“พีระพันธุ์” ขอบคุณประชาชนและผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ปลื้ม ได้ ส.ส.รวม 36 คน ถือเป็นความสำเร็จ ยัน “พล.อ.ประยุทธ์” ยังเดินหน้าต่อในฐานะ ปธ.คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค
วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ และตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พร้อมระบุถึงการเดินหน้าทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ และอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ รวมทั้งกำลังใจ ความห่วงใย และการสนับสนุนทุกรูปแบบที่มีให้ตนเอง และพรรครวมไทยสร้างชาติตลอดมา
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการต่อสู้ในเขตเลือกตั้งทุกเขตมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามนานัปการ แต่การที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคสามารถฝ่าด่านเข้ามาได้ถึง 23 คน และได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 ในอีกหลายๆ เขต โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อ ที่ประชาชนเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติถึง 4,673,691 คะแนน เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทำให้ได้ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่ออีก 13 คน รวมทั้งสิ้น 36 คน ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรคที่เพิ่งก่อร่างสร้างตัว และใช้เวลาหาเสียงเสนอแนวทางของพรรคให้พี่น้องประชาชนในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 4-5 เดือน ขอให้ทุกท่านที่สนับสนุนพรรค แนวทางของพรรค มีกำลังใจและพลังใจที่จะร่วมกันเดินหน้าต่อไปเพื่อประเทศชาติที่รักของเรา

...
นายพีระพันธุ์ ระบุต่อไปว่า มีผู้สอบถามเข้ามามากถึงแนวทางและจุดยืนของพรรคในทางการเมืองในขณะนี้ ขอเรียนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังคงยึดมั่นในแนวทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประโยชน์ของประชาชน ตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรคเป็นสำคัญ พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมที่จะทำงานการเมืองเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าบนแนวทางเจตนารมณ์และอุดมการณ์อย่างแน่วแน่ มั่นคง และไม่เปลี่ยนแปลง
“ที่สำคัญ ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยังคงเดินหน้าทำงานกับพรรคต่อไปในฐานะ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค เพื่อเสริมสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติให้แข็งแกร่ง และเป็นพรรคหลักในการปกป้องและค้ำจุนสถาบันหลักทั้ง 3 ของประเทศ ตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค เป็นความหวังในคนไทยทุกรุ่นที่รักชาติรักแผ่นดินในแนวทางเดียวกันต่อไป”