• พรรคเพื่อไทย ยังรอดูก้าวไกล เดินเกมเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยัน เปิดทางให้พรรค อันดับ 1 เต็มที่ ไปให้สุดทาง แต่ถ้าไม่ได้ค่อยมาว่ากัน 
  • วิเคราะห์! สนามเลือกตั้ง กทม.เพราะสาเหตุใด ทำพรรคเพื่อไทย แพ้ พรรคก้าวไกล แบบหมดรูป
  • ชัด พรรคเพื่อไทย"อุปทานหมู่" คิดว่า สู้ "ก้าวไกล" ได้ ความจริงไม่ใช่ ชี้ ไม่เร่งปรับตัวขนานใหญ่ ระวังกลายเป็น ปชป. 2 ในอนาคต 

แล้วเมื่อวาน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแขกรับเชิญ รายการ CareTalk การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ตอบคำถามจากประชาชน หลังพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งพรรคก้าวไกล และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน 2 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย และนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมา ย้ำจุดยืนให้พรรคก้าวไกล ที่ได้เสียงชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 จำนวน 152 เสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 

ประเด็นที่น่าสนใจ ที่นายใหญ่ทักษิณ บ่นถึง มีหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเอไอ ปั่นกระจายข่าว ในโซเชียลมีเดีย และขยายโดยเอไอ มีแอ็กเคานต์หลุมเป็นพันเพื่อกระจายข่าว และยังมีไอโอต่อเนื่องว่า จะตั้งรัฐบาลแข่งกับก้าวไกล ทั้งที่ น.ส.แพทองธาร นายเศรษฐา นพ.ชลน่าน ก็ประกาศ และได้ข่าวจะแถลงข่าวร่วมกันแล้ว ตนอยู่เมืองนอกตั้งนานมีดีลลับอะไร

...

หรือ กรณี พรรคเพื่อไทย "เอาหรือไม่เอา 2 ลุง" ร่วมรัฐบาล ทั้งที่พรรคก็พูดไปแล้วว่า "ไม่เอา" แต่คนก็ไม่เชื่อ

รวมถึงประเด็น ไม่สนอะไรแล้ว จะกลับไทย ภายใน ก.ค.นี้ ไม่เกี่ยว พรรคเพื่อไทยพ่ายเลือกตั้ง 

แต่ช่วงนี้ อยู่ในช่วงสำคัญ เพราะพรรคก้าวไกล ที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 เดินเกม จีบ 6 พรรคการเมือง เพื่อฟอร์มตั้งรัฐบาล ด้วยคะแนน 310 เสียง แต่ดูท่าจะไปติดที่ สมาชิกวุฒิสภา เนื่องด้วยกฎหมายกำหนดให้ส.ว. 250 เสียง เลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส. โดยตั้งได้คะแนนรวมทั้ง 2 สภา ที่ 376 เสียง 

ด่านหินเลยไปตกอยู่ที่ ส.ว. ขนาดที่พรรคก้าวไกล ถึงกับ "แบไต๋" หวังขอเสียงช่วยจากพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองอยู่คนละฟาก ให้มาช่วยฝ่าด่านตัวเลข 376 เสียง ปิดสวิชต์ ส.ว. ขนาดในโลกโซเชียล เกิด #มีส.ว.ไว้ทำไม 

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ หากพรรคก้าวไกลยังไม่สามารถตั้งรัฐบาล เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ นั่นเพราะหากพรรคที่ชนะเลือกตั้งได้คะแนน ส.ส.เป็นอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อย่าลืม ตามธรรมเนียมปฏิบัติของการเมือง และกฎหมายก็เปิดช่องให้ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้เสียงในการเลือกตั้งเป็น อันดับ 2 เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแทนได้ 

"แต่มันต้องเดินให้ถึงที่สุดก่อน แล้วไม่ได้ค่อยมาว่ากัน" เหมือนที่นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เกริ่นเอาไว้ 

ส่วนผลจะต้องไปถึงจุดนั้นหรือไม่ต้องรอดู เหมือนที่ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ แกนนำระดับสูงของพรรคเพื่อไทย และวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น ไว้ทั้งสนามเลือกตั้งทั่วประเทศ และสนามเลือกตั้งในเมืองหลวงอย่างกทม. ที่พรรคเพื่อไทยโดนกระแสฟีเวอร์ของพรรคก้าวไกล ถล่ม!

ยิ่งในส่วนของสนามเลือกตั้งกทม. เรียกได้ว่า นาทีนี้ "ค่ายสีส้ม" ส่งใครลงก็ได้เป็น ส.ส. "ส่งเสาไฟฟ้า" ลงก็ยังได้ เหมือนยุคหนึ่งที่ "พรรคประชากรไทย ของ นายสมัคร สุนทรเวช" หรือ "พรรคพลังธรรม" ของ "มหาจำลอง 5 ขัน" พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เคยทำได้มาแล้ว   

จนมีการยอมรับกันในพรรคเพื่อไทย ว่า ต้องเร่งปรับปรุงยุทธวิธีใหม่ทั้งหมด ไม่เช่นนั้น อนาคตพรรคเพื่อไทย อาจกลายเป็นพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก็เป็นได้  

ยังขอรอดู "ก้าวไกล" เดินเกมจัดตั้งรัฐบาล  

แหล่งข่าวระดับสูงพรรคเพื่อไทย กล่าวให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ ภายหลังปรากฏชัดพรรคก้าวไกลประสบชัยชนะเลือกตั้ง 2566 และกำลังดีลกับพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ส่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทยว่า "ต้องปล่อยให้พรรคก้าวไกลเขาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไป" ใครจะเข้ากับก้าวไกลได้ไหม ใครจะจับกับพรรคก้าวไกลได้บ้าง 376 เสียง แล้วจะเอาจากไหนล่ะ ต้องรอดูแป๊บหนึ่ง รอดูภาพ ยังไม่จบ เพราะมันไม่มีกฎหมายบังคับ ว่า ต้องตั้งรัฐบาลภายในวันไหน

วิเคราะห์ สนามเลือกตั้งกทม.ถึงสาเหตุพรรคเพื่อไทย แพ้ "ก้าวไกล" หมดรูป

แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีพรรคเพื่อไทย สนามเลือกตั้ง กทม.เหลือ เขต 20 แค่เขตเดียวหากให้มองสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง ในสนาม กทม.พรรคก้าวไกล คิดดู เอา "มาดามนครบาล" ไปเปรียบเทียบกับ "พิธา" มันไหวไหม คนนำมันไม่ใช่ การคัดเลือกคนก็ไม่ใช่ เอา "มาดามนครบาล" มา ภาพก็ไม่ได้บุคลิกก็ไม่ได้ แล้วแกไปคัดคนมา คนก็สู้ของ "พิธา" ไม่ได้ คุณภาพก็สู้ไม่ได้ หลังมาก้าวไกลก็ได้กระแสแรงมากด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ส.ส.เดิมมันไม่ควรตกไง ส.ส.เดิมก็ไปด้วย อย่างเขต 20 ที่ชนะก็ชนะแบบเฉียดฉิว 4 คะแนน ถ้านับใหม่อะไรใหม่ยังไม่รู้เลยว่าจะชนะหรือเปล่า คือ จากนี้ไปพรรคเพื่อไทยต้องปรับกันทั้งพรรค

ชัด "อุปทานหมู่" สู้ "ก้าวไกล" ได้ ความจริงไม่ใช่ ชี้ ไม่เร่งปรับตัวขนานใหญ่ ระวังกลายเป็น ปชป. 2

แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทย กล่าวกับ ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ ว่า พรรคเพื่อไทย เดินผิดแต่แรก 1 นโยบายพรรคเพื่อไทยไม่เวิร์ก นโยบายก้าวไกลมันทำง่ายกว่า แล้วคุณส่งคนไปดีเบตคุณก็แพ้เขาหมด แต่คุณก็ไม่เชื่อใคร คุณเชื่อตัวเองว่าชนะ ส่ง "หมอมิงค์" - "หมอเลี้ยบ" ไป มันสู้ไม่ได้ แต่พรรค แต่ทุกคนเชื่อกันหมดว่าสู้ได้ กลายเป็น "อุปทานหมู่" ผมบอกแต่แรกแล้ว ว่าไม่เวิร์ก แพ้แล้วโซเชียลมีเดียก็แพ้ มันเป็นเรื่องความคิดที่มันล้าหลัง แล้วมาสู้กับความคิดก้าวไกล ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ปรับคราวนี้ก็จะสูญพันธุ์นะ อันนี้ไม่ได้พูดเล่น อันนี้ต้องยอมรับตัวเอง ว่าตัวเองคือ "ประชาธิปัตย์ 2" แล้วตอนนี้ ถ้ายูไม่ปรับตัว ยูก็จะตายคล้ายประชาธิปัตย์ เหี่ยวไปเรื่อยๆ ถ้ายูรู้ตัวก็ต้องปรับ รื้อใหม่ทั้งหมด เพราะแสดงว่าที่ยูทำไปผิดทั้งหมด จากโพลนำ 200 กว่า มาแพ้ก้าวไกล วิธีการนำเสนอ วิธีอะไรแพ้หมดละ ยูหลอกตัวเองหมดละ

รอบนี้ อย่าว่าแต่"พรรคเพื่อไทย"เลย ที่ต้องมีแนวคิดรื้อปรับปรุงพรรคใหม่ทั้งหมด แต่น่าจะเป็นทุกพรรคการเมือง มากกว่า ที่ต้องมีการปรับตัวกันอย่างขนานใหญ่ หลังผ่านการเลือกตั้ง 2566 เพื่อในอนาคตจะได้สามารถเข้าไปนั่งในใจของประชาชนทั่วประเทศ และคนรุ่นใหม่ อย่างที่ "พรรคก้าวไกล" สามารถทำได้

 

ผู้เขียน:เดชจิวยี่

กราฟิก:sathit chuephanngam