พรรคก้าวไกล เดือด หวิดวางมวย กลุ่มปกป้องสถาบัน บุกยื่นหนังสือถึง "พิธา" ปม "รังสิมันต์ โรม" จะเปลี่ยนวันชาติ จาก 5 ธ.ค.ของทุกปี เป็น 24 มิ.ย. ยันรู้สึกไม่สบายใจ ทางพรรคค่ายส้ม ย้ำ แก้ไข ไม่ใช่ยกเลิก ม.112

วันที่ 2 ก.ค. 66 ที่พรรคก้าวไกล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หน้าพรรคก้าวไกล แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันเดินทางมายื่นหนังสือให้ตัวแทนพรรคก้าวไกล กรณี นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีวันชาติว่า จากวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ควรจะเปลี่ยนเป็นวันที่ 24 มิถุนายน นั้นทางกลุ่มรู้สึกไม่สบายใจและอยากจะออกมาปกป้องสถาบัน เนื่องจากเดิมวันที่ 5 ธันวาคม ก็ดีอยู่แล้ว จึงอยากจะยื่นหนังสือถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และว่าที่นายกฯ คนที่ 30 หรือตัวแทนของพรรค ว่ามีจุดยืนความคิดเห็นอย่างไรต่อกรณีของ นายรังสิมันต์ โรม ซึ่งระหว่างที่ยืนรอตัวแทนพรรคก้าวไกลออกมารับหนังสือ ปรากฏว่ามีคนที่ไปคาเฟ่พรรคก้าวไกล และมาให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการประชุม 8 พรรคร่วม ออกมายืนตะโกนพูดตอบโต้กัน บางคนบอกว่า นายพิธา ยังไม่ทันได้เป็นนายกฯ เลยจะรีบมาทำไม ทำไมต้องเลือกมาวันนี้ ใครสนับสนุนให้มา บางคนยื่นกล้วยและงูเห่ามาโชว์บอกว่า หิวเหรอ หิวแสงเหรอ ทำให้บรรยากาศวุ่นวาย และตำรวจต้องเข้ามาห้ามเหตุการณ์เพื่อกันความบานปลาย
...

ในเอกสารระบุว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในเวทีเสวนาหัวข้อ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ” ที่หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า “รอบนี้ฟ้าใหม่ ไม่ว่าประธานสภาฯ ก็คงจะไม่ใช่คนเดิม รวมถึงนายกฯ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจะชื่อพิธา เราจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง และเราจะได้เฉลิมฉลองวันที่ 24 มิ.ย. ในฐานะวันชาติด้วยกัน” นั้น ถ้อยความดังกล่าวได้สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมากว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่การล้มล้าง และสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองและคนในชาติหรือไม่ ในเอกสารระบุอีกว่า แม้ในภายหลัง นายรังสิมันต์ โรม จะให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เป็นความเห็นส่วนตัว และสิ่งที่พูดก็ไม่ต่างจากข้อมูลของนักประวัติศาสตร์คนอื่นๆ นั้นก็ยิ่งเป็นตอกลิ่มเพิ่มความขัดแย้ง เติมพื้นเข้ากองไฟ และหากพรรคก้าวไกลจะอ้างว่า ข้อมูลจาก นายรังสิมันต์ เป็นความเห็นส่วนตัว ยังไม่ใช่จุดยืนของพรรค พรรคก็จำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูแลให้สมาชิกพรรคยึดมั่นและดำเนินการใดๆ ที่ไม่เป็นไปตามมติพรรค โดยเฉพาะนายรังสิมันต์ เป็นสมาชิกที่มีบทบาทสำคัญในพรรค การดำเนินการ หรือแสดงความเห็นใดๆ สาธารณชนย่อมพิจารณาว่าเป็นท่าทีและจุดยืนของพรรค


ขณะที่ตัวแทนจากพรรคก้าวไกลลงมารับหนังสือ ยืนยันนโยบายพรรคคือดำรงในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอให้ยึดในนโยบายพรรค ส่วนเรื่องการพูดถึงของ นายรังสิมันต์ หากเข้าใจในรายละเอียดเป็นการพูดถึงประวัติศาสตร์ และทางพรรคให้ความเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเรื่อง มาตรา 112 หากฟังให้ชัดเจนคือการแก้ไข ไม่ใช่การยกเลิก.

