สะพัด กลุ่ม “เสี่ยต่อ” กุมความได้เปรียบเรื่องเสียงโหวตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ “นิพนธ์” บอกต้องคุยกันฉันพี่ฉันน้อง ย้ำ มีบทเรียนมาแล้วหลายครั้ง ตัวบุคคลเปลี่ยนได้แต่พรรคต้องอยู่

วันที่ 25 มิถุนายน 2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน แต่ส่วนตนคิดว่าหลังได้อ่านคำสัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (มิถุนายน 2566) แล้ว เห็นว่าแนวทางที่เสนอมาจะทำให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ การสร้างเอกภาพภายในพรรคเป็นสิ่งจำเป็น จึงเห็นด้วยกับแนวทางของนายอภิสิทธิ์ ถ้าไม่มีเอกภาพ เรามีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว 

นายนิพนธ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องตัวบุคคลว่า ในประชาธิปัตย์ใครก็ได้ มีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่วันนี้ต้องคุยกัน และต้องเห็นพ้องต้องกันก่อนว่า ถ้าจะแก้ปัญหาได้พรรคเรามีบทเรียนมาแล้วหลายครั้งหลายรอบว่าถ้ามันไม่มีเอกภาพ จะเดินไปข้างหน้าลำบาก ฉะนั้น การทำให้พรรคมีเอกภาพเป็นสิ่งจำเป็น ตนเห็นด้วย ถ้าคุยกันได้ก็ต้องคุยกัน เราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ทุกคนเป็นคนในพรรคด้วยกัน มีอะไรก็คุยกัน ในทางการเมืองไม่มีใครได้อะไร 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างก็คุยกันแบบพี่แบบน้อง เป็นเรื่องของคนภายในพรรค

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สื่อมวลชนหลายสำนักวิเคราะห์ตรงกันว่ากลุ่มของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ยังกุมความได้เปรียบเรื่องเสียงโหวตตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์ นายนิพนธ์ ตอบว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ฝั่งของใคร ทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ และตนเชื่อมั่นในประชาธิปัตย์ คิดว่าทุกคนคิดถึงอนาคตของพรรคเป็นหลัก ตัวบุคคลมาแล้วก็ไป แต่พรรคต้องอยู่ ซึ่งตัวบุคคลนั้นเราเปลี่ยนมาเยอะหลายยุคแล้ว 

...

หากย้อนไปตั้งแต่ตนเคยเป็นยุวประชาธิปัตย์ สมัย นายพิชัย รัตตกุล เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพิชัย ไป นายชวน หลีกภัย มา นายชวน ไป นายบัญญัติ บรรทัดฐาน มา นายบัญญัติ ไป นายอภิสิทธิ์ มา นายอภิสิทธิ์ ไป นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มา ซึ่งตัวบุคคลไปได้แต่พรรคจะต้องอยู่ ถ้าคิดว่าตัวบุคคลมาก่อนพรรค ก็เป็นคนละหลักการ แต่สำหรับตนที่เคยอยู่มาตั้งแต่สมัยยุวประชาธิปัตย์ คิดว่าตัวบุคคลเปลี่ยนได้แต่พรรคจะต้องอยู่ ฉะนั้นในฐานะที่เป็นพี่เป็นน้องกัน มีอะไรก็คุยกันฉันพี่ฉันน้อง คุยกันฉันมิตร