การประชุม สภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ ระบอบการเมืองการปกครองของประเทศที่อยู่บนเส้นยาแดงผ่าแปด ระหว่าง การเปลี่ยนแปลง กับการ ติดกับดัก ของรัฐธรรมนูญปี 60

ตาม MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย ก็ต้องผ่านด่าน ประธานสภา ไปให้ได้ก่อน

ระหว่างข้อตกลง พรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 จะต้องได้ตำแหน่ง ประธานสภา ส่วน พรรคอันดับ 2 ได้รับ ตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 ตำแหน่ง กลายเป็นข้อตกลงระหว่าง เพื่อไทย กับ ก้าวไกล ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว

ถูกมองข้ามช็อตไปถึง การโหวตเลือกนายกฯ ในสัปดาห์ต่อไป อย่าลืมว่า ประธานสภา จะเป็นผู้บรรจุวาระ การโหวตเลือกนายกฯในสภา จะช้าจะเร็ว จะกี่รอบ ก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของประธานสภาด้วย

และประธานสภาที่เป็น ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ จะต้องทำงานสอดคล้องกับการทำงานกับฝ่ายบริหาร ถ้านายกฯกับประธานสภาเป็นคนละพรรค การบริหารงานในรัฐบาลและในสภาก็จะไม่ราบรื่น เช่นรัฐบาลที่ผ่านมา

เข้าใจว่า ความไม่ชัดเจน ของ ตำแหน่งนายกฯ ที่พรรคร่วมจะเสนอ พิธา เป็นนายกฯ ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนจากเสียงสนับสนุนในที่ประชุมสภาจะเกิน 376 เสียงหรือไม่

ดังนั้น พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับสอง ก็ต้องอยากได้ ตำแหน่งประธานสภา ในกรณีที่ เพื่อไทย จะต้องเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาลต่อจาก ก้าวไกล เพื่อให้การทำงานระหว่างรัฐบาลกับสภา มีความราบรื่นเช่นกัน

ในกรณีนี้ MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาลอาจจะมีการนำมาพิจารณากันใหม่ ที่อาจจะไม่ใช่ 8 พรรคร่วมเดิม ก็ได้ เพราะ เพื่อไทย ก็ต้องมีความมั่นใจที่จะตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นการตั้งรัฐบาลก็จะตกเป็นของ พรรคอันดับ 3 คือ พรรคภูมิใจไทย ซึ่ง เพื่อไทย ก็ต้องอาศัยเสียง ส.ว. และ ส.ส.ในสภา ให้ได้ครบ 376 เสียงเช่นกัน

...

เมื่อเงื่อนไข ของ ส.ส.ฝั่งอนุรักษ์ และ ส.ว. คือ การแก้ไข ม. 112 ที่เป็นนโยบายของก้าวไกล และก้าวไกลก็ประกาศไปแล้วว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มาจากเผด็จการ ที่หมายถึง พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะมี สองลุงอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น ถ้า เพื่อไทย จะไปดึงเสียงสนับสนุนในสภามาจากพรรคใดพรรคหนึ่ง

ก็เป็นเหตุผลทำให้ ก้าวไกล ต้องถอนตัวออกจาก พรรคร่วมรัฐบาล และถ้า ก้าวไกล ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค เพื่อไทย ก็ต้องดึงเสียงจาก ฝั่งอนุรักษนิยมทั้งหมด มาสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งเพื่อไทยจะต้องใช้ความระมัดระวังในการสลับขั้ว เนื่องจากต้องเดิมพันสูงมาก อย่างน้อยก็ต้องไม่มีสองลุงอยู่ในพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ส่วนจะมีการแทงข้างหลังในการสลับขั้ว เพื่อดันให้ลุงป้อมเป็นนายกฯอีกสเต็ปหรือไม่ ในบริบทที่ไม่ปกติของรัฐธรรมนูญ อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th