“วัชระ” ผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ จี้ กกต. เร่งอุดช่องโหว่หลังพบบัตรโล้น ป้องกันความเสี่ยงทุจริตเลือกตั้ง แนะ 3 ข้อ ดำเนินการด่วน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 นายวัชระ เพชรทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 29 (เขตบางแค-หนองแขม) พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่สำนักบริหารทั่วไป ฝ่ายกิจการทั่วไป ถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมแนบสำเนาข่าวลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 กรณีเลือกตั้งล่วงหน้าเจอบัตรเลือกตั้งโล้น
นายวัชระ กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าว นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์ความเห็นลงเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีการเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 โดยขอถามในฐานะคนไทยผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ใช่ในฐานะนักกฎหมาย หรือพนักงานอัยการ ถ้าดูบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต เทียบกับบัตรเลือกตั้งประธาน ก.อ. ที่ส่งให้พนักงานอัยการทั่วประเทศหย่อนบัตรใช้สิทธิเลือกตั้งประธาน ก.อ. อยู่ในช่วงเวลานี้ จะเห็นว่าในตัวบัตรเลือกตั้งประธาน ก.อ. จะมีลายเซ็นของเจ้าพนักงานถึง 3 คนลงชื่อกำกับในบัตรเพื่อความโปร่งใสและความสบายใจของผู้ใช้สิทธิ แต่วันที่ไปเลือกตั้งล่วงหน้ามา พบว่าบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต มีเพียงหมายเลขกับช่องด้านหลังหมายเลขให้กากบาท โดยไม่มีหมายเลขบัตร ไม่มีลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ ไม่มีชื่อพรรค และไม่มีชื่อผู้สมัคร ส.ส. ขอถาม กกต. ช่วยอธิบายเหตุผลที่ทำบัตรเลือกตั้งแบบโล้นๆ ตอบชัดๆ ให้คนไทยผู้เป็นเจ้าของสิทธิเจ้าของเสียงทั่วประเทศได้สบายใจ
นายวัชระ กล่าวต่อไปว่า กรณีนี้เป็นที่ประจักษ์ว่าบัตรเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามข้อสังเกตของรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเสี่ยงว่าผู้จะทุจริตการเลือกตั้ง อาจนำบัตรเลือกตั้งมาสับเปลี่ยนกับของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และไม่มีทางรู้หรือไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าประชาชนในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาใช้สิทธิตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงหรือไม่ ดังนั้น ในฐานะประชาชนและผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ขอเรียกร้องให้ กกต. พิจารณาดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงการทุจริตการเลือกตั้งบัตรเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และบัตรเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก่อนประชาชนลงคะแนน ดังนี้
...
1. ออกคำสั่งด่วนให้ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทุกจังหวัด อย่างน้อย 3 คน ต้องร่วมลงชื่อในบัตรเลือกตั้ง
2. ให้เขียนหมายเลขต้นขั้วบัตรเลือกตั้งกับบัตรเลือกตั้งให้ถูกต้องตรงกัน
3. ออกมาตรการ/วิธีการอื่นที่ กกต. เห็นสมควรที่จะสามารถป้องกันการทุจริตสับเปลี่ยนการเลือกตั้งบัตร ส.ส. ทั้ง 2 แบบ
“หาก กกต. ไม่ดำเนินการเนื่องจากปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต จะขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะหากไม่มีการลงอัตลักษณ์หรือป้องกันการทุจริต คะแนนของพี่น้องประชาชนจะสูญเปล่า และเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงกับเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวน 5,945 ล้านบาท จึงขอให้เร่งดำเนินการตามหน้าที่และกฎหมายโดยเร็วที่สุด”