“สาธิต ปิตุเตชะ” ย้ำแค่โพสต์เตือนให้สติ “ก้าวไกล” อย่าสุดโต่งเกินไป ให้มีภาวะผู้นำคุมมวลชนให้ได้ ยอมรับ เป็นห่วง ดันสุราก้าวหน้าทำคนไทยทุกกลุ่มเข้าถึง ชี้มีโทษต่อร่างกาย แต่เห็นด้วยทำลายทุนผูกขาด
วันที่ 4 มิถุนายน 2566 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี กรณีโพสต์และแชร์คลิปถามจุดยืน “ก้าวไกล กล้าไหม” ไม่เอาเสียงอดีต ส.ส. พปชร. ย้ายขั้วซบพรรคเพื่อไทย โหวตหนุน นายพิธา และเตือนอย่าสุดโต่งจนเกินไป ว่า ตนเองโพสต์เพื่อเตือนมวลชน เพราะการไปด่ากราดทุกคนที่เห็นต่าง ท้ายที่สุดจะเข้าตัวเอง การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน 100% พรรคก้าวไกลก็คงจะไม่ได้เสียงข้างมาก ยังต้องอาศัยเสียงจากทุกพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ใครที่เห็นต่างก็เห็นเป็นศัตรูหมด และท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลก็ต้องไปเป็นรัฐบาล จึงต้องทำให้เกิดความรักสามัคคี ไม่งั้นจะขับเคลื่อนยาก ส่วนจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลจะต้องบริหารและทำความเข้าใจพฤติกรรม ก่อนหน้านี้ก็จะเห็นชัดว่าทุกคนยังมีความเชื่อว่า ส.ว. 250 อย่างมีวุฒิภาวะ มีความคิดเห็นแตกต่างกัน การที่พรรคอันดับหนึ่งจะโน้มน้าวให้มาพูดคุยกันถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนจะได้เสียงพอหรือไม่ เป็นไปตามการปฏิบัติของพรรคที่ได้เสียงข้างมาก ถ้าเอาก้าวไกลและเพื่อไทยรวมกัน ก็ล้วนมีคอนเน็กชันในวุฒิสภา วันนี้ก้าวไกลต้องสะสมเสียงเพื่อให้ได้มากที่สุด
ส่วนที่ยกตัวอย่างพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ท้ายที่สุดก้าวไกลก็ยอมที่จะปล่อยมือ เพื่อทำตามเสียงของด้อมหรือกลุ่มคนที่สนับสนุนนั้น เข้าใจว่าหลักการของพรรคการเมืองในการหาเสียง ต้องอาศัยมวลชนและด้อมให้ได้คะแนนมากที่สุด แต่เมื่อชนะเลือกตั้งแล้ว โหมดมันเปลี่ยนไปสู่การบริหารประเทศ ที่จะต้องใช้ภาวะความเป็นผู้นำและความเป็นผู้ใหญ่ ต้องรับฟังเสียงทุกฝ่ายโดยไม่ละทิ้งจุดยืนของตัวเอง จะเอาจุดยืนของคนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มามัดรวมว่าไม่เอาเพราะเห็นต่างแบบนี้ไม่ได้ เพราะถือเป็นความคิดที่เด็กเกินไป จึงโพสต์เตือนพรรคก้าวไกลไปให้มีภาวะผู้นำและคุมมวลชนให้ได้
...
พร้อมย้ำว่า ไม่กลัวจะถูกด้อมหรือทัวร์มาลง เพราะตอนนี้ก็มาลงอยู่แล้ว แต่ตนเองไม่กลัวเพราะผ่านการเมืองมาเยอะ และสิ่งที่ทำที่แสดงความคิดเห็นออกไปคือการให้สติกับสังคมและประชาชนที่เป็นด้อม พร้อมทั้งเข้าใจว่าคนเชียร์มีหลายระดับ บางคนอาจจะเป็นกลุ่มชาวบ้านประชาชนทั่วไปที่จะยังรับรู้ข้อมูลได้ไม่ลึกและไม่ทั่วถึง ส่วนกลุ่มเชียร์ที่เป็นคนติดตามเมืองอย่างใกล้ชิดหรือแม้แต่กลุ่ม io ก็จะมีความคิดอีกอย่างหนึ่งซึ่งคนที่เป็น io หากเข้ามาแสดงความคิดเห็นก็จะถูกลบความคิดเห็นทิ้งไป แต่ส่วนคนที่มีตัวตนก็พร้อมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งตนเองเข้าไปตอบทุกคอมเมนต์ของคนที่มีตัวตน จึงไม่กลัวเรื่องนี้ แต่ห่วงประเทศหลังจากนี้มากกว่า เพราะประเทศจะต้องได้รับการบริหารประเทศจากคนที่มีประสบการณ์มีความรู้โดยเฉพาะ การจะเปลี่ยนผ่านการบริหารงานในหลายกระทรวงที่จะเอาคนรุ่นใหม่อายุน้อยเข้าไปบริหาร แต่บางกระทรวงจำเป็นจะต้องมีบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ไปนั่งบริหาร แต่ย้ำว่าวันนี้พรรคการเมืองจะต้องเป็นหลัก
นายสาธิต ยังแสดงความเห็นในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อกรณีการผลักดันนโยบายสุราก้าวหน้า ว่า ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อยากจะให้สติควรจะให้หลักการก่อน เพราะสุราและบุหรี่เป็นสิ่งที่ให้โทษกับร่างกายเราให้สิทธิคนที่บริโภค แต่การควบคุมเพื่อให้การเข้าถึงโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่สามารถซื้อสุราและบุหรี่ได้ รวมถึงมีการจำกัดเวลาในการซื้อขาย จึงฝากเตือนอย่าเอาสุราขึ้นมาเป็นเรื่องเสรี โดยขาดเหตุผลเรื่องสุขภาพ ขณะที่การทำลายเรื่องทุนผูกขาดตนเองเห็นด้วยที่จะทำลายทุนผูกขาด แต่รัฐบาลที่ผ่านมาได้แก้ประกาศของสรรพสามิตให้การผลิตสุราลดกำลังผลิตส่งเพื่อให้เหลือน้อย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข การจะผลิตสุราก้าวหน้าในแต่ละพื้นที่ ต้องให้สาธารณสุขไปตรวจว่าการผลิตถูกต้อง เป็นไปตามสุขาอนามัยหรือไม่ไม่งั้นการผลิตจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ขณะที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนเองคิดว่าดี แต่จะต้องมีการควบคุมให้ได้ว่ามีความปลอดภัย จะไปทำให้สุราไม่ถูกกฎหมาย และไปแข่งขันในตลาดก็จะเป็นปัญหาในการแข่งขันอีก
“การบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลจะไปส่งเสริมให้คนดื่มคนกินเหล้าไม่ได้เพราะในระบบสาธารณสุขพบว่ามีคนป่วยเป็นมะเร็งปอดและมะเร็งตับเป็นจำนวนมาก ซึ่งในหลักประกันสุขภาพต้องใช้เงินรักษาปีละ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาล จะต้องทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้ลดตัวเลขลงให้ได้ ไม่ใช่ไปส่งเสริมและเปิดให้เสรีจนคนเข้าถึง อย่าออกมาพูดว่าส่งเสริมให้คนดื่มสุรา แต่จะต้องพูดเพื่อให้คนดื่มสุราน้อยที่สุด จึงขอให้แยกเรื่องการทำสุราเสรีกับทำร้ายทุนผูกขาดออกจากกัน หากไปเอากระแสมาตีรวมกัน ผลสุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน”.