เถียงกันไม่หยุด “ณัฐชา” อัดเป็นคุณสมบัติเฉพาะของ ปชป. ที่ต้องเสือกเรื่องครอบครัวคนอื่น ตอก “แทนคุณ” เรื่องอื้อฉาวในพรรคถึงไหนแล้ว “เขตรัตน์” แจง เรื่องสัมปทานค่าไฟมาจากยุค “ยิ่งลักษณ์”

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ที่ลาน Parc Paragon รายการไทยรัฐดีเบต “เลือกตั้ง 66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์กับไทยรัฐ” โค้งสุดท้ายบนเวทีดีเบตไทยรัฐ 2566 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ และ น.ส.อรชพร ชลาดล กับ ศึกชิงดำ ส.ส. กทม. “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์?” 

เมื่อถามถึงหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ตอนนี้กำลังโดนหลายดอก นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 27 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แน่นอนคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ย่อมมีมารมาผจญ เมื่อถามถึงหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่ามั่นใจแค่ไหน จะซ้ำรอย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เคยเจอหรือไม่ ว่า ถือเป็นเรื่องเดิมๆ เรื่องนี้นายพิธาได้ชี้แจงไปแล้ว และได้พูดคุยกับ ป.ป.ช. ไปแล้ว อีกทั้ง ไอทีวี ได้ปิดไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องราวต่างๆ ถือเป็นเกมสกปรก ย่อมมีมารผจญคนที่กำลังจะขึ้น แต่ถ้าผมเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คงเสียใจ (พร้อมชี้มือไปที่ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 8 พรรคประชาธิปัตย์) ว่า เพราะชมคนอื่นตลอดเลย แต่ไม่ชมหัวหน้าพรรค นายแทนคุณ จึงแย้งว่าขออย่าบิดเบือน เพราะเป็นคำถามว่าถ้าไม่เลือกหัวหน้าพรรคตัวเองจะเลือกใคร พร้อมเอ่ยถึงกรณีของ ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ ที่เคยกราบเท้าขอโทษ นายพิธา 

พิธีกร กำลังห้ามทัพ ระหว่างนาย แทนคุณ จิตต์อิสระ พรรคประชาธิปัตย์ กับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ พรรคก้าวไกล บนเวทีไทยรัฐดีเบต
พิธีกร กำลังห้ามทัพ ระหว่างนาย แทนคุณ จิตต์อิสระ พรรคประชาธิปัตย์ กับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ พรรคก้าวไกล บนเวทีไทยรัฐดีเบต

...

ด้าน นายณัฐชา ระบุว่า “มันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะใครจะอยู่พรรคนี้ได้ต้องเสือกเรื่องครอบครัวเขา เพราะว่าในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีรักซ้อนซ่อนเงื่อนกันเยอะ” ซึ่งทำให้พิธีกรต้องมาห้ามทัพทั้งคู่ เพราะทั้งคู่ยังเถียงกันไปมา 

นายแทนคุณ กล่าวว่า ตนเองทำงานสิทธิสตรี LGBT จึงรับคนแบบนี้ไม่ได้ นายณัฐชา จึงกล่าวว่า ขอให้ฉายแววคุณสมบัติพรรคประชาธิปัตย์ให้เต็มที่ และขอให้ นายแทนคุณ ไปปกป้องสิทธิสตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ก่อนดีกว่า คดีล่วงละเมิดโดยพรรคประชาธิปัตย์ไปถึงไหนแล้ว 

นายแทนคุณ จึงตอบว่า ไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่มีใครปกป้องเขา และผมไม่เคยปกป้อง ทำให้พิธีกรต้องมาห้ามทัพอีกครั้ง และขอให้ทั้งคู่ใจเย็น

เมื่อถามว่าเรื่องหุ้นสื่อของนายพิธา จะมีผลกับพรรคก่อนเลือกตั้งอย่างไร นายณัฐชา บอกว่า ไม่มี เพราะเคลียร์ทุกอย่างหมดแล้ว และเคยชี้แจงและตรวจสอบมาแล้ว นายพิธาเคยเป็น ส.ส.มาแล้ว 4 ปี แต่เพียงวันนี้มีกระแสและเข้าใกล้เส้นชัย จึงมีมารมาผจญ เมื่อถามว่าคิดว่าจะสกัดดาวรุ่งหรือไม่ นายณัฐชา บอกว่า เป็นภารกิจของนักร้องเฉยๆ และเชื่อว่าวันนี้คนที่จะยุบพรรคก้าวไกล ต้องคิดถึงต้นทุนที่สูญเสียไปด้วย โดยเฉพาะแรงศรัทธาจากองค์กรยุติธรรม เหมือนตอนยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ไปทำลายความหวังของประเทศไทย จนมีคนออกมาชุมนุมจำนวนมาก หากจะยุบให้รู้ไป

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย มีคดีหรือไม่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 16 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในอนาคตค่อยว่ากัน เพราะตอนนี้ต้องเลือกตั้งให้แลนด์สไลด์ไปให้ได้ก่อน ไม่ต้องไปคิดเยอะ ว่าใครจะยุบไม่ยุบ เพราะยุบไปมันเหมือนเอาปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ เพราะตอนนี้เชื่อว่าคนเลือกเพื่อไทยไปแล้วทั้งประเทศ 

เมื่อถามถึงพรรคไทยสร้างไทย เรื่องลงถนน จะมีการเกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 14 พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ว่าจะเคารพเสียงประชาชนอีกหรือเปล่า หากพรรคไหนได้เสียงอันดับ 1 ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล และหากเป็นพรรคเสียงข้างน้อย แล้วใช้ เสียง ส.ว. จะทำให้สถานการณ์บานปลายได้ ดังนั้นฝั่งประชาธิปไตยต้องจับมือกัน และจะมาเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งให้ถล่มทลายไม่ได้ เพราะ ก้าวไกล เสรีรวมไทย ไทยสร้างไทย ประกาศชัดเจนแล้วว่า ไม่เอา 2 ลุง มาเป็นนายกฯ ก่อนจะไปจับมือกับเพื่อไทยและก้าวไกล

เมื่อถามว่า จะสลัดภาพ พรรคเพื่อไทย สาขา 2 ได้หรือยัง นายตรีรัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยบอกชัดเจนว่าเป็นพรรคที่ไม่มีนอมินี และเจ้าของพรรคเราเป็นประชาชน จึงไม่ใช่สาขา 2 ของใครทั้งสิ้น แต่เป็นพรรคที่อยากทำการเมืองดีๆ ไม่ใช่ของครอบครัวใด และพร้อมจับมือทุกพรรคที่เป็นฝั่งประชาธิปไตย 

ด้าน นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวยืนยันว่า พรรคมาจากการเลือกตั้ง จึงขออย่าวาดภาพว่าจะมีการยุบพรรคเกิดขึ้น เพราะเป็นการมโนจิตและคิดไปก่อน เพราะทุกวันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยังไม่อนุญาตให้เราแก้เรื่องค่าไฟเลย เพราะถือว่าเป็นการหาเสียง ทั้งที่จริงแล้วคือการเยียวยา

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ตอนที่เป็นนายกฯ 8 ปี ทำไมไม่ทำ ทำให้นายตรีรัตน์ เสริมอีกว่า ตอนที่มี ม.44 ทำไมไม่ทำ ทั้งเรื่องยาเสพติด นายเขตรัฐ กล่าวว่า 8 ปีนายกฯ ทำอะไรมาเยอะ แต่มองไม่เห็น ส่วนเรื่องค่าไฟเพราะเป็นช่วงหน้าร้อน จึงมีค่ากินเปล่าเกิดขึ้น หากมีอำนาจจริงๆ ก็สามารถบอก กกต. ว่าขอให้ค่า FT เป็น ศูนย์ได้แล้ว เพราะฉะนั้น กกต. กับรวมไทยสร้างชาติ จึงขอให้แยกออกจากกัน เพราะเราไม่ได้ใช้อำนาจในการหาเสียง หรืออะไรเลย

เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ พรรครวมไทยสร้างชาติ
เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ พรรครวมไทยสร้างชาติ

นายตรีรัตน์ จึงแย้งว่าเพราะไปเซ็นให้เจ้าสัวรวยจากสัมปทานค่าไฟ นายเขตรัตน์ จึงแย้งว่า สัญญาเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนรัฐบาล คสช. ทำให้ นายจิรายุ ใช้สิทธิพาดพิงว่า ไม่คิดว่าจะใช้หลักการเดียวกัน คือโทษรัฐบาลชุดที่แล้ว และ 8 ปี ทำไมไม่ทำ นายเขตรัตน์ จึงกล่าวว่า ไม่ได้กล่าวว่าเป็นความผิดใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะสัญญาที่ผูกเงื่อนมาจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ และทางกฎหมายตีความแล้วว่าไม่สามารถฉีกสัญญานี้ได้ แต่ถามว่าอยากจะแก้ไหม ยืนยันว่าอยากจะแก้ นายจิรายุ จึงกล่าวว่าใช้ ม.44 มาตั้งหลายเรื่อง เรื่องนี้เด็กๆ

ทำให้พิธีกรต้องมายุติประเด็นนี้ ก่อนจะให้สิทธิ นายแทนคุณ ที่ถูกพาดพิงไปก่อนหน้านั้น

โดย นายแทนคุณ ได้ขอใช้สิทธิพาดพิงเรื่องอดีตรองหัวหน้าพรรคที่ลาออกไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ และติดตาม ว่ามีการใช้อิทธิพลเข้าไปแทรกแซงคดีหรือไม่ โดยสามารถไปตรวจสอบดูได้ อีกทั้งมองว่าการเป็นนายกฯ ไม่ใช่การเป็นนายกฯ ของพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นของทั้งประเทศ จึงต้องสง่างาม อีกทั้งเรื่องสิทธิสตรี LGBT ก็สำคัญ

นายณัฐชา จึงแย้งว่าเรื่องของพรรคตัวเองรอศาลตัดสินก่อน แต่ของพรรคอื่นต่อว่า นี่เป็นคุณสมบัติจริงๆ ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ 

ทำให้ทั้งคู่เกิดการโต้เถียงกันอีกครั้ง และพิธีกรมองว่าเป็นเรื่องของคนอื่น ขอให้ทั้งคู่หยุด และให้โทรหรือไลน์ไปคุยกันนอกรอบแทน

ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี