แกนนำ “พท.-ก้าวไกล” สงวนท่าที ชิ่งข่าวจบดีลแลกประธานสภาฯกับอยู่ต่อกอดคอร่วมตั้งรัฐบาล “ชัยธวัช” โบ้ยไม่รู้ข่าวออกมาจากไหน แต่เชื่อใจบิ๊ก พท.ไม่ได้พูด ให้รอ 2 ก.ค.ได้คำตอบ หวานใส่สัมผัสได้ถึงความจริงใจ ไม่กังวลเพื่อนจ้องแทงข้างหลัง “พิธา” ไม่เชื่อ พท.ตั้งแง่วางเงื่อนไข มั่นใจจบด้วยดี ดันประเทศชาติเดินหน้าไปได้ “ชลน่าน” เคลียร์ซ้ำไม่มีแผน 2 แผน 3 ยึดแผนเดียวหนุน ก.ก.ตั้งรัฐบาล ส่ง “พิธา” ขึ้นนายกฯ จะไม่เป็นเงื่อนไขให้การฟอร์มรัฐบาลล่ม “เศรษฐา” ย้ำหลักฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือให้แน่น ลุยงานไปด้วยกัน ดันสุดตัวหนุน “ทิม” ได้เป็นนายกฯก่อน ออกตัวยังไม่คิดเรื่องเสียบตำแหน่งผู้นำ “ประยุทธ์” ขอถอยห่างออกจากการเมือง รอเวลาได้รัฐบาลใหม่ การันตีกับทูตเยอรมัน ประเทศ ไทยเป็นประชาธิปไตย
จากกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่าตัวแทนพรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) บรรลุข้อตกลงโดยพรรค ก.ก.ได้ครองประธานสภาฯ แต่มีเงื่อนไขว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. และแคนดิเดตนายกฯ พรรค ก.ก.ไม่ผ่านด่าน ส.ว. พรรค ก.ก.จะยังคงอยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พท. ล่าสุดแกนนำทั้งสองฝ่ายต่างสงวนท่าที ยืนยันยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ให้รอฟังผลการหารืออย่างเป็นทางการ

...
“พิจารณ์ ”ปัดไม่เคยได้ยินเงื่อนไข พท.
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาสื่อมวลชน ช่างภาพจาก หลายสำนักมารอเกาะติดสถานการณ์อย่างคึกคัก หลังจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. มีรายงานข่าวว่าพรรคก.ก. และพรรคเพื่อไทย (พท.) มีข้อสรุปตำแหน่งประธานสภาฯเป็นของพรรค ก.ก. ส่วนพรรค พท.ได้รองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง โดยมีเงื่อนไขว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรค ก.ก.ไม่ผ่านด่าน ส.ว. พรรค ก.ก.จะยังอยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พท.ต่อไป ขณะที่บรรดาแกนนำพรรค ก.ก.ทยอยเดินทางเข้าพรรค ตั้งแต่ช่วง 10.00 น. อาทิ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ก.ก. โดยนายพิจารณ์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเงื่อนไขของพรรค พท.ว่า หากพรรค ก.ก.จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรค พท.จะจัดตั้งรัฐบาลเองว่า ยังไม่เคยได้ยินและไม่ทราบเรื่องนี้
“ชัยธวัช” ลั่น 2 พรรคไม่ทำ ปชช.ผิดหวัง
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรค ก.ก. และพรรค พท.ได้ข้อยุติแล้ว ในตำแหน่งประธานสภาฯว่า ตอนนี้พรรค ก.ก.กำลังรอนัดหมาย และกำหนดเวลาเพื่อจะพูดคุยกับพรรค พท.อย่างเป็นทางการอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 2 ก.ค. ควรจะเป็นแบบนั้น พรรค พท.และพรรค ก.ก.หวังว่าจะพยายามให้ได้ข้อยุติร่วมกัน ก่อนจะประชุมร่วม 8 พรรค ขอย้ำว่าทั้ง 2 พรรคยังไม่มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯอย่างเป็นทางการ เมื่อถามถึงสมการสูตรการจัดสรรตำแหน่งใน ครม. นายชัยธวัชกล่าวว่า ยืนยันจริงๆว่ายังไม่ได้พูดคุยกันเลย ที่ผ่านมามีเพียงแค่กระแสข่าวออกมาเท่านั้น ยืนยันว่าทั้งสองพรรคจะพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนไม่ผิดหวัง
โบ้ยไม่รู้ข่าวจบดีล 2 พรรคมาจากไหน
เมื่อถามว่า มีรายงานว่าพรรค ก.ก.จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ มีเงื่อนไขหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก.ก.ไม่สามารถขึ้นเป็นนายกฯได้ จะให้พรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวนี้มาจากไหน แต่เราเชื่อว่าพรรคพท.ไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น เพราะผลการเลือกตั้งชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรค ก.ก. เลือกพรรค พท. ต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่กลับมาฟื้นฟูประชาธิปไตย ดังนั้นเราต้องช่วยกัน ไม่ทำให้ความผิดปกติที่อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กลายเป็นเรื่องปกติ ยังเชื่อมั่นว่าทั้ง ส.ส.และ ส.ว.จะช่วยกันคืนความปกติให้ระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง ให้พรรคที่ได้รับชัยชนะเป็นอันดับหนึ่งจากประชาชน เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
เชื่อมั่น 8 พรรคไม่ปล่อยมือแม้โหวตลับ
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่หลังคุยกัน 8 พรรคร่วมฯในวันที่ 2 ก.ค.แล้ว และวันที่ 4 ก.ค. จะโหวตลับลงคะแนนเลือกตั้งประธานสภาฯ จะเป็นไปตามที่คุยกันไว้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ถ้า 8 พรรค การเมืองจับมือกันแน่น คงจะไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามต่อว่าตำแหน่งประธานสภาฯยังยืนยันหลักการเดิม ก่อนที่จะพูดคุยใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความต้องการส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นหลักการที่เป็นปกติในระบอบประชาธิปไตย ยังยืนยันว่าต้องรอผลสรุปจากการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการระหว่างสองพรรค เชื่อว่าจะจบได้ดี ทั้งสองพรรคเราทำงาน และตัดสินใจภายใต้ผลประโยชน์ของประชาชน ที่พร้อมจะจับมือไปด้วยกัน เมื่อถามว่า หากขั้วรัฐบาลเดิมเสนอชื่อเข้าชิงประธานสภาฯ จะป้องกันอย่างไรเพื่อทำให้เสียงไม่แตก นายชัยธวัชกล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่น ทั้งแกนนำและสมาชิกพรรคทั้ง 8 พรรค
ปิดปากแผนสำรอง ส.ว.คว่ำ “พิธา”
เมื่อถามว่าวางแผนไว้หรือไม่ หากนายพิธาไม่ได้ได้รับโหวตให้เป็นนายกฯ เพื่อให้ฝ่ายประชาธิปไตยยังเดินหน้าต่อไปได้ รวมไปถึงอาจไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.เพียงพอ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าคิดไปไกลถึงสถานการณ์วันนั้นเลย เฉพาะหน้าเมื่อผ่านการเลือกประธานสภาฯแล้ว ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น ยังเชื่อมั่นอย่างที่ได้ยืนยันไปข้างต้นว่า ส.ส.และ ส.ว. จะช่วยคืนความปกติให้การเมืองไทย ด้วยหลักการพื้นฐานว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง และรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.ได้จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างกรณีปี 62 ที่อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ ส.ว.ให้เหตุผลการโหวต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกฯ เป็นนายกฯ เพราะรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯได้ ส.ว.โหวตให้อย่างเป็นเอกภาพ
เมื่อถามว่าจะชี้แจงเพิ่มเติมนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 กับ ส.ว.อย่างไรเพื่อขอเสียงสนับสนุนและให้ ส.ว.โหวตตามหลักการ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ไม่ว่าจะแก้กฎหมายฉบับใด หรือเสนอกฎหมายฉบับใหม่ มีกระบวนการนิติบัญญัติปกติถ่วงดุลอยู่แล้ว ใช้เสียงส่วนใหญ่หาข้อยุติในสภาฯ อีกทั้งมีการตรวจสอบว่ากฎหมายฉบับใดไม่ผ่านสภาฯและขัดต่อธรรมนูญหรือไม่ อย่าเพิ่งกังวลไปล่วงหน้า หลักการสำคัญเกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯคือหลักการที่อิงกับผลการเลือกตั้ง
ไม่กังวลเพื่อนจ้องแทงข้างหลัง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีการแลกประธานสภาฯกับ รมว.คลัง นายชัยธวัชกล่าวว่า เป็นข่าวลือ รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เรื่องแบบนั้นมีการพูดไปโดยไม่ได้อิงจากข้อเท็จจริง เมื่อถามว่าวันที่ 2 ก.ค. จะได้ความชัดเจนประธานสภาฯใช่หรือไม่ และจะพูดคุยเรื่องรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า แน่นอน แต่คงไม่มีการคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี คงเตรียมพร้อมเปิดประชุมสภาฯ เพื่อเลือกประธานสภาฯ ส่วนกระบวนการการแบ่งงานกันทำในรัฐบาลชุดใหม่ เรามีการประชุมอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามถึงความกังวลว่าจะเกิดการแทงข้างหลังในการโหวตหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่กังวล ระหว่างขั้วเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยห่างกันมาก ทั้ง 8 พรรคมีกำลังแน่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลิก ยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนการประชุม 8 พรรคร่วมฯวันที่ 2 ก.ค. เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรค พท.รอเสียบตำแหน่งนายกฯสะท้อนว่าใน 8 พรรคมีเกมการเมือง นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปมองอย่างนั้น ยังเชื่อมั่นว่าเรายังทำงานร่วมกันด้วยความจริงใจ เอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
หวานหยดสัมผัสได้ พท.จริงใจ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีนักวิชาการบางคนวิเคราะห์ว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นเกมของพรรคพท.ที่ต้องการผลักให้พรรค ก.ก.เป็นฝ่ายค้าน จะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า สิ่งที่สัมผัสได้จากพรรค พท.อย่างจริงใจคือพรรค พท.และพรรค ก.ก.รวมถึงอีก 6 พรรคที่เหลือ เชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่าง 8 พรรค เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศและยังเป็นแบบนั้นอยู่ เมื่อถามถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า “อยากออกก็ออกไม่ได้ ”สะท้อนอะไรในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า คงต้องไปถาม นพ.ชลน่าน แต่เท่าที่ทำงานร่วมกัน เราจริงใจ และเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันดีที่สุด

“พิธา” ไปพิษณุโลกปัดปั่นเกมมวลชน
วันเดียวกัน ที่ จ.พิษณุโลก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. พร้อมคณะ อาทิ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ที่พรรควางตัวให้เป็นประธานสภาฯ นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 พรรค ก.ก. ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนที่เทคะแนนให้ ตั้งแต่ช่วงเช้าไปสักการะพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า จ.พิษณุโลกเป็นเขตยุทธศาสตร์ของพรรค ต้องรักษาแชมป์ เลือกตั้งที่ผ่านมาได้คะแนนเพิ่มขึ้นถึง 80% จากปี 62 เมื่อถามว่าเป็นการเล่นเกมมวลชนหรือไม่ นายพิธาตอบว่า เป็นเวลาเหมาะสม ถ้าไม่มาช่วงนี้ มีประชุมสภาฯแล้วจะเดินทางยาก ดู ส.ส.บัญชีรายชื่อมีกว่า 50 จังหวัด พยายามไปให้ครบทุกพื้นที่ รับฟังปัญหาไปด้วย ส่วนกรณีประธานสภาฯเชื่อจบได้ด้วยดี
ขึ้นรถแห่คึกขอบคุณชาวสองแคว
จากนั้นคณะของนายพิธาเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลกร่วมงานส่งท้ายเดือนไพรด์ ในการประกวดแมวภายใต้ธีม Happy Cat Happy Pride มีทั้งแมวไทยและแมวต่างประเทศเข้าร่วมประกวดส่งเสริมความหลากหลาย ส่งท้ายเดือน มิ.ย. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ต่อมาช่วงเย็นนายพิธาพร้อมคณะขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชน ไปเส้นทางเริ่มต้นจากห้างเซ็นทรัลพิษณุโลก ไปบนถนนสิงหวัฒน์ ถนนเอกาทศรถ วงเวียนรถไฟ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับ ส.ส.พิษณุโลก ที่ลานแอโรบิก สวนชมน่าน
ไม่เชื่อข่าว พท.ตั้งแง่มีเงื่อนไข
ช่วงเย็นนายพิธาให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงความชัดเจนตำแหน่งประธานสภาฯว่า ความชัดเจนการเจรจากับพรรค พท.ยังดีขึ้นเรื่อยๆ และยังเจรจาอยู่ ต้องรอวันที่ประชุมและประกาศเป็นทางการอีกครั้ง เลขาธิการพรรค ก.ก.ได้แถลงตามที่ได้พูดคุยกันในพรรค และได้เห็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท. และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัว พท.พูด ถ้าอ่านจาก 3 คนนี้ ทุกคนพูดตรงกันว่าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี คงต้องรอผล เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่มีข่าวออกมาในสถานการณ์แบบนี้พวกเราต้องฟังแต่ยังไม่เชื่อ ได้เช็กสื่อหลายสำนัก อ้างแหล่งข่าวไม่เชื่อว่าพรรค พท.จะมีเงื่อนไขออกมาแบบนั้น เป็นไปตามที่ นพ.ชลน่านและนายเศรษฐาพูด มีฉากทัศน์เดียวคือฉากทัศน์ที่เราจะไปต่อด้วยกันและตนขึ้นเป็นนายกฯ ตามเจตจำนงประชาชน หากยึดทั้ง 3 ท่าน คือมีอยู่ฉากทัศน์เดียวคือนายพิธาเป็นนายกฯ
น่าจบด้วยดี ประเทศชาติเดินหน้าได้
เมื่อถามว่า เลือกมา จ.พิษณุโลก เพื่อยืนยันชัดเจนหรือไม่ว่านายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องได้เป็นประธานสภาฯ นายพิธากล่าวว่า พรรคยืนยันไปแล้วเมื่อ 2 วันก่อนผ่านเฟซบุ๊กว่านายปดิพัทธ์เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ไม่ต้องลงพื้นที่ก็ยืนยันไปแล้ว คงไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่า ประเด็นที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้จะจบวันที่ 1 ก.ค.หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เชื่อว่าจบได้ด้วยดีในเวลาที่ต้องจบ ต้องให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ปกติสภาฯรับรองแล้ว จะมีรัฐทำพิธีวันที่ 3 ก.ค. เลือกประธานสภาฯวันที่ 4 ก.ค. และวันที่ 14-15 ก.ค. คงจะเลือกนายกฯมีขั้นมีตอนคงค่อยเป็นค่อยไปอย่างที่นายเศรษฐาพูดถูกแล้ว
ดักทาง รบ.ข้างน้อยมติมหาชนไม่รับ
เมื่อถามถึงกรณีมีแหล่งข่าวพรรค พปชร.ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.จะได้เป็นนายกฯคนที่ 30 นายพิธากล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นข่าว แต่หากเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องตรงกันข้ามกับตอนดีเบตว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ทั้งฝืนมติประชาชนและทั้งการบริหารจัดการไม่ได้ ที่บอกว่าจะยื้อเวลาหรือจะทำให้สภาฯแตกหรือมีงูเห่า เชื่อว่าประชาชนคงยอมไม่ได้ จากภาพที่ลงพื้นที่มาตลอดทุกคนต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วจริงๆ และอยากจะอยู่ข้างอนาคต เมื่อถามว่าส่วนเสียง ส.ว.ยังมั่นใจเหมือนเดิมหรือไม่ จะถูกดักทางว่าพรรคพท.จะได้ความเห็นชอบมากกว่าหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เสียง ส.ว.ยังมีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

โชว์ลอตเตอรี่เลข “971376”
ช่วงดึกวันที่ 29 มิ.ย. นายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กแท็กไปถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ระบุว่าก่อนเป็นนายกช่วยซื้อลอตเตอรี่แล้วโพสต์โชว์หน่อย ต่อมานายอานนท์ยังได้โพสต์ข้อความถึงการเข้าชมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงไทยศึกเนชันส์ ลีก 2023 ระหว่างไทยกับตุรกีของนายพิธาระบุว่า “แทนที่จะหาซื้อลอตเตอรี่...ไปดูวอลเล่” ตามด้วยข้อความ “ช่วยแก้ปัญหาปากท้องด้วย”
ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 30 มิ.ย. นายพิธาโพสต์รูปในช่องคอมเมนต์ใต้โพสต์ของนายอานนท์ เป็นรูปนายพิธา ถือลอตเตอรี่ชุดหมายเลข “971376” ทำให้บรรดาแฟนคลับของพรรค ก.ก.เข้ามากดไลค์และแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก บางข้อความระบุว่า “เจ้าอั้นเลขแล้วใครจะรับผิดชอบ” เป็นต้น
“ชลน่าน” เคลียร์ซ้ำไม่มีแผน 2–3
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวตกลงประธานสภาฯ กับพรรค ก.ก.เรียบร้อยแล้ว มีเงื่อนไขคือ หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก.ไม่สามารถเป็นนายกฯได้ จะยอมให้พรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า ไม่รู้ที่มาที่ไปของข่าวดังกล่าว วันที่ 29 มิ.ย. อยู่กับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ยังพูดคุยถึงแนวทางต่างๆที่จะไปเจรจากับพรรค ก.ก. รวมถึงกระบวนการเพื่อขอมติพรรควันที่ 3 ก.ค. ก่อนโหวตเลือกประธานสภาฯวันที่ 4 ก.ค. แปลกใจกับข่าวที่ออกมา น่าเป็นการปล่อยข่าวมากกว่า ยิ่งปล่อยข่าวว่าพรรค พท.จะไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พูดมาตลอดว่าพรรค พท.ไม่มีแผน 2 แผน 3 เราเคารพพรรคแกนนำ มีแผนเดียวคือสนับสนุนพรรคแกนนำและสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกฯเท่านั้น หากเราไปพูดถึงแผน 2 แผน 3 มันคือการสมมติ หากใช้คำว่า “ถ้า” จะถูกตีความเยอะ ฉะนั้นจะมาบอกว่าเราไปขอเป็นแกนนำอะไรต่างๆ ยืนยันมันไม่มีในสิ่งที่ได้พูดคุยกันและในสิ่งที่ตนได้สื่อสารออกไป
โอดแค่เปรียบเทียบถูกตีความผิด
นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า ตนคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก บางคนไปตีความสิ่งที่สื่อสารออกไปผิด ที่ให้สัมภาษณ์ว่าเปรียบประชาชนเป็นพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ให้มาอย่างไรเราต้องทำแม้ไม่เห็นด้วย เป็นการเปรียบเทียบให้ฟัง กลับไปตีความตนผิด กลายเป็นว่าไม่รักกัน มันไม่ใช่ไม่รักกัน การคลุมถุงชนไม่ใช่ว่ารักหรือไม่รัก จริงอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจมีไม่รัก แต่ถูกจับมาแต่ง บางครอบครัวเขาไม่เคยเจอกันเลย แต่ถูกจับมาแต่งเขาก็รักกัน เป็นคู่ชีวิตที่ยั่งยืน ความหมายของตนเพียงแค่จะต้องการให้เห็นความสำคัญของประชาชนว่าเขามอบอำนาจมาให้เราเหมือนพ่อเหมือนแม่ ดังนั้น เราเองไม่มีสิทธิที่จะไปคิดอย่างอื่นเลย ต้องการจะเปรียบเทียบเท่านี้ แต่อาจสื่อสารไขว้เขวต้องขออภัย พรรค พท.จะไม่เป็นเงื่อนไขที่จะไปทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ จุดมุ่งหมายคือการทำให้นายพิธาเป็นนายกฯให้ได้ และให้พรรค ก.ก.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ นี่คือสูตรเดียวของพรรค พท.ไม่มีการคิดอย่างอื่นเลย
จวกคนปล่อยข่าวตั้งเงื่อนไข
เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรค พท.ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 คน และเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลแทนหากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ นพ.ชลน่านกล่าวว่าเป็นการปล่อยข่าว ระดับแกนนำเองยังงงว่ามายังไง เพราะไม่ใช่ผลดีกับพรรคแน่นอน และคนที่ปล่อยข่าวมาอ้างตัวว่าเป็นแหล่งข่าวจากพรรค พท. อย่างนี้ยิ่งส่งผลไม่ดี ยิ่งทำให้เราตกเป็นจำเลยเข้าไปอีก ดังนั้น ขอย้ำอีกครั้งว่า พรรค พท.ยึดมั่นในฉันทามติของประชาชน สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ และพรรค ก.ก.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยที่พรรคพท.จะไม่เป็นเงื่อนไขในการที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ
พท.นัดจบปมประธานสภาฯ 3 ก.ค.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนประเด็นประธานสภาฯว่า จนถึงขณะนี้ทีมเจรจายังไม่ได้พบกับพรรค ก.ก. จึงยังไม่มีความชัดเจนใดๆออกมาจากการเจรจาของ 2 พรรค พรรค พท.จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคให้ได้ข้อยุติเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ค. และจะนำผลการประชุมไปหารือกับที่ประชุม ส.ส.พรรคเวลา 10.00 น. คาดว่าจะได้มติชัดเจนแล้วแถลงต่อสาธารณชน ส่วนการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลวันที่ 2 ก.ค. เป็นการประชุม 8 พรรค หารือการทำงานและดำเนินการร่วมกันของคณะเปลี่ยนผ่าน คงไม่มีเรื่องประธานสภาฯ ประเด็นประธานสภาฯในส่วนของพรรค พท.รอมติของกรรมการบริหารและที่ประชุม ส.ส. และจะชัดเจนวันที่ 3 ก.ค.

“เศรษฐา” แก้ปัญหาน้ำให้รู้ทำได้จริง
วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรค พท. พร้อม ส.ส.พรรค ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม รับฟังการดำเนินการและติดตามดูระบบการดำเนินการโครงการธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดของ อบต.บ้านผึ้ง จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นห่วงภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น เพราะฝนตกเหลือเพียง 100 กว่าวัน มาลงพื้นที่ดูการบริหารจัดการน้ำ แปลกใจ จ.นครพนมมีฝนตกมากแต่กักเก็บน้ำไว้ใช้ไม่ได้ ยังมีวิธีการบริหารจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งยังไม่ดีพอ เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรค พท.อาจได้บริหารกระทรวงเกษตรฯ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบว่ากระทรวงเกษตรฯจะจัดสรรอย่างไร แต่พรรค พท.มีฐานเสียงหลักคือประชาชนภาคอีสาน จึงอยากดำเนินการโครงการธนาคารน้ำใต้ดินโดยเร็ว เพื่อให้เห็นว่าพรรค พท.ทำได้จริง แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้ หากพรรคได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงนี้จะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาได้แน่นอน
ดันสุดตัว “พิธา” นั่งเป็นนายกฯ
เมื่อถามถึงข่าวที่พรรค พท.ยอมให้ประธานสภาฯกับพรรค ก.ก.และพรรค พท.จะจัดตั้งรัฐบาลกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ไม่ได้รับเลือกจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาเป็นนายกฯว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเลือกประธานสภาฯ คิดว่าจะจบลงด้วยดี เรายึดมั่นในหลักการฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันไว้และทำงานด้วยกัน เชื่อว่าประธานสภาฯจะออกมาด้วยดี กระแสข่าวเป็นเพียงแหล่งข่าว คงต้องรอฟังจากพรรค พท. โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะดีกว่าในฐานะคณะเจรจา และเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ได้ไปประชุมร่วมกับพรรค ก.ก.เรื่องเศรษฐกิจ เมื่อถามว่าถ้านายพิธาสะดุดไม่ได้เป็นนายกฯ นายเศรษฐาพร้อมรับตำแหน่งนายกฯหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ยังไม่ได้คิดตรงนั้น ต้องพยายามให้นายพิธาได้เป็นนายกฯก่อน เพราะพรรค ก.ก.ได้คะแนนเสียงมากกว่า เอาทีละขั้นตอนดีกว่า วันนี้ต้องเลือกประธานสภาฯให้ไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่ายก่อน และไปเลือกนายกฯให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ เพราะได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าจะไม่มีอุปสรรค
ส.ส.ฉะทีมเจรจาอย่าล้ำเส้นมติพรรค
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค พท.ยอมยกประธานสภาฯให้พรรค ก.ก.แลกกับการให้พรรค ก.ก.อยู่ช่วยสนับสนุนพรรค พท.เป็นนายกฯ หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. พลาดตำแหน่งนายกฯว่า ขอฟังคำชี้แจงจากคณะเจรจาก่อนเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ แต่โดยหลักแล้วคณะเจรจาต้องไปพูดคุยตามมติที่พรรค พท.เห็นพ้องกันคือ ประธานสภาฯต้องเป็นของพรรค พท. คณะเจรจาเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ไม่ใช่คนตัดสินใจ จะไปตกลงอะไรนอกกรอบจากที่ตกลงกันในพรรคไม่ได้ พรรค พท.ต้องได้ประธานสภาฯจะไปยกให้ใครไม่ได้ เมื่อถามว่าหากสุดท้ายแล้วพรรค พท.มีมติยกประธานสภาฯให้พรรค ก.ก.จริงๆ ส.ส.จะโหวตตามมติพรรคหรือไม่ นายพิเชษฐ์ตอบว่า ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ขอฟังคำชี้แจงคณะเจรจาก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน
“ชัยวุฒิ” แนะ “ปดิพัทธ์” ลดดีกรีตัวตึง
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีมีชื่อของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรค ก.ก. จะเป็นประธานสภาฯว่า เท่าที่ดูตึงๆไปนิดนึง มีความเป็นตัวตนเป็นตัวตึงหรือคนที่สู้ให้พรรคมากๆแล้วมาเป็นประธานสภา จำเป็นต้องลดบทบาทลงไป เพราะจะเป็นประธานที่ประชุม อันดับแรกต้องเป็นกลาง ประสานงานกับทุกพรรค จะราบรื่นหรือไม่ เรื่องยังไม่เกิดยังไม่รู้ ดูจากแนวทางในอดีต ถ้าตึงเกินไปอาจทำงานกันยาก อยากได้คนที่ทำให้สภาฯเดินหน้าได้ดีกว่า เพราะทางการเมืองขัดแย้งทางความคิดกันมาก ประธานสภาต้องใช้วุฒิภาวะประสานงานให้สภาเดินหน้าไปได้ ทั้งนี้หัวหน้าพรรค พปชร.ยังไม่มีส่งสัญญาณและยังนิ่งๆอยู่ รอดูสถานการณ์การเมืองไป ต้องรอดูพรรคร่วมฯที่ทำเอ็มโอยูกันจะไปได้ถึงวันเลือกนายกฯหรือเปล่า
“พรพิศ” เช็กความพร้อมรัฐพิธีเปิดสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯได้เตรียมความพร้อมสำหรับรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 ก.ค. โดยนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ เดินตรวจความเรียบร้อยรอบๆบริเวณอาคารรัฐสภา ขณะที่ฝ่ายสำนักประชาสัมพันธ์ ประกาศเสียงตามสายให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่นำรถออกจากอาคารภายในเวลา 20.00 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ในวันที่ 3 ก.ค. รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ส่วนวันที่ 4 ก.ค. ประชุมสภาฯนัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ 2 คน สำนักงานเลขาธิการสภาประเมินว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง หรืออาจเร็วกว่านั้น
เปิดขั้นตอนชิงเก้าอี้ประมุขนิติบัญญัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับขั้นตอนการเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ จะดำเนินการตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ พ.ศ.2562 หมวดที่ 1 ข้อ 5 วรรคหนึ่ง ให้เลขาธิการสภาฯเชิญสมาชิกผู้มีอายุสูงสุดในที่ประชุมเป็นประธานชั่วคราว เพื่อให้ที่ประชุมดำเนินการเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ตามข้อบังคับฯหมวด 1 ข้อ 6 ให้สมาชิกแต่ละคนมีสิทธิเสนอชื่อสมาชิกได้ 1 ชื่อ มีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 20 คน ให้ผู้ถูกเสนอชื่อ ตามวรรคหนึ่ง กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม โดยไม่มีการอภิปราย ถ้ามีการเสนอชื่อผู้ใดเพียงชื่อเดียว ให้ถือว่าผู้ถูกเสนอชื่อนั้นเป็นผู้ได้รับเลือก ถ้าเสนอหลายชื่อให้ออกเสียงลงคะแนนเป็นการลับ จากนั้นให้ประธานประกาศชื่อผู้ได้รับเลือกต่อที่ประชุม ก่อนดำเนินการตามข้อบังคับฯหมวด 1 ข้อ 7 เลือกรองประธานสภาฯ 2 คน ให้นำความในข้อ 6 มาใช้บังคับโดยอนุโลม และดำเนินการตามข้อบังคับฯหมวด 1 ข้อ 8 ให้เลขาธิการสภาฯมีหนังสือแจ้งไปยังนายกฯโดยเร็ว เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป

“บิ๊กตู่” ขอถอยห่างจากการเมือง
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ลาน Promotion ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิด “การใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยัน ตัวตนทางดิจิทัลและระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ” มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมงาน หลังเสร็จพิธี พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะยื่นใบลาออกจากเลขาธิการนายกฯว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ยังไม่ทราบว่าจะลาออกเมื่อไหร่ วันนี้ขอพูดแล้วกัน “ผมจำเป็นต้องถอยห่างออกจากการเมือง ฉะนั้นอย่ามาถามเรื่องการเมือง ช่วงนี้เราเดินหน้ามาสู่ช่วงเปิดรัฐสภา จากนั้นเลือกประธานสภาฯ เลือกนายกฯขอกำหนดบทบาทให้ชัดเจนว่า จำเป็นต้องถอยออกมาตรงนี้ก่อน จะทำเฉพาะเน้นเรื่องงานของรัฐบาล”
ให้คำมั่นการเมืองไทยเป็น ปชต.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเมืองว่ากันไป อย่าเอาตนไปทำให้มันเกิดปัญหาความขัดแย้งอีกเลย จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า การเมืองปล่อยให้เขาว่าไป ไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร.บ้างหรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่คุยอะไรกับใครทั้งสิ้น เมื่อถามว่าข้อเสนอที่สมาชิกพรรค ก.ก. เสนอเปลี่ยนวันชาติจากวันที่ 5 ธ.ค. เป็นวันที่ 24 มิ.ย.เหมาะสมหรือไม่นายกฯตอบว่า รู้อยู่แล้วจะถามทำไม ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีไม่หงุดหงิด ก่อนกลับมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปให้กำลังใจบอก “นายกฯสู้ๆ”
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเก- ออร์ค ชมิท เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับนายเก-ออร์ค ชมิทว่า ขอให้มั่นใจว่า การเมืองไทยจะเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยและหลักสิทธิมนุษยชน
เลขาฯนายกฯขออยู่จนวินาทีสุดท้าย
เมื่อเวลา 17.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เคยประกาศไว้ไม่มีวันทิ้ง “ลุงตู่” จะทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯจนวินาทีสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการทำหน้าที่นายกฯประเทศไทย วันที่ 30 มิ.ย. เป็นวันที่ตนยืนยันในคำประกาศ สำหรับตนไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในสถานะใด ก็คนเดิมและสถานะเดิมเสมอตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ต้องกังวล พรรค รทสช. มี ส.ส. มือเก๋าที่มีประสบการณ์สูงหลายคนที่ดูแลงานในสภาได้ไม่น้อยไปกว่าตน รวมทั้ง ส.ส.ใหม่ที่มุ่งมั่นตั้งใจ มีหัวใจเดียวกัน ไม่เป็นปัญหาอุปสรรคใดในการทำงานของพรรคในสภาในฐานะหัวหน้าพรรคไม่ได้หายไปไหน ยังคงทำหน้าที่กองหนุนและดูแลการทำงานของพรรค ส.ส. และของสมาชิกพรรคให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติของเราต่อไป
“ขิง” ยัน “พีระพันธุ์” สละเก้าอี้ ส.ส.
ต่อมาเวลา 19.03 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์ว่าภายหลังนายพีระพันธุ์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก จะอยู่ทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯทำงานจนนาทีสุดท้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ มีสื่อมวลชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามกันมากถึงเรื่องดังกล่าว เพื่อป้องกันความสับสน ขอยืนยันว่านายพีระพันธุ์ได้สละตำแหน่ง ส.ส. เพื่อที่จะปฏิบัติงานในตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ จนหมดวาระรัฐบาลรักษาการ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากนายพีระพันธุ์พ้นจาก ส.ส.จะส่งผลให้นายอนุชา บูรพชัยศรี ได้เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
“อนุทิน” โวธนาคารโลกมั่นใจไทย
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวภายหลังให้การต้อนรับ น.ส.เบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการ (ผจก.) ธนาคารโลก ประจำประเทศไทยว่า ผจก.ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย ได้สอบถามความคืบหน้าโครงการต่างๆเกี่ยวกับสาธารณูปโภคของกระทรวงคมนาคมที่พรรค ภท.กำกับดูแลมา 4 ปี เราขอให้เขาช่วยสนับสนุน ประเทศไทยต่อไปเพราะยังมีโครงการอีกมากที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก นอกจากนี้ยังพูดคุยเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน และการพัฒนาให้ทุกประเทศเติบโตไปสู่ความยั่งยืน ธนาคารโลกมีความมั่นใจประเทศไทยมาก แต่ไม่ได้สอบถามถึงสถานการณ์การเมืองของไทยใดๆ
เลื่อน ครม.หลบเลือกประธานสภาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ออกหนังสือแจ้งไปถึงรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง ประสานให้ทราบว่าการประชุม ครม.ครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันพุธที่ 5 ก.ค. เวลา 09.00 น. แบบครบองค์ประชุม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เลื่อนจากวันที่ 4 ก.ค.เนื่องจากมีความชัดเจนจากนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯออกหนังสือเชิญ ส.ส.เข้าร่วมประชุมสภาฯครั้งที่ 1 ในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสภา มีระเบียบวาระการประชุมเพื่อเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ
กังขา กกต.–ส.ว.เกี้ยเซียะสอย “ทิม”
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ทนายความ จ.บุรีรัมย์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาขอพบนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ว่า ต้องการมาหารือถึงแนวทางจัดการพฤติกรรมการร้องเรียนของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.ที่ยื่นเรื่องร้องกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรค ก.ก.ถือหุ้นสื่อตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และกรณีที่ ส.ว. 2 คน มายื่นอ้างว่าเป็นเอกสารเพิ่มเติมเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 113 และจะไปยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาตรวจสอบพฤติกรรมขัดรัฐธรรมนูญโดดมาเล่นเกมเอง ทำให้ความเป็น ส.ว.อาจจะสิ้นสุดลง รวมถึงที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.โอบกอด จับมือกันกับเลขาธิการ กกต.ถือเป็นพฤติการณ์ที่ไม่อายต่อฟ้าดิน สร้างความสงสัยเป็นพวกเดียวกันหรือไม่
ยื่นหลักฐานมัดพรรคแยกดินแดน
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง มัดตัวนักการเมืองและพรรคการเมืองที่สนับสนุนขบวนนักศึกษาแห่งชาติที่จัดกิจกรรมจัดทำประชามติขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่ ม.สงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า การจัดเสวนาของขบวนนักศึกษาสอดไส้กิจกรรมทำประชามติแยกตัวเป็นเอกราช ลำพังขบวนนักศึกษาแห่งชาติไม่อาจทำได้ หากไม่มีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง หากพิสูจน์ได้ว่ามีคนของพรรคการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติของแผ่นดิน