“ไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์” หนุน “อภิสิทธิ์” กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฟื้นศรัทธาพรรค แนะมีแค่ 25 เสียงไม่ควรเป็นรัฐบาล ยึดแนวทางเป็นฝ่ายค้าน พร้อมแจงเหตุพ่ายเลือกตั้งยับเยิน
วันที่ 8 ก.ค. 2566 นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตฝ่ายกฎหมายพรรค ปชป. กล่าวถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคปชป.ในวันที่ 9 ก.ค. นี้ ว่า หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 14 พ.ค. 2566 พรรคประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งได้ส.ส.เข้าสภาเพียง 25 คน จากเป็นส.ส.เขต 22 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค แสดงความรับผิดชอบลาออก มีผลทำให้คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคทั้งชุดพ้นจากตำแหน่ง ดังนั้นในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกก.บห.ครั้งนี้
ทุกคนในพรรค ปชป. มีแนวทางความคิดเดียวกันคือ ทำอย่างไรที่จะกอบกู้พรรคให้กลับมาเป็นที่ศรัทธาของพี่น้องประชาชน เช่น ในอดีต ที่เคยได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา หลายครั้งที่พรรคได้รับเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง บางครั้งเป็นที่สอง
พรรคเคยได้รับเลือกตั้งได้ส.ส.กทม. ทั้งหมดทุกเขตถึง 30 คน แต่ในบางเวลาที่พรรคตกต่ำ เช่นในปี 2522 พรรคยังได้รับเลือกตั้ง หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แม้พรรคตกต่ำ แต่ก็ยังได้รับเลือกตั้งใน กทม.คือได้ พ.อ.ถนัด คอมันต์ เป็นส.ส. หรือในปี 2535 พรรคก็ได้รับเลือกตั้งใน กทม. ได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นส.ส. เกือบจะไม่มีครั้งใดที่พรรคไม่ได้รับเลือกตั้งจากคนกรุงเทพฯ เลย จนเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 พรรคแพ้เลือกตั้ง ไม่ได้ใน กทม.เลย แต่คณะ กก.บห.กับ ส.ส. ยังมีมติเข้าร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นรัฐบาลที่สืบเนื่องมาจากการรัฐประหารในปี 2557 สวนทางกับที่นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคในเวลานั้น ประกาศจุดยืนโดนกล่าวปราศรัยว่า พรรค ปชป.จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับคณะทหารที่ทำการรัฐประหาร ท่านเลือกการรักษาคำพูดและจุดยืน จึงลาออกจากการเป็นส.ส.และหัวหน้าพรรค แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรคไว้
...
จากนั้นนายจุรินทร์ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพร้อม กก.บห. ตั้งแต่กลางปี 62 ก็เกิดปรากฏการณ์ ปชป.เลือดไหลออกไม่หยุด สมาชิกคนสำคัญของพรรคทยอยลาออก หลังจากผู้นำพรรคไม่ให้ความสำคัญที่จะเชิญผู้ที่ร่วมแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคเข้าร่วมใน กก.บห.หรือตำแหน่งสำคัญในพรรค หลายคนลาออกไปตั้งพรรคใหม่ แข่งขัน ตัดทอนกันเอง ดังนั้น เวลานี้ ทุกคนในพรรคคิดตรงกันว่า ต้องฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเป็นที่นิยมเช่นในอดีต
สำหรับผมเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคมีความเหมาะสมด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิและประสบการณ์ จุดยืนและการรักษาสัจวาจา ดังนั้นจึงเห็นว่า กก.บห.ชุดใหม่ควรยึดแนวทาง ไม่ร่วมรัฐบาล ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะการเข้าร่วมรัฐบาลส.ส.เพียง 25 คน คงไม่สามารถที่จะเข้าปฏิบัติงานตามนโยบายของพรรคเพื่อเรียกคะแนนเสียงความนิยมกลับคืนมาได้ ขอให้ยึดมั่นอุดมการณ์พรรค และคำขวัญ “ไม่โกง ไม่กิน ไม่สิ้นชาติ” ทุกครั้งที่พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เราปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจนเป็นที่ยอมรับและได้รับความศรัทธาจากพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด จะเป็นผลดีและสามารถฟื้นศรัทธาพรรคกลับมาได้