“ศิธา ทิวารี” เดินสายขอคะแนนเข้าไปไล่เผด็จการ ลั่น ไม่ยอมให้ลุงคนไหนกลับเข้ามามีอำนาจ ด้าน “จินนี่” ลุยช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย หาเสียงอย่างต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย
วันที่ 13 พฤษภาคม 2566 น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายณัฐวัฒน์ พอใช้ได้ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 33 และนางนิธิสนี กลิ่นพันธหิรัญ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 32 ของพรรคไทยสร้างไทย ขึ้นรถแห่ปราศรัยขอคะแนนพี่น้องประชาชนย่านฝั่งธนบุรี โดยตระเวนไปถนนสายสำคัญ พื้นที่ทางเศรษฐกิจและชุมชน ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น พี่น้องประชาชนโบกมือทักทายส่งกำลังใจ เพื่อเชียร์ให้ น.ต.ศิธา ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 มีโอกาสเข้าสภาฯ ไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ทั้งยังมอบดอกไม้มอบน้ำดื่ม เพื่อไว้ใช้สำหรับตระเวนแห่หาเสียงในวันนี้ด้วย
ลั่น ไม่ยอมให้ลุงคนไหนกลับมามีอำนาจ
น.ต.ศิธา ย้ำว่า หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องการเห็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจับมือกันให้แน่น เพื่อเอาชนะฝ่ายเผด็จการ เพราะตลอดระยะเวลาหลังการยึดอำนาจกว่า 17 ปี ประชาชนต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส จากปัญหาการเมือง 2 ขั้ว โดยคณะรัฐประหารออกแบบกติกาที่เอารัดเอาเปรียบ เพื่อสร้างให้ตัวเองมีโอกาสเข้ามาควบคุมอำนาจการบริหาร โดยใช้ ส.ว. 250 คน เป็นกลไกในการเลือกตนเอง และพวกพ้องของตนให้เข้ามามีอำนาจ
“อยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนตระหนักเห็นปัญหาที่ผ่านมา และขอให้พี่น้องผู้รักประชาธิปไตย ออกไปร่วมกันแสดงพลังในวันพรุ่งนี้ให้มากที่สุด หากพี่น้องคนใดต้องการให้ผมเข้าไปต่อสู้ในสภาฯ สู้กับเผด็จการให้ราบคาบ และผลักดันนโยบายดีๆ ที่จะดูแลพี่น้องตั้งแต่เกิดจนแก่ ขอให้เลือกพรรคไทยสร้างไทยบัตรสีเขียว และ ส.ส. เขตทุกคนของพรรคไทยสร้างไทยบัตรสีม่วง เราจะเข้าไปไล่เผด็จการที่สืบทอดอำนาจมายาวนาน และยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยจะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้เผด็จการ ไม่พายเรือให้ลุงนั่ง และจะไม่ยอมให้ลุงคนใดก็ตามกลับเข้ามามีอำนาจอีกต่อไป”
...
“จินนี่” ช่วยย้ำนโยบายดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่
ทางด้านตลาดบางจาก เขตบางนา นางสาวยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ หรือ จินนี่ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคไทยสร้างไทย ลูกสาวของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายปณิธาน ประจวบเหมาะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 23 พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่วันสุดท้ายเพื่อขอคะแนนจากชาวบางนา โดยพ่อค้าแม่ขายและประชาชนที่มาเดินจับจ่ายหลายคนเข้ามาทักทายพร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และจำได้ว่าเป็นบุตรสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ จึงขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ นางสาวยศสุดา ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่จดจำตนเองได้ และเข้ามาทักทายพร้อมพูดถึงนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งพรรคพร้อมทำหน้าที่เป็นผู้รับใช้ประชาชนอย่างแข่งขัน และจะผลักดันทุกนโยบายให้สำเร็จเป็นรูปธรรม จากนั้นลงพื้นที่ตลาดบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ช่วย นายธวัชชวิน โกพัฒน์ตา ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขตเลือกตั้งที่ 6 ขอคะแนนเสียงจากนักท่องเที่ยว และพี่น้องประชาชน รวมถึงพ่อค้าแม่ขาย ย้ำว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเข้าไปผลักดันนโยบายที่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่
ชวนประชาชนจับตาการทำงาน กกต. ในวันเลือกตั้ง
ขณะที่ นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ขอย้ำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหน้าที่อย่างโปร่งใสและยุติธรรมในการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้ (14 พฤษภาคม 2566) เพื่อเคารพเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนคนไทยภายใต้ระบอบประชาธิปไตย หวังว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาข้อผิดพลาดและความผิดปกติแบบที่ผ่านๆ มา
“ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของ กกต. ดูน่าเป็นห่วง และประชาชนรู้สึกคลางแคลงใจต่อการทำงานของ กกต. เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเปิดให้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าที่เว็บมีปัญหา หรือการออกแบบบัตรเลือกตั้งที่สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง นอกจากนี้ในวันเลือกตั้งล่วงหน้า 7 พฤษภาคม 2566 ยังมีความผิดปกติในการลงคะแนน ที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้ใช้สิทธิว่าจะถูกตีให้กลายเป็นบัตรเสียหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการกรอกรหัสจังหวัด รหัสเขตเลือกตั้งหน้าซองบัตรที่พบความผิดพลาดในหลายพื้นที่”
โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ระบุต่อไปว่า ตามข้อมูลของ iLaw มี 5 ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในช่วงวันเลือกตั้งล่วงหน้า ประกอบด้วย
1. ไม่มีชื่อในระบบ ทั้งๆ ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิล่วงหน้าไว้แล้ว
2. ลงทะเบียนขอใช้สิทธิล่วงหน้า แต่กลับพบว่ามีคนมาลงคะแนนไปแล้ว หรือถูกสวมสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว
3. เจ้าหน้าที่ติดประกาศผู้รับสมัครเลือกตั้งไม่ครบทุกคน ทุกพรรค ในหลายพื้นที่
4. เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลเอกสารไม่ถูกต้อง แต่ละหน่วยมีแนวปฏิบัติไม่เหมือนกัน ไม่มีแนวทางจัดการที่ชัดเจน
5. เจ้าหน้าที่กรอกรหัสหน้าซองผิด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และกระทบต่อสิทธิผู้เลือกตั้งโดยตรง
ทั้งนี้ กกต. ควรเตรียมความพร้อมและจัดการเลือกตั้งให้มีความรัดกุมและรอบคอบมากขึ้น ขอฝากถึง กกต. ให้ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอให้พี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาตรวจสอบการทำงานของ กกต. ไม่ให้เกิดความผิดปกติที่อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของประชาชนได้