ผลเลือกตั้ง 2566 พบปรากฏการณ์ “ล้มช้าง” ถล่มทลายในหลายพื้นที่ ทั้งนี้คำว่า ล้มช้าง ในทางการเมืองหมายถึงอะไร และมีพื้นที่ไหนโดนล้มช้างบ้าง เรารวมมาให้ดังนี้
ความหมายของล้มช้าง
ล้มช้าง หมายถึง การโค่นล้มผู้มีอิทธิพลได้ ดังที่เราจะเห็นได้จากผลเลือกตั้ง 2566 ในหลายพื้นที่ ที่เคยเป็นฐานเสียงของขั้วอำนาจเก่า หรือพรรคการเมืองเก่า ที่มีอิทธิพลต่อคะแนนเสียงจำนวนมากแทบทุกครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เรียกได้ว่ามีปรากฏการณ์ ล้มช้าง เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเบื้องลึกของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ของตน รวมถึงประเทศอีกด้วย
มีพื้นที่ไหนโดนล้มช้างบ้าง
1. กรุงเทพมหานคร
แม้ว่าผลเลือกตั้ง 2566 จะยังไม่เป็นทางการ แต่ผลการนับคะแนนของกรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต ก็มีคะแนนของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคน้องใหม่กวาดไปถึง 32 เขตแล้ว โดยพื้นที่เขตต่างๆ ในกรุงเทพฯ เดิมเคยเป็นของหลากหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย หรือแม้แต่พลังประชารัฐ ที่เคยได้ฐานคะแนนในการเลือกตั้ง 2562 ที่ผ่านมา การที่พรรคการเมืองน้องใหม่ที่ ส.ส. ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้คะแนนเสียงไปครองเกือบทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ ก็สะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ต้องการมุมมองใหม่ๆ ที่จะมาช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศให้ต่างไปจากเดิม
...
2. สมุทรปราการ
ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการมักจะเป็นพื้นที่ของตระกูล อัศวเหม แต่จากผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าปีนี้ พรรคก้าวไกล กวาดคะแนนนำทั้ง 8 เขตในจังหวัดสมุทรปราการไปครอง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุ ล้มช้าง มาจากที่ผ่านมาคนในพื้นที่ต้องวนลูปอยู่ในระบบเดิมๆ มานานเกินไป และไม่มีอะไรดีขึ้น การพัฒนาต่างๆ ไม่ได้เติบโตไปตามยุคสมัย นี่คือปัจจัยหลักที่ทำให้ประชาชนคิดว่าสมุทรปราการถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว เมื่อมีพรรคการเมือง หรือบุคคลที่อาสามาเปลี่ยน คนสมุทรปราการก็ยินดีให้ความไว้วางใจ
3. เชียงใหม่
ก่อนหน้านี้จังหวัดเชียงใหม่จะเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งก่อนที่กวาดคะแนนเสียงในทุกเขต แต่การเลือกตั้ง 2566 คะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการพบว่า พรรคก้าวไกล ชนะเลือกตั้งไปถึง 7 ใน 10 เขต ส่วนเพื่อไทยได้คะแนนเสียงไป 2 เขต และอีก 1 เขตกลายเป็นคะแนนเสียงของพรรคพลังประชารัฐแบบเหนือความคาดหมาย
4. เชียงราย
อีกหนึ่งจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยเคยครองพื้นที่เหมาทั้ง 7 เขต มาหลายสมัย สำหรับผลเลือกตั้ง 2566 มีการพลิกล็อก โดนพรรคก้าวไกลชิงพื้นที่ไปถึง 3 เขต โดยมีคะแนนนำแซงผู้สมัครจากเพื่อไทยที่หล่นไปอยู่อันดับสอง ปัจจัยที่ทำให้ก้าวไกลล้มช้างเพื่อไทยในบางเขตของเชียงรายได้ มาจากนโยบายของพรรคที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของคนในพื้นที่ รวมถึงการหาเสียงที่เข้าถึงกลุ่มชาวบ้านเพื่อพูดคุยให้มากที่สุด
5. อุบลราชธานี
เรียกได้ว่าผลเลือกตั้ง 2566 พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีในเขต 3 และเขต 10 ได้ถูกพรรคเล็กที่เป็นม้ามืดอย่าง พรรคเพื่อไทรวมพลัง ล้มช้างพรรคเพื่อไทยที่เคยมีอิทธิพลก่อนหน้านี้ไปได้อย่างถล่มทลาย โดยนายสมศักดิ์ บุญประชม ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 10 มีคะแนนทิ้งห่างจาก นายสมคิด เชื้อคง ส.ส. 3 สมัยของพรรคเพื่อไทย เกือบ 5 หมื่นคะแนน และนางพิมพกาญจน์ พลสมัคร ผู้สมัครในเขต 3 ที่ล้มแชมป์อย่าง นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.หลายสมัยจากเพื่อไทย จนรู้จักคำว่าแพ้เป็นครั้งแรก ซึ่งเธอเคยเป็นอดีต ส.จ.ที่มีความสนิทกับชาวบ้านในพื้นที่นี้ ช่วงการระบาดของโควิด-19 เธอก็วิ่งรับส่งคนป่วย พร้อมหายามามอบให้ถึงบ้าน ทำให้ได้ใจชาวบ้านที่ได้รับการบริการและดูแล ทำให้ชนะแชมป์เก่าหลายสมัยไปกว่า 9,000 คะแนน
6. นครศรีธรรมราช
เดิมทีในพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชจะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ทุกเขต แต่ผลเลือกตั้ง 2566 กลับกลายเป็นว่าคะแนนเสียงของประชาธิปัตย์ลดลงเหลือ 6 เขต ส่วนเขตที่เหลือกลายเป็นคะแนนเสียงของภูมิใจไทย 2 เขต พลังประชารัฐ 1 เขต และรวมไทยสร้างชาติอีก 1 เขต
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่พบว่าคะแนนเสียงเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เช่น ภูเก็ต ที่เคยเป็นพื้นที่ของประชาธิปัตย์ ก็กลายเป็นของก้าวไกล รวมถึงพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่งทั่วประเทศ ที่คะแนนพลิกจากพรรคใหญ่ พรรคเก่า ที่เคยมีอิทธิพลสูงกลายมาเป็นพื้นที่ของพรรคใหม่ หรือพรรคเล็ก แต่มีนโยบายตอบโจทย์ความต้องการคนในพื้นที่ รวมถึงวิธีการหาเสียงที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจผู้คนอย่างแท้จริง ทำให้คะแนนกลับมาพลิกล็อกจนสามารถล้มช้างได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน