“เสรี สุวรรณภานนท์” ไม่ปฏิเสธกระแส ส.ว. จ่อเสนอใช้ข้อบังคับ 41 ดักทางเสนอชื่อ “พิธา” รอบ 2 ยันจุดยืนเดิมไม่โหวต ฟาดก้าวไกลแม้ถอย 112 ก็ไม่เลือก ลั่น แก้ 272 ปิดสวิชต์ ส.ว. กี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ
วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึง กระแสที่มีการพูดคุยกับ ส.ว. ว่า จะนำข้อบังคับที่ 41 มาใช้ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ว่า หากมีการเสนอญัตติ และพิจารณาจบไปแล้ว ห้ามมีการเสนอญัตติซ้ำ เว้นแต่ว่าจะมีเหตุอื่นที่เปลี่ยนแปลงแล้วประธานรัฐสภาอนุญาต จากนั้นก็อยู่ที่การพิจารณาครั้งหน้าว่าจะมีการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ชื่อเดียวหรือไม่
ทั้งนี้ หากทางพรรคก้าวไกลเสนอชื่อ นายพิธา มาเหมือนเดิม นายเสรี ยืนยัน ตนเองยังชัดเจนในจุดยืนเดิมว่า จะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่ทำเรื่องกระทบสถาบัน ส่วนหากพรรคก้าวไกลยอมถอยเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในการโหวตรอบ 2 นายเสรี ย้ำว่า เหมือนกับที่ตนได้อภิปรายในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม 2566) แม้จะยอมถอยก็ไม่เชื่อแล้ว เพราะขัดกับจุดยืนที่แสดงออกมา ที่สำคัญหากยอมถอย แล้วตนยอมลงคะแนนให้ แต่ในวันต่อไปอาจจะกลับมาคำพูดอีกหรือจะกลับมาทำอีก ทำให้ตอนนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือแล้ว
ส่วนที่ขณะนี้กำลังเป็นที่พูดถึงว่า พรรคก้าวไกลจะเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 นั้น นายเสรี ระบุว่า “อย่างไรก็ทำไม่สำเร็จ เพราะทำมาหลายครั้งแล้ว ที่บอกว่าจะปิดสวิตซ์ ส.ว. เสนอมาหลายครั้งก็ไม่ผ่าน เพราะว่าการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. 1 ใน 3 คือ 84 เสียงจาก 250 เสียง ซึ่งเมื่อวานนี้ 60 กว่าเสียงก็ยังหาไม่ได้ แล้วคิดจะไปตัดอำนาจ ส.ว. โดยให้ 84 เสียงเห็นด้วย เป็นไปไม่ได้ ข้อเสนอนี้เป็นเพียงการสร้างประเด็นเพื่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ สร้างเรื่องที่จะลดความน่าเชื่อถือของ ส.ว. เท่านั้น”
...
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงผลการโหวตในที่ประชุมรัฐสภา พบว่า มี ส.ว.หลายคน ปรับเปลี่ยนทิศทางการโหวต นายเสรี มองว่า เป็นเรื่องของการเสนอเหตุและผล เมื่อมีการให้ข้อมูลเหตุผลที่น่าเชื่อถือและเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ความเป็นสมาชิกรัฐสภาก็สามารถที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแนวคิดเดิมได้ หลังจากรับฟังการอภิปรายได้ ฉะนั้น คนที่เคยแสดงเจตนาไว้ พอถึงเวลาลงมติ เมื่อสมาชิกฟังเหตุผลคนอื่นก็สามารถที่จะเปลี่ยนใจได้ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร.