“ทิม พิธา” ยกหู ชวน "ไทยสร้างไทย-เสรีรวมไทย-ประชาชาติ-เป็นธรรม" ร่วมรัฐบาล วันนี้ยังไม่คิดว่าจะจีบหรือไม่จีบ "ชาติไทยพัฒนา" เตือน อย่าเเทงสวนมติมหาชน ใช้วีธีเดียวกันกับซากเดนเผด็จการ
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายรังสิมันต์ โรม โฆษก และว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงประเด็นการหารือของ กก.บห.ก้าวไกล เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ว่า กรอบในเรื่องของการจับขั้ว มีการเอานโยบายมาคุยกันใน กก.บห. และรวมไปถึงแนวทางที่เราจะเดินกัน เบื้องต้นสอดคล้องกับที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แถลงไป คือ เบื้องต้นเราเน้นคุยกับเพื่อไทยเป็นหลักก่อน นอกจากนี้ ในวันนี้ นายพิธา จะประสานโทรคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ตามที่เคยแถลงข่าวไป เพื่อเชื้อเชิญในเรื่องของการมาร่วมรัฐบาล ก็จะมีพรรคไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย ประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม ก็เพื่อเชื้อเชิญเป็นรัฐบาลด้วยกัน ส่วนเรื่องว่าจะรวมได้ 376 เสียงหรือเปล่า อาจจะยังไม่เป็นประเด็น เพราะเชื่อว่าเสียงเท่านี้น่าจะพอ ที่จะทำให้เราเดินหน้าได้
เมื่อถามว่า ขั้วอื่นที่ไม่ใช่ฝ่ายค้านเดิม และเป็นพรรคที่ไม่เคยขัดแย้งกับก้าวไกล อย่างเช่น พรรคชาติไทยพัฒนา อยู่ในวิสัยที่คิดจะดึงมาร่วมหรือไม่ นายรังสิมันต์ ตอบว่า เราเน้นไปที่ฝ่ายค้านเดิมก่อน แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่ได้คิด ว่าจะเอาหรือไม่เอา แต่เราโฟกัสไปที่ฝ่ายค้านเดิมที่ทำงานร่วมกันมา เคมีเข้ากันได้ โฟกัสตรงนี้ก่อน แต่ถามว่าเราจะปิดโอกาสกับพรรคอื่นอย่างพรรคชาติไทยพัฒนาไหม ก็ยังไม่ได้มีความเห็นอะไรในตอนนี้ ซึ่งต้องดูอีกที เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่แค่เรา ต้องคุยกับพรรคเพื่อไทยด้วย เราต้องวางคอ วางแก่นเราให้เสร็จก่อน ส่วนใช้เวลาวางนานเท่าไหร่นั้น อีกสองสามวันคงจะได้เห็นว่า เราจะใช้เวลาเรื่องนี้นานเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีกำหนดเดดไลน์อย่างไร
...
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ต้องแยกกันระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล กับการปิดสวิตช์ มาตรา 272 ออกจากกันก่อน ตนคิดว่าวันนี้คนจำนวนมากไปติดหล่มความคิดว่าต้องได้ 376 เสียง เพื่อเพียงพอจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าเห็นว่ากระบวนการที่ให้ ส.ว.มาโหวตในเรื่องที่มันไม่ควร ทุกพรรคควรช่วยกันในการปิดสวิตช์ มาตรา 272 ซึ่งตนมองว่าเป็นคนละส่วนกับการจัดตั้งรัฐบาล คือคนเอาไปปนกันว่า ถ้าอย่างนี้ทำไมคุณไม่เอาภูมิใจไทยมา มันก็ไม่ถึง 376 สิ แล้วจะเลือกนายกฯ อย่างไร แต่ขั้นตอนเลือกนายกฯ มันเป็นขั้นตอนที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญมันสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ผ่านการเลือกของ ส.ว.นะ เหมือนกับถ้าเราไปเห็นด้วย หรือเอาด้วยกับแบบนี้ สุดท้ายเราก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เราเห็นด้วยกับมาตรา 272 หรือเปล่า ตอนนี้โดยหลักการถ้าวันนั้นเราแก้ 272 สำเร็จ วันนี้การเลือกนายกฯ ก็คือ มาตรา 251 นะ คือใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ ล่าง ในเมื่อเราบอกไม่เห็นด้วยกับ มาตรา 272 สิ่งที่เราควรทำคือช่วยกันปิดสวิตช์ มาตรา 272 แล้ว ใครจะมาจัดตั้งรัฐบาล มันเป็นรื่องของพรรคการเมืองที่เคมีตรงกัน นโยบายใกล้เคียงกัน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ควรจะเอา มาตรา 272 มาเป็นอุปสรรค ควรช่วยกันปิดสวิตช์ คือการเคารพต่อเจตจำนงประชาชน ที่เขาได้ใช้สิทธิผ่านการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พ.ค. สมมติว่าถ้าไม่ปิดกัน สุดท้ายมันก็ไปกันไม่ได้ สมมติพรรคอื่นจะมาบอกว่า พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้นั้น การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ไม่ได้เนี่ย มันไม่ใช่เพราะประชาชนไม่สนับสนุนก้าวไกลเพียงพอ แต่เป็นเพราะว่าซากเดนเผด็จการของ คสช.มันอยู่ในนี้ เชื่อว่าพรรคต่างๆ ถ้าคุณอยากจะมาบอกว่า เฮ้ย ก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เดี๋ยวกูจัดตั้งเอง คุณก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก พล.อ.ประยุทธ์ หรือเผด็จการ แบบนี้จะส่งผลสองอย่างคือ 1. มันเป็นการแทงสวนประชาชน จากมติมหาชน ที่ให้พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง 2. คือมันเป็นการทำให้ตัวเองมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยด้วย ถูกหรือไม่ จริงๆ ต้องบอกว่ามันรวมไปถึงการทำลายวัฒนธรรมทางประชาธิปไตย