การขัดขวาง คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 30 จากการเลือกตั้ง กำลังไต่จุดพีกขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งที่การจัดตั้ง รัฐบาลผสม 8 พรรค กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ล่าสุด ส.ว.จเด็จ อินสว่าง ที่มีจุดยืนชัดเจนไม่ลงมติให้ คุณพิธา เป็นนายกฯ ได้มีข้อเสนอใหม่ที่เคยเป็นข้อเสนอเก่ามาก่อนคือ ให้ตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” จากทุกพรรคการเมืองรวมกัน รวมทั้ง พรรคก้าวไกล ที่ได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง 151 เสียง พรรคเพื่อไทย ที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับสอง 141 เสียง กับพรรคสองลุง พลังประชารัฐ 40 เสียง รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง แต่ยังไม่บอกว่าจะเสนอให้ใครเป็นนายกฯ จะใช่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้แต่งตั้ง ส.ว. เป็น “นายกฯรัฐบาลแห่งชาติ” หรือไม่
วันนี้ ความคิดของประชาชนคนไทยก้าวหน้าไปไกลแล้ว แต่ ส.ว.ยังยึดติดที่ตัวบุคคล
คุณจเด็จ กล่าวว่า ตนมีแนวคิดอยากเสนอในชั้น กรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ในฐานะรองประธาน ว่า สิ่งที่ตอบโจทย์การเมืองในตอนนี้ คือ “รัฐบาลแห่งชาติ” แต่ละพรรคนำข้อดีของตนเองมาร่วมทำเพื่อบ้านเมือง (คิดเหมือนกับ MOU ของ 8 พรรคการเมืองรัฐบาลใหม่เป๊ะ) สร้างความแข็งแกร่งของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โมเดลของตนคือ ให้ทุกพรรคนำส่วนที่ดีมาทำงานร่วมกัน ประสานประโยชน์ พุ่งเป้าไปที่ความมั่นคงของชาติ
เมื่อนักข่าวถามว่า ขั้นตอนแบบนี้จะเป็นไปได้หรือ ส.ว.จเด็จ ตอบว่า “สามารถงดเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราที่มีปัญหาได้ เพื่อเป็น ทางออก การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติ”
...
นักข่าวก็ถามว่า รัฐบาลแห่งชาติจะถูกพูดถึงเมื่อมีความขัดแย้ง แต่ขณะนี้ไม่มีสัญญาณความขัดแย้งใดๆ ส.ว.จเด็จ ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เกิดความขัดแย้ง การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ รัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม หากห้ามก็งดใช้” ก็ไม่รู้ท่านใช้ตรรกะอะไร
นักข่าวก็ถามย้ำว่า รัฐบาลแห่งชาติคือการรวมทุกพรรคการเมือง รวมทั้ง รวมไทยสร้างชาติ (ของลุงตู่) พลังประชารัฐ (ของลุงป้อม) เป็นรัฐบาลหมด ไม่มีฝ่ายค้านใช่หรือไม่? คุณจเด็จ ตอบว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ให้นำส่วนที่ดีมารวมกันเพื่อรักษาประโยชน์ จะทำให้ประเทศไทยแข็งแกร่งเจริญรุ่งเรือง”
นักข่าวก็ถามอีก พรรคก้าวไกล มีจุดยืน “มีลุงไม่มีเรา” จะทำให้โมเดลรัฐบาลแห่งชาติเกิดได้หรือไม่ คุณจเด็จ ตอบว่า “คิดแบบนั้น จะไม่มีคุณ ไม่มีผม และไม่มีเรา” ทางที่ดีต้องมารวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทางการเมือง
สรุปจากแนวคิดของ ส.ว.จเด็จ ก็คือ ท่านไม่ได้ตัด พรรคก้าวไกล ออกไปจากรัฐบาลแห่งชาติ แต่คงอยากให้ พรรคก้าวไกล ยกเก้าอี้นายกฯให้กับ “ใครบางคน” ที่ยังไม่ได้ระบุ เดาว่าอาจจะเป็น “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ในรูปแบบของ “รัฐบาลแห่งชาติ” เพื่อให้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯเท่ๆอีกสมัย แต่ฟังไอเดียแล้วก็ต้องอึ้ง ประเทศไทย จะต้อง “งดเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา” เพื่อเปิดทางให้ “คนบางคน” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยอย่างนั้นเชียวหรือ
นอกจาก ส.ว.จเด็จ อินสว่าง แล้ว ยังมี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฉายาเนติบริกร ที่ออกมาชี้ช่องกับสื่ออีกคน กรณี คุณพิธา ถูกร้อง กกต.เรื่องถือครองหุ้นไอทีวีในสองประเด็น
ดร.วิษณุ บอกว่า ถ้ามีการร้องประเด็นที่ 3 เรื่องสมาชิกพรรคด้วย ก็ต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ทั้งหมด อย่างในอดีตที่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา คุณทักษิณ ชินวัตร ไปกาลงคะแนนและมีคนไปถ่ายไว้ ซึ่งเกิดเหตุเพียงคูหาเดียว แต่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนั้นโมฆะทั้งประเทศ ฉะนั้นกรณีนี้ก็เช่นเดียวกั้น หากมีการเลือกตั้งซ่อมก็ต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ ฟังแล้วก็สะดุ้งกันไปทั้งประเทศเหมือนกัน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”