“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” ยันออกมารณรงค์แคมเปญ “หยุดทำร้ายผู้หญิง” เป็นการแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนใช้ความรุนแรง ไม่เกี่ยวประเด็นการเมือง ด้านรองโฆษกรวมไทยสร้างชาติ จี้ ก้าวไกลแสดงความรับผิดชอบ เรียกร้องสังคมออกมากระทุ้งไม่ให้เรื่องเงียบ
วันที่ 1 ก.ค. 2566 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีการนำสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาร่วมกันรณรงค์แคมเปญ “หยุดทำร้ายผู้หญิง STOP VIOLENCE AGAINST WOMEN” จากเหตุการณ์ ส.ส.ทำร้ายผู้หญิง ว่า แคมเปญรณรงค์ดังกล่าว เพราะตนเห็นข่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากผู้ที่กระทำการเป็น ส.ส.ถ้าเงียบไปไม่แสดงออกพรรคอื่นๆ หรือคนในแวดวงเดียวกันไม่แสดงออกเรื่องจะเงียบหายไป ดังนั้นจึงได้ออกมาแสดงจุดยืน และเห็นว่าเจ้าตัวได้ออกมาแสดงตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจึงต้องติดตามดูต่อไป เรื่องการคุกคามทางเพศ การใช้กำลังความรุนแรงกับสตรี หรือเพศใดก็ตามทุกพรรคการเมืองสามารถออกมาแสดงจุดยืนรวมกันในเรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้พรรคต้นสังกัดยังไม่ได้ออกมาดำเนินการใดๆ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนไม่อยากวิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินการของพรรคอื่น แต่สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และไม่อยากนำมาเป็นประเด็นในการขับเคี่ยวทางการเมืองอะไร แต่เราแค่ต้องการแสดงจุดยืนให้สังคมติดตาม ไม่ให้เรื่องเงียบเท่านั้น
“สำหรับผมคนที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้แทนราษฎรจะต้องมีจริยธรรมเหนือเกณฑ์ทั่วไป บางทีเราไม่ต้องการลงโทษโดยกฎหมายก็ได้ การแสดงความรับผิดชอบก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ทั้งนี้ต้องดูข้อเท็จจริงด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืออะไร เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่เราพยายามออกเสียงออกไปเป็นการแสดงจุดยืนในภาพรวมให้เลิกการคุกคามและใช้ความรุนแรงต่อสุภาพสตรีหรือกับเพศไหนก็แล้วแต่ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้หวังผลอะไร เพราะการเลือกตั้งก็ผ่านมาแล้ว” นายเอกนัฏกล่าว
...

ด้านนางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ที่ผ่านมาสังคมเคยเห็นว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์กับพรรคต้นสังกัดของ ส.ส.ที่ทำร้ายผู้หญิงดังกล่าว ก็ได้มีการดำเนินการตามมาตรการ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เมาแล้วขับ หรือ กรณีการล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้ตอนนี้ต้องตั้งคำถามว่า ในกรณีนี้ทำไมจึงไม่มีการดำเนินการอะไร หรือจะเป็นเพราะว่ากรณีของ ส.ส.ที่กระทำผิดคนนี้เป็น ส.ส.เขต หากทำตามมาตรการของพรรค อาจจะทำให้ต้องเลือกตั้งใหม่แล้วกลัวว่า ครั้งหน้าจะไม่ชนะหรือไม่ จึงยังไม่เห็นการแสดงความรับผิดชอบอะไรจากทางพรรค และเห็นว่า ส.ส.ดังกล่าวไม่มีคุณภาพเพียงพอที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯ เพื่อทำงานให้กับประชาชน
“มีคนบอกว่าเราหิวแสง แต่จุดประสงค์จริงๆ ของเราคือการแสดงจุดยืนในเรื่องความเท่าเทียมของบุคคลทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยุติการใช้ความรุนแรงต่อสตรี หรือบุคคลเพศใดก็ตาม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่าพรรคต้นสังกัดดำเนินการอะไร มีแต่เพียงการพยายามเบี่ยงเบนประเด็น สร้างกระแสเรื่องอื่น เช่น การไปดูวอลเลย์บอล หรืออะไรก็ตาม เหมือนพยายามจะกลบเกลื่อนเรื่องนี้ ดิฉันคิดว่าไม่โอเค จึงอยากเรียกร้องให้สังคมช่วยกันแสดงจุดยืน อย่าให้เรื่องนี้เงียบไป และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงต่อสตรี หรือบุคคลใดก็ตามขึ้นอีก” รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว