"ธนกร" บอก "พิธา" ควรพูดตรงไปตรงมา ปมให้หน่วยงานราชการมาพบ สังคมจับตาอยู่ แนะ ดูตัวอย่างนายกฯ ที่ดีจาก "ประยุทธ์" ยํ้า ส่วนตัวเอาใจช่วย "ก้าวไกล" เป็นรัฐบาลบริหารประเทศดู บอก ไม่อยากมองใช้มวลชนมากดดัน หรือสร้างกระแส  

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ทำเนียบฯ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเดินสายพบหน่วยงานต่างๆ ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในขณะนี้ว่า ตนคิดว่า ถ้าเป็นการไปพบหน่วยงานที่เป็นภาคเอกชนก็สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นส่วนราชการ ก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะวันนี้รัฐบาลยังอยู่ ข้าราชการก็อาจจะอึดอัด และที่ นายพิธา บอกว่า ข้าราชการขอไปพบเองนั้นก็ไม่ใช่ เพราะนายกฯ สอบถามกับข้าราชการแล้ว ก็ไม่มีใครไปขอพบเลย และเมื่อดูข้อเท็จจริงแล้วก็พบว่าทางพรรคก้าวไกลเองที่ไปขอพบกับหน่วยงานของราชการ เช่น องค์กาบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือเทศบาลต่างๆ ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการท้องถิ่น ดังนั้นจะเห็นว่าสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำมันต่างกัน ตนไม่อยากที่จะไปก้าวล่วง นายพิธา แต่บางครั้งเราก็ต้องพูดตรงไปตรงมา เพราะประชาชนจับตาดูอยู่ และ นายพิธาเอง ก็เป็นว่าที่นายกฯ เพราะฉะนั้นการพูดหรือการกระทำ มันจะหมายถึงตัวตนของนายพิธาด้วย

"วันนี้ผมคิดว่า นายพิธา เองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน ถ้าจะเป็นนายกฯที่ดีก็ต้องปรับตัว" นายธนกร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า นายพิธา บิดเบือนใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ได้บิดเบือน เพียงแต่ข้อมูลมันไม่ตรงกัน อย่างวันนี้ก็เห็นมีหนังสือจากพรรคก้าวไกลที่เชิญ อบจ.แห่งประเทศไทย มาพบ ซึ่งก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าหน่วยราชการไม่ได้เป็นผู้เชิญ แต่นายพิธาเชิญหน่วยงานเหล่านี้มาพบเอง

...

"ความจริงเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร หรือเสียหายอะไร แต่ควรพูดให้ตรงไปตรงมาและเหมาะสม ผมคิดว่าประชาชนชอบคนตรงไปตรงมา ผมว่าดูท่านนายกฯ อย่าง พล.อ ประยุทธ์ เป็นหลัก ว่าการที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีได้นั้นเป็นอย่างไร ที่ผ่านมานายกฯ ให้เกียรติทุกคนอยู่แล้ว ผมเองเอาใจช่วยอยู่แล้ว อยากให้พรรคก้าวไกล เป็นรัฐบาล ลองบริหารประเทศดู ว่านโยบายต่างๆ ของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะนโยบาย 100 วัน ทำได้หรือไม่ อย่างไร" นายธนกร กล่าว

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของ นายพิธา นอกจากเรื่องของข้าราชการแล้วมองมุมอื่นได้หรือไม่ เช่น อาจจะเป็นการใช้มวลชนมากดดัน หรือ สร้างกระแส นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่อยากจะมองอย่างนั้น แต่ก็ยอมรับว่าหลายหลายฝ่ายมองอย่างนั้น ตนไม่อยากให้ไปเคลื่อนไหวกดดัน ไม่ว่าจะเป็นมวลชน หรือโซเชียลมีเดีย และวันนี้จะเห็นว่าในโซเชียลมีเดียก็มีการเคลื่อนไหวกดดันคนที่มีความเห็นต่างแล้ว มวลชนที่เป็นเครือข่ายของพรรคก้าวไกลก็เริ่มบอกมาแล้วว่าต้องแสดงพลัง ถ้าไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งตนคิดว่าแบบนี้บ้านเมืองก็จะกลับไปสู่ความขัดแย้งอีก ตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น วันนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ทำมา ตนคิดว่ามันมาไกลมากแล้ว บ้านเมืองสงบแล้ว เศรษฐกิจก็ดีขึ้น หลายอย่างก็ดีขึ้น ทุกคนใช้ชีวิตตามปกติ ถ้ามีม็อบขึ้นมา มันก็จะไปไกลกว่านั้นอีก ซึ่งตนคิดว่ามันไม่ควร.