"แรมโบ้" ตอกกลับ "วิโรจน์" อย่าเอา"ลุงตู่" มาเปรียบเทียบทางการเมืองกับ "ก้าวไกล" เหตุคนละชั้น มีประสบการณ์ ผลงานมากกว่า ส่วน "พิธา" ถือหุ้น ITV ว่ากันไปตามกฎหมายเมื่อมีผู้ร้องเรียน
วันที่ 11 พ.ค. 2566 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แกนนำพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความ “ประกาศชัดโค้งสุดท้ายเหลือแค่แข่งกับลุงแบบดวลตัวต่อตัวแล้ว” ว่า “หากคำว่า “ลุง” หมายถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ตนเองมองว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่คู่แข่งกับพรรคก้าวไกล เพราะคนละชั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ มีอะไรดีกว่าพรรคก้าวไกลมาก ทั้งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แก้ไขปัญหาให้ประชาชนมาแล้วหลายเรื่อง ทำเพื่อประชาชนหลายอย่าง และมีนโยบายที่จะทำต่อ อีกทั้งเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองมา
ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ ถือเป็นคนที่ปกป้องสถาบัน ไม่เหมือนกับพรรคก้าวไกลที่มุ่งเน้นแต่จะคิดร้ายต่อสถาบัน ปฏิรูปสถาบัน ซึ่งตนเองมองว่า ประชาชนที่ออกมาปกป้องสถาบัน มีอยู่เกือบทั้งประเทศ ไม่เลือกก้าวไกลแน่นอน แต่จะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ นายวิโรจน์ อย่าเอามาเปรียบเทียบเป็นคู่แข่งทางการเมืองเลย เพราะก็เห็นอยู่แล้วว่า ใคร พรรคไหน ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนเขารู้ว่าจะต้องเลือกพรรคการเมืองที่ทำประโยชน์ให้เขาอย่างแท้จริง และเขาคงไม่เอาพรรคการเมืองที่ไม่หวังดีต่อสถาบันอย่างแน่นอน
พรรครวมไทยสร้างชาติ เน้นหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่เน้นหาเสียง แบ่งเขาแบ่งเรา หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะทุกคนเป็นพี่น้องร่วมแผ่นดิน ซึ่งต่างจากพรรคก้าวไกล ซึ่งวิธีคิดแบ่งเขาแบ่งเรา ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่แล้ว ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองแน่นอน
...
อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติ ชัดเจนในเรื่องของปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทย แต่พรรคก้าวไกลกลับมีนโยบายที่จะแก้หรือยกเลิกมาตรา 112 เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีสามารถโจมตี ทำลายสถาบัน ได้ง่ายขึ้นใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ ไม่ต้องปากดี มาท้าดวล “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” หรอก เพราะบ้านนี้เมืองนี้เป็นของคนไทย รู้เช่นเห็นชาติพรรคก้าวไกลหมดแล้วว่า คิดยังไงกับสถาบัน และคนไทยทั้งประเทศเคารพเทิดทูนสถาบัน จะไม่ยอมให้ใครหรือพรรคการเมืองใดทำลายเด็ดขาด จุดยืนของพลเอกประยุทธ์ ชัดเจนในการปกป้องสถาบันหลักของบ้านเมืองคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จิตใจมั่นคงตลอดมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
นายวิโรจน์ และคนของพรรคก้าวไกล คงออกอาการว่า พลังของคนไทยทั่วประเทศและพลังเงียบ จะหลั่งไหลออกมารวมพลังไปเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ให้พรรครวมไทยสร้างชาติ มากมายมหาศาล เพื่อสั่งสอน พรรคการเมืองที่มีรากความคิดเปลี่ยนแปลงสถาบันหลัก และคิดทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของประเทศ เพื่อสั่งสอนพรรคการเมืองนั้นให้เข็ดหลาบ และเตือนสติพรรคก้าวไกล ว่า อย่าคิดร้ายต่อสถาบันหลักของชาติอีกต่อไป
ส่วนเรื่องกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังถือหุ้นสื่อไอทีวี ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องเรียนไปนั้น ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาตรวจสอบว่า ยังถือหุ้นสื่อไอทีวีหรือไม่ ถ้าถือหุ้นอยู่ก็ขาดคุณสมบัติการสมัคร ส.ส. ต้องถูกตัดสิทธิหรือไม่ ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป เรื่องนี้ก็ควรว่ากันตามกฎหมาย ตามเนื้อผ้า เมื่อมีผู้ร้องเรียน กกต.ก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบพิจารณาตามกระบวนการ ไม่ได้เกี่ยวกับว่านักร้องไปกลั่นแกล้งเล่นงานนายพิธา บรรดาคนของพรรคก้าวไกลอย่าทำตัวเหนือกฎหมาย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้ง แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของนายพิธา และทีมกฎหมายพรรคก้าวไกลที่ไม่รอบคอบเอง เคลิ้มไปกับกระแส จนลืมตรวจสอบคุณสมบัติตัวเอง คนไทยทุกคนทราบดีว่า แผ่นดินไทยศักดิ์สิทธิ์ ใครคิดไม่ดีต่อบ้านเมือง ต่อสถาบัน กฎแห่งกรรมอาจจะตามทันไม่ต้องรอชาติหน้า เจอกันที่ชาตินี้แหละครับ” นายเสกสกล กล่าว .