“เศรษฐา” ตกใจ เจอนักข่าว ย้ำ หนุน “พิธา” เป็นนายกฯ จนสุดทาง ประชุม 8 พรรค หากผุดแผนสอง น้อมรับ การตัดสินใจคณะทำงาน ฉุน ข่าวลือมีชื่อตัวเองจ่อเสียบ “พิธา” ไม่ตกใจแต่โกรธ ให้กำลังใจ "ทิม" หลังแท็กหา “อิ๊งค์” เที่ยงคืน
วันที่ 16 ก.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังบันทึกเทป promote ด้านนโยบายเศรษฐกิจ ภายในพรรคเพื่อไทย โดยทันทีที่นายเศรษฐา เจอผู้สื่อข่าวก็มีสีหน้าอาการตกใจ พร้อมกับมีการสอบถามว่า “มาทำอะไร เพราะวันนี้วันหยุด เนื่องจากที่ทำการพรรคก็หยุดประจำวันเสาร์อาทิตย์”
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตอบกลับว่า “เป็นเรื่องปกติที่สำนักข่าวจะต้องส่งผู้สื่อข่าวประจำตามพรรคการเมืองฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ในทุกๆ วัน แต่วันนี้โชคดีเจอกับนายเศรษฐา จึงขอสอบถามประเด็นการเมือง”
แต่ นายเศรษฐา บอกว่า ขอพูดเกี่ยวกับงานที่มาทำในวันนี้ก่อน โดยเปิดเผยว่า วันนี้มีนัดหมายมาอัดเทปอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ เช่น เรื่องหนี้สาธารณะ, หนี้ครัวเรือน และหนี้ของ GEN Y พร้อมทำสื่อโซเชียลมีเดียให้กับพรรคเพื่อไทย จึงต้องแต่งตัวใส่สูทในวันอาทิตย์ แทนที่จะได้ใส่กางเกงขาสั้น - เสื้อยืด ตนเองจึงรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย แต่ก็ถือเป็นการทำงานในวันหยุด พอรับได้
นายเศรษฐา ย้ำว่า พรรคเพื่อไทย พร้อมเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล แต่ยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งปัญหาปากท้อง และความเป็นอยู่ของประชาชน ตนเองถือว่า “เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่ง”
ขณะที่ตนเองมีหน้าที่ดูแลนโยยายด้านเศษฐกิจ จึงจะเร่งทุกนโยบาย ทุกมาตรการ ที่พรรคเพื่อไทยได้ทำออกไป และเมื่อไรที่พร้อมเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยได้ดูแลกระทรวงที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจพร้อมจะเดินหน้านโยบายทั้งหมดทันที ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก เพื่อหารือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และระงับความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการเลือกตั้งจบมานานกว่าสองเดือนแล้ว จนถึงปัจจุบันนายกฯ ก็ยังไม่ได้ จึงมองว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนเอือมระอาเต็มทน
...
ส่วนวันนี้ที่มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นัดรวมตัวเคลื่อนไหวคาร์ม็อบนั้น จะทำให้กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี เดินหน้าได้เร็วขึ้นหรือไม่ ส่วนตัวไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ เพราะกำลังให้ความสนใจเรื่องเศรษฐกิจ แต่เข้าใจว่า มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มสนับสนุน แต่ไม่ได้ติดตามว่าจะมีคนมากหรือน้อย ซึ่งในขณะที่วันพรุ่งนี้แปดพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้นัดประชุมกัน หวังว่า จะมีข้อสรุปออกมาอย่างชัดเจน ตนเองยังยืนยันอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ ว่า “เราอยู่ในพรรคร่วมแปดพรรคที่จะสนับสนุนนายพิธา จนสุดทาง”
ส่วนกรณีเมื่อวานนี้มีข่าวเผยแพร่ออกไปออกไปว่า จะเสนอชื่อของตนเองขึ้นแทนนายพิธา หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่สองไม่ผ่านนั้น ใจตนเองไม่ใช่ว่าตกใจ แต่ค่อนข้างหงุดหงิด และโกรธนิดหน่อย เพราะไม่เคยพูดในพรรค และพรรคก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับตนเองเลย อีกทั้งก็พบกับสื่อมวลชนเป็นประจำไม่เคยหลบหรือเลี่ยงการตอบคำถาม ซึ่งใครมีอะไรมาถามได้ตลอดเวลา ตนเองยืนยันว่า “ไม่เคยพูด” เพราะจะต้องให้เกียรติแปดพรรคการเมืองจึงไม่มีแน่นอน ที่จะเสนอชื่อตนขึ้นไปแทนนายพิธา เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะเจรจาพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล
ส่วนการประชุมของแปดพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ที่มีการกำหนดว่า จะต้องเตรียมแผนสองตนเองในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะน้อมรับตามมติหรือไม่นั้น จริงๆ ตนเองไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจา ขณะนี้ดูแค่เรื่องเศรษฐกิจก็ขอมุ่งหน้าดูเรื่องเศรษฐกิจ แต่หากพรุ่งนี้ผลสรุปออกมาเป็นอย่างไร ก็พร้อมที่จะเคารพการตัดสินใจของทั้งแปดพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนข้อกังวลเรื่องหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ตนไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเร็วหรือช้าเพราะไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ เนื่องจากไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนี้ด้วย จึงแสดงความคิดเห็นไม่ได้ แต่นายพิธาได้ออกมาย้ำว่า เคลียร์ได้ เคลียร์แล้ว ตนก็ไม่ทราบ แต่ขอเป็นกำลังใจให้กับนายพิธา
นายเศรษฐา ยังตอบคำถาม จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่าจะมีการสลับให้เสนอชื่อตนเองแทนนายพิธาทำให้ตลาดหุ้น ขยับขึ้น ว่า เรื่องตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นตัวชี้นำอย่างหนึ่ง กับความมั่นใจอย่างของนักลงทุน ตนไม่อยากจะเข้าข้างใคร แต่ที่ตลาดทุนกระเตื้องขึ้น อาจเพราะมีความคลายกังวล ว่า การจัดตั้งรัฐบาลอาจจะจัดตั้งได้เร็วขึ้น จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องตั้งรัฐบาล และให้รัฐมนตรีที่เร่งจัดสรรงบประมาณ ปี 2567 โดยเร็วเพราะปีงบประมาณจะเริ่มในเดือนตุลาคม 66 แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรัฐบาลเลย แต่หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ อย่างที่พรรคก้าวไกล ได้บอกเอาไว้ ก็จะมีเม็ดเงินไปกระตุ้นการลงทุน ในกลางเดือนมีนาคม ปี 2567 ซึ่งถือว่าช้ามาก ตนเองจึงเป็นห่วงเรื่องปากท้อง หลายปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อน และงบประมาณของประเทศมากกว่า จะมาสนใจการเมือง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายนายเศรษฐา ยังกล่าวให้กำลังใจนายพิธา หลังจากมีการโพสต์ IG stories พร้อมกับถ่ายรูปคู่กับนายปิยะบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า พร้อมกับแท็กหานางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยกลับถามกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนั้นดึกหรือยัง ซึ่งผู้สื่อข่าวตอบว่า เที่ยงคืนกว่าๆ นายเศรษฐา บอกตนเองคิดว่าทุกคนก็เป็นมนุษย์ หากเครียดก็คงมีการไปกินดื่ม ไปสังสรรค์กันธรรมดา แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป เรื่องการเมือง บ้านเมือง กับชีวิตส่วนตัวก็เป็นคนละเรื่อง เราก็พรรคพวกเพื่อนฝูงกันทั้งนั้น จึงขอส่งกำลังใจให้นายพิธา