“ชลน่าน” เผย เคาะชื่อแคนดิเดตเพื่อไทย 26 ก.ค. “ภูมิธรรม” ลั่น 27 ก.ค. โหวตครั้งนี้ต้องได้นายกรัฐมนตรี เตรียมลุยขอเสียง สว. เพิ่ม พร้อมหารือ 8 พรรคร่วมประเด็นแก้ ม.112 ของก้าวไกล
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 กนนำพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวหลังจากที่พรรคก้าวไกล แถลงต่อสาธารณะมอบภารกิจจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ส่งภารกิจจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิม ตามที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชน
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะหารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิมเพื่อกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป พรรคเพื่อไทยเห็นว่าภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคการเมืองเดิม สามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบ เนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า 375 เสียง
“เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในที่สุด หากผลการดำเนินเป็นประการใด จะได้แจ้งให้ 8 พรรคการเมืองและสาธารณชนทราบต่อไปโดยเร็ว”
...
เคาะชื่อแคนดิเดตเพื่อไทย 26 ก.ค.
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าการหาเสียงเพิ่มจะพูดคุยกับพรรครัฐบาลรักษาการหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า จะต้องหารือกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในการประชุมวันนี้ หลังจากนั้นค่อยดำเนินการ ส่วนคำถามว่าจะทบทวน MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า MOU เป็นบันทึกความเข้าใจระหว่าง 8 พรรคร่วม ระหว่างนี้เรากำลังอยู่บนพื้นฐานการพูดคุยระหว่าง 8 พรรค ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะอยู่ในการประชุมหารือวันนี้
ขณะที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 จะมีการเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นกระบวนการที่พรรคเพื่อไทยต้องดำเนินการภายใน จะเข้าสู่ที่ประชุมพรรคในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เวลา 17.00 น.
“ภูมิธรรม” ลั่น 27 ก.ค.นี้ ต้องได้นายกฯ
ทางด้าน นายภูมิธรรม กล่าวถึงประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลจะเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่า วันนี้จะหารือถือเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อให้เห็นปัญหาตรงกันว่าขณะนี้ที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้คืออะไร มีมาตรา 112 เป็นประเด็นหรือไม่ รวมทั้งจะได้ความเห็นจาก 8 พรรคร่วมว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เรารอมา 2 เดือนแล้ว เราจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เป้าหมายของเราคือจะต้องได้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า โจทย์ของพรรคก้าวไกลที่แถลงวันนี้คือประชาชนต้องการเปลี่ยนขั้ว จะทำความเข้าใจกับพรรคก้าวไกลอย่างไรในการไปหาเสียงเพิ่ม นายภูมิธรรม ระบุว่า คงต้องคุยกันจะทำอย่างไร หากยืนที่ 312 เสียงเหมือนเดิม เราไม่ขัดข้อง แต่ต้องบอกให้ชัดเจนว่าจะหาเสียงเพิ่มจากไหน
ส่วนเรื่องท่าทีของ สว. ที่ระบุว่าหากมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล จะไม่ยกมือสนับสนุนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า “วันนี้เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ขอให้เราทำงานก่อน ที่เราเร่งวันนี้เพราะเราต้องการให้มีเวลามากพอในการให้ได้นายกฯ ในวันที่ 27 กรกฎาคม”
เมื่อถามอีกว่าหากโหวตชื่อ นายเศรษฐา ไม่ผ่าน พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราตั้งใจจะทำให้ผ่าน จึงไม่มีคำว่าถ้า และต้องทำอย่างสุดความสามารถให้บรรลุ เราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้
ลุยเดินหน้าหาเสียง สว. หนุนแคนดิเดตเพื่อไทย
สำหรับคำถาม จะหารือกับพรรคก้าวไกลอย่างไรหลังไม่มีท่าทีลดเพดานเรื่องมาตรา 112 ขณะที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย นายภูมิธรรม ตอบว่า ต้องคุยตรงไปตรงมาว่าขณะนี้อะไรคือปัญหา แล้วจะมีหนทางแก้ไขอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องมาตรา 112 ต้องคุยกับพรรคก้าวไกลว่าตราบที่เราจะไปต่อและเป็นรัฐบาลให้ได้นั้น ปัจจัยเงื่อนไขที่เป็นปัญหากับพรรคไหน พรรคนั้นต้องเป็นคนตอบว่าจะคลี่คลายปัญหาอย่างไร ส่วนพรรคก้าวไกลจะไปต่อกับ 8 พรรคหรือไม่ เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ อยู่ที่การหารือกัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามในช่วงท้ายว่าจะหาเสียง สว. เพิ่มได้อย่างไร ได้คำตอบจาก นายภูมิธรรม ว่า “วันนี้โจทย์เปลี่ยน เราคงต้องทำหน้าที่ใหม่ เพราะคราวที่แล้วเราทำหน้าที่หาเสียงให้พรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำ แต่วันนี้ต้องคุยใหม่ เราจะต้องเริ่มการพูดคุยอย่างเป็นทางการในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล”