อดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นำ "เสรีรวมไทย" อ้อนชาวกรุง อย่าเทใจไปกับกระแส ฉะ "ส.ว." บางคน อย่าเล่นเกมการเมือง จนบ้านเมืองเสียหาย เหตุ จะไม่โหวตเลือกนายกฯ

เมื่อ 12 พ.ค. 66 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่หาเสียงช่วงสองวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยวันนี้ลงพื้นที่ในฝั่งธนบุรี กทม. คือ ตลาดศาลาน้ำเย็น, ตลาดบางกอกน้อย ขึ้นรถปราศรัยหาเสียงบนถนนจรัญสนิทวงศ์และย่านบางขุนนนท์, ถนนเจริญรัถ, ไอคอนสยาม และตลาดวัดชัยฉิมพลี เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม. ฝั่งธนบุรีและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยประชาชนตอบรับการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายเป็นอย่างดี

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค. นี้ คนไทยกว่า 52 ล้านคน จะได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ขอให้ทุกคนไปลงคะแนนกันด้วย และอย่าลืมผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ในสี่ร้อยเขตเลือกตั้งกับบัตรสีม่วง รวมทั้งบัตรสีเขียว เบอร์ 25 สำหรับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนชาว กทม. ที่มีสิทธิลงคะแนนราว 4.4 ล้านคนเศษ ขอให้ลงคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรคทั้งสามสิบสามเขต และลงคะแนนให้ตนในบัตรสีเขียว เพราะชาวกทม. คือหนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมทางการเมือง และมีบทบาทสูงที่จะช่วยกำหนดอนาคตประเทศในสี่ปีข้างหน้า

...

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ตนขอให้ชาวฝั่งธนบุรีในวันนี้ ที่ตนได้พบและแนะนำตัวว่า ขอคะแนนทุกพื้นที่ให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ และพรรคด้วย เพราะประชาธิปไตยต้องมีความหลากหลายทางความคิด อย่าคล้อยตามกระแสนิยมในตอนนี้ ขอให้พิจารณานโยบายพรรคสิบสี่ข้อ และแคมเปญเสรีมีไว้ลุยนั้น ตนยืนยันว่า พรรคเสรีรวมไทยจะเป็นหนึ่งในหลักประชาธิปไตยของประเทศในสี่ปีข้างหน้าและอนาคต ยืนยันจะไม่สร้างหนี้ให้ประชาชนสิบล้านล้านบาทแบบรัฐบาลชุดนี้ดำเนินการ เพราะนโยบายพรรคสิบสี่ข้อกลั่นจากประสบการณ์ของตนกับแกนนำพรรครวมทั้งการฟังปัญหาของประชาชนเพื่อมาวางนโยบาย จนหลายพรรคยังลอกนโยบายของพรรคตนไปใช้

"กระแสการเมืองตอนนี้ที่สองพรรค คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล หาเสียงนั้น ขอให้ได้คะเเนนเยอะๆ นั้น อาจทำให้พรรคของตนได้รับผลกระทบ แต่ขอฝากประชาชนให้ลงคะแนนให้พรรคของตนด้วย พรรคของตนไม่มีนายทุนที่ต้องตอบแทน และตนไม่เอาเผด็จการ คราวที่แล้วบางพรรคมาชวนตนให้ไปร่วมตั้งรัฐบาลโดยเสนอตำแหน่งและเงินหลายร้อยล้านบาท แต่ตนปฏิเสธ เพราะตนยืนฝั่งประชาธิปไตย จุดยืนของตนคือตรงนี้ ดังนั้นขอฝากประชาชนลงคะแนนให้พรรคของตนทั้งสองบัตรด้วย" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าว

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ล่าสุด พบว่า ส.ว. บางคนบอกว่า อาจจะงดออกเสียงในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น อย่าลืมว่า เลือกตั้งครั้งที่แล้วและครั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว. มีส่วนร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่กี่วันข้างหน้า ส.ว. จะลงมติตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่ ส.ว. บางคนระบุไว้นั้น ขอเตือนว่า ส.ว. อย่าเล่นการเมืองจนบ้านเมืองเสียหาย ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยนั้นเกิดจากนักการเมืองเคารพเสียงประชาชน เพราะผลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ คือ ฉันทามติของประชาชน พรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งควรได้สิทธิตั้งรัฐบาล พรรคอื่นๆ ไม่ควรดำเนินการแข่งขัน หากใครไปตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคอันดับหนึ่งนั้น มันไม่ใช่ลูกผู้ชายและอย่าเกเร เพราะหากทำแบบนั้นการเลือกนายกรัฐมนตรีจะทำไม่ได้ รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะรักษาการไปเรื่อยๆ และอาจใช้เวลาดังกล่าวตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปก่อน แล้วค่อยไปติดต่อ ส.ส. ที่ไม่มีอุดมการณ์มาร่วมตั้งรัฐบาลจนเป็นเสียงข้างมาก

"ประเมินแล้วพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นอันดับหนึ่งและต้องแก้เกมนี้ และควรไปตัดปัญหาของ ส.ว. บางคน โดยต้องแยกพลเอกประยุทธ์ ออกจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้ได้ หากปล่อยไว้แบบนี้ เมื่อถึงเวลา พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร จะจับมือกัน โดย ส.ว. จะมารวมตัวกันอีก และเกมจะเปลี่ยนไป ตรงนี้ฝากพรรคเพื่อไทยมองเกมนี้ด้วย ส.ว. บางคนทำแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองและขัดขวางประชาธิปไตย ยังสนับสนุนเผด็จการ และที่ผ่านมา พวกตนยังนำ ส.ว. เหล่านี้ออกไปไม่ได้ วันนี้ประชาชนควรพิจารณาและตำหนิ ส.ว. เหล่านี้" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว...