“ศรีสุวรรณ จรรยา” จี้ พรรคก้าวไกลลงโทษ “ณธีภัสร์” เมาแล้วขับ ตามข้อบังคับพรรค หากเพิกเฉย ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอ กกต. พิจารณามีคำสั่งให้ กก.บห.พรรคก้าวไกล พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ
วันที่ 17 พ.ค. 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ส่งหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้แจ้งหรือสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง สืบเนื่องจากกรณี น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่ 27 โดนตำรวจจับเมาแล้วขับ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม และต่อมาพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรีได้ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญามีนบุรี ตามความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นอันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522
ทั้งนี้ จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษ มีกำหนด 2 ปี ให้คุมประพฤติจำเลยโดยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือน ภายในเวลา 1 ปี กับให้จำเลยทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรเป็นเวลา 12 ชั่วโมง และมีคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถของจำเลยเป็นเวลา 6 เดือนแล้วนั้น

...
นายศรีสุวรรณ ระบุต่อไป กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลย่อหย่อนต่อการปฏิบัติตามมาตรา 22 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 อย่างชัดแจ้ง ที่บัญญัติไว้ว่า ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฝ่าฝืนกฎหมายขึ้น คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลจะต้องมีมติหรือสั่งการให้สมาชิกยุติการกระทำนั้นโดยพลัน และต้องกำหนดมาตรการ หรือวิธีการที่จำเป็นเพื่อมิให้สมาชิกพรรคก้าวไกลผู้ใดกระทำการอันมีลักษณะดังกล่าวอีก และต้องรีบแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 7 วันด้วย
นอกจากนี้ การกระทำของ น.ส.ณธีภัสร์ ยังเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคก้าวไกล ปี 2563 ข้อ 25 (2) และ (6) โดยชัดแจ้ง แต่คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลกลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการลงโทษสมาชิกรายดังกล่าวโดยพลัน จะอ้างว่าศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษแล้วมิได้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ชี้ให้เห็นถึงการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามข้อ 39 (10) ของข้อบังคับพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องร้องเรียนไปยังนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ประกอบข้อบังคับพรรคก้าวไกลปี 2563 โดยพลัน หากพรรคก้าวไกลยังเพิกเฉย ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองนำความเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะต่อไป.