รรท.ผบก.ทล. จ่อลงดาบเชือดตำรวจทางหลวงช่วยราชการหลังสืบสวนพบผู้เข้าข่ายกระทำความผิด พร้อมจะนำข้อมูลหลักฐานที่นายวิโรจน์ จะมอบให้สตช.มาร่วมตรวจสอบด้วย และขอให้ตร.ทล.ทุกนายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และจากนี้จะประสาน ป.ป.ช. ป.ป.ท. และตำรจ ปปป. ร่วมตรวจสอบตามด่านชั่งน้ำหนัก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 66 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสืบสวนคดีส่วยสติกเกอร์ของตำรวจทางหลวง โดยระบุว่าในวันพรุ่งนี้ก่อนเวลา 13.00 น. จะลงนามในคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทางหลวงให้มาช่วยราชการ หลังจากสืบสวนแล้วพบว่าต้องสงสัยเข้าข่ายกระทำความผิด โดยเป็นการตรวจสอบจากบันทึกการจับกุมรถบรรทุกที่ผิดกฎหมายก่อนหน้านี้ ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะนำหลักฐานส่วยสติกเกอร์มาให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะนำมาตรวจสอบร่วมด้วย และยืนยันว่าจะทำคดีด้วยความจริงใจต่อกันในการประสานข้อมูลกับผู้ที่นำข้อมูลมาให้
สำหรับเรื่องนี้ถือว่านายวิโรจน์ เป็นคนจุดชนวนที่ดีในการตรวจสอบการทุจริต แต่หลังจากนี้รัฐบาลควรจะต้องจริงใจในการแก้ไขปัญหาร่วมด้วย อย่าให้เป็นวัฒนธรรมของทุกองค์กรว่าจะต้องจ่ายส่วย เพราะหากทำถูกต้องตามกฎหมายนั้นสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมามีคดีเรียกรับสินบนจะมีหลักฐานมัดแน่นทุกคดี ส่วนการสั่งการให้ตรวจสอบการรับผลประโยชน์แต่ละกองกำกับการของตำรวจทางหลวง จากการตรวจสอบรายงานแล้วพบว่ามีบางส่วนเกี่ยวข้องกับที่ได้สืบสวนคู่ขนานกันไป พร้อมกับเน้นย้ำให้ตำรวจทางหลวงทุกนายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากสังคมจับตามอง โดยหลังจากนี้จะมีการประสานกับ สำนักงานป.ป.ช. ป.ป.ท. ตำรวจปปป. และตำรวจทางหลวง ร่วมตรวจสอบตามด่านชั่งน้ำหนักซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ที่ได้รับข้อร้องเรียนมาว่าตาชั่งไม่ได้มาตรฐาน เพราะทั้ง 4 หน่วยงานนี้ แต่ละหน่วยงานมีความพร้อม และมีอำนาจในการดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่ในชั้นนี้ขอตรวจสอบแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในหน่วยงานตำรวจทางหลวงไปก่อน
...