายของกลุ่มต่างๆ จับตาวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ประชาชนจะพากันไปติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภา จากนั้น นายสมยศ กล่าวเสริมว่า มติของเครือข่ายภาคประชาชน ขอเชิญชวนมวลชนใส่ชุดสีดำตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 

นายธัชพงศ์ แกดำ ปราศรัยเป็นคนต่อไป กล่าวถึงการใส่ชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้กับกลไกสภาฯ แต่ประชาธิปไตยถูกพรากไปโดย สว. นับจากวันนี้เราจะไม่มีคำว่าสิ้นหวังและพ่ายแพ้ เราจะต้องรักษาหลักการประชาธิปไตย หลักการที่คนเท่ากัน สว. ต้องเคารพและฟังเสียงประชาชน ไม่ควรมีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรี และพรรคการเมืองฝ่ายประชาชนธิปไตยต้องไปเปลี่ยนขั้วไปร่วมกับเผด็จการ เชื่อมั่นใน 8 พรรคร่วมจะยืนบนหลักการประชาธิปไตย ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ก่อนจะระบุว่า “Respect My Vote ถ้าไม่โหวตก็ออกไป” ก่อนทิ้งท้ายว่า เผด็จการจงพินาจ ประชาราษฎร์จงเจริญ จบการปราศรัยของ นายธัชพงศ์ ในเวลา 18.25 น. ซึ่งบริเวณแยกอโศกที่จุดชุมนุมล่าสุดปิดการจราจรไปโดยปริยายแล้ว