ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ นึกว่าจะหักมุม จบเอาดื้อๆ สุดท้ายก็ไม่ใช่ อย่างนั้น เมื่อมีข่าวว่า “เพื่อไทย” ยอมทิ้งเก้าอี้ ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติให้ “ก้าวไกล” มีข้อแม้ว่า หาก 8 พรรค 312 เสียง สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วไปไม่ถึงฝั่ง “เพื่อไทย” ขอเป็นแกนนำจัดรัฐบาลเอง

“ก้าวไกล” ก็ยังอยู่เหมือนเดิม

โอเคตามนี้นะ...

แต่พอฟ้าสางพระอาทิตย์โผล่ริมขอบฟ้า พลันฝันสลายไปทันที เมื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาปฏิเสธทันทีว่าไม่เป็นความจริง

ยังไม่มีการพบเจรจากันแต่อย่างใด เป็นข่าวปล่อยทำให้  “เพื่อไทย” เสียหาย เนื่องจากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อต่อรองอะไรทั้งนั้น

มีแผนเดียวคือหนุน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

ทำเอากองเชียร์งงกันเป็นไก่ตาแตก นึกว่าทุกอย่างจบลงด้วยดีไปแล้ว ใครที่ไม่เชื่อข่าวนี้ก็คุยทับเลย

“เป็นไปไม่ได้หรอก”

“เพื่อไทย” เพิ่งวางบิลไปหมาดๆ ว่าขอเก้าอี้ตัวนี้ ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันที่ 2 ก.ค. ก่อนที่จะเปิดสภาฯวันที่ 3 ก.ค.

จู่ๆจะไปยอมกันง่ายๆได้อย่างไร?

เสียหมา...แน่

อย่างที่มีการเคลื่อนไหวมาตลอด เพื่อต้องการเอาตำแหน่งนี้ของ “เพื่อไทย” นั้นมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

แต่มันเป็นแผนที่วางไว้อย่างเป็นการเป็นงาน มีทั้งลูกล่อลูกชน เพราะรู้ดีว่าหมากตานี้มีได้มีเสีย ทั้งขึ้นทั้งล่อง

สรุปแล้วได้มากกว่าเสีย

เพราะต้องไม่ลืมว่า “เพื่อไทย” นั้นไม่ต่างกับบริษัทที่มีเจ้าของเป็นนักธุรกิจการเมือง การดำเนินการทุกอย่างต้องคำนึงถึงกำไรขาดทุน

พูดง่ายๆว่าไม่ใช่เรื่อง “อุดม การณ์” ที่กินไม่ได้

...

แม้จะพลาดเป้าทำให้ “เพื่อไทย”  เข้าอันดับ 2 สร้างความผิดหวัง ไม่น้อย แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องศิโรราบ หรือหมดอาลัยตายอยาก

ด้วย ส.ส. 141 เสียงนั้น ยังผงาดในเชิงอำนาจได้

การประกาศว่าจะเดินทางกลับเมืองไทยในเดือน ก.ค. หลังจากเร่ร่อนมานานหลายปี เพราะเงื่อนไขและสถานการณ์ไม่อำนวย

ทั้งๆที่อยากจะกลับใจจะขาด โดยเฉพาะหลังจากที่ “น้องสาว” เป็นนายกรัฐมนตรีก็พลาดหวังมาแล้ว

เลือกตั้งปี 2562 ก็แพ้เกม ต้องรอค้างเติ่งมาถึง 2566 ที่หมายมั่นปั้นมือแล้วว่าต้องกลับมาให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม

ช่องทางที่เห็นและเป็นใจนั้นอยู่แค่คืบ

เพราะ “พิธา” นั้นถูกสอยไปไม่ถึงนายกรัฐมนตรีแน่

การคว้าเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติ บัญญัติจึงมีความจำเป็นเพื่อปูทางไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น

นายกฯภายใต้คอนโทรลก็กำลังทดลองงานพร้อมทำหน้าที่

“ก้าวไกล” ก็มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง ทางหนึ่งแยกตัวไปเป็นฝ่ายค้าน อีกทางหนึ่งเกาะขบวนร่วมด้วยช่วยกัน

แต่จริงๆแล้ว คงอยากให้ไปคนละทางมากกว่า!

“ลิขิต จงสกุล”